โอกาสยากที่ พท.ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

สถาบันพระปกเกล้า 16 มี.ค. -นักวิชาการชี้กติกาเลือกตั้ง 66 ทำให้ “บ้านใหญ่” บวกกระแสพรรคได้เปรียบ ยอมรับเพื่อไทยคะแนนนำโด่ง แต่ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ยาก เชื่อกระแสมีผลมากกว่ากระสุน


นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงกติกาใหม่กับพฤติกรรมการหาเสียงและลงคะแนนการเลือกตั้ง ในการเสวนา “เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” ว่า ตามกติกาการเลือกตั้งปี 66 เปลี่ยนไปจากกติกาเลือกตั้งปี 62 มาเป็นระบบบัตร 2 ใบ ซึ่งในปี 62 “บ้านใหญ่” ต่าง ๆ ทำให้พรรคการเมืองประสบความสำเร็จไม่น้อย จึงทำให้พรรคการเมืองให้ความสำคัญกับ “บ้านใหญ่” โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ซึ่งต้องรอดูว่า พรรคการเมืองที่ดึงบ้านใหญ่ไป สามารถเติมกระแส นโยบายเพิ่มเติมได้หรือไม่ ซึ่งหากใครกระแสมากกว่าก็จะทำให้ได้รับชัยชนะ

ส่วนที่ผลการสำรวจความเห็นประชาชนหรือโพลระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ นายสติธร กล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นโพลของสำนักไหน ซึ่งโพลที่ทำมาขณะนี้ยังไม่ละเอียด และนามสกุลของผู้สมัครหรือชื่อผู้สมัคร พรรคเพื่อไทย อาจจะเป็นที่คุ้นเคยมากกว่า จึงอาจทำให้ได้เปรียบ และโพลที่ออกมาเป็นโพลที่วัดความนิยมแบบรวม ๆ ซึ่งขณะนี้ชัดเจนว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดดเด่น แต่เวลาไปเลือกตั้งจริง คะแนนจะไปปรากฏที่บัญชีรายชื่อ


“วันนี้มีส่วนแบ่งเพียง 100 ที่นั่ง สมมติว่า หากพรรคเพื่อไทย หรือ น.ส.แพทองธาร ได้ความนิยมร้อยละ 40 ก็จะได้ประมาณ 40 ที่นั่ง ดังนั้น ต้องรอดูโพลที่ไปทำแบบละเอียดรายเขต จึงจะตอบได้ว่า 400 เขต ภาคไหนได้เท่าไหร่ และต้องดูว่า ความกระจายตัวและจำนวนของกลุ่มตัวอย่างเพียงพอหรือไม่ แต่ช่วงเวลาที่พอจะรู้ว่าผลโพลจะสะท้อนคะแนนเลือกตั้งได้ชัดเจนขึ้น ต้องรอหลังลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว เพราะขณะนี้เขตเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน บางพื้นที่ยังมีคนเสนอตัว 2-3 คนด้วยซ้ำ จึงยังไม่นิ่ง ผมเชื่อว่ากระแสหลังสมัครรับเลือกตั้งจะไม่ค่อยต่างจากวันลงคะแนน หากคนประทับใจกับอะไรในวันสมัครรับเลือกตั้ง ก็จะลงคะแนนตามนั้น เว้นแต่จะมีกระแสที่พลิกแผ่นดิน” นายสติธร กล่าว

ด้าน น.ส.ถวิลวดี บุรีกุล รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อการเลือกตั้งปี 66 ว่า กระแสทางการเมืองยังเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญสำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ที่จะทำให้ประชาชนตัดสินใจในวินาทีสุดท้าย เพราะความจริงแล้วประชาชนมีพรรคการเมืองในใจที่เรียกว่าความศรัทธาและความเชื่อมั่นอยู่ แต่หากมีกระแสและกลยุทธ์ทางการเมืองใหม่ ๆ จะทำให้คนเปลี่ยนใจในช่วงใกล้การหย่อนบัตร นอกเหนือจากที่มีการพูดถึงเรื่องการใช้เงิน หรือ “กระสุน” ซึ่งเชื่อว่ากระแสจะแรงกว่ากระสุน เพราะคนมีความรู้มากขึ้น และขณะนี้มีพรรคการเมืองที่ใช้กลยุทธ์ทางการเมืองมาต่อสู้โดยผ่านสังคมออนไลน์ หรือ Social Media ทั้งนำเสนอนโยบาย กระแสพรรค รวมถึงตัวผู้สมัครที่มีศักยภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะมีผลต่อการลงคะแนน

ส่วนกรณี น.ส.แพทองธาร มีคะแนนนิยมนำในพื้นที่อีสาน น.ส.ถวิลวดี กล่าวว่า จากการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า ก็พบว่า คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยมากกว่าพรรคอื่นอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่ามีพรรคการเมืองอื่นเริ่มหาเสียงเก่งขึ้น หาคะแนนดึงดูดเพิ่มเติมอย่างอื่นหรือไม่ เพราะช่วงท้ายจะเห็นว่ามีการโจมตีพรรคเพื่อไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เห็นว่าแม้จะมีคะแนนนำ


“โอกาสที่จะแลนด์สไลด์ได้คะแนนเสียง 310 เสียง ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะยังมีพรรคทางเลือก เช่น พรรคก้าวไกล และเสรีรวมไทย ที่มาแบ่งคะแนน ขณะเดียวกัน พรรคอื่นก็ต้องการคะแนน และหากลยุทธ์ในการมีคะแนนมาเช่นเดียวกัน ขณะนี้เหลือเวลาก่อนการเลือกตั้ง อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ คนอีสานอาจจะเปลี่ยนใจยากกว่าภาคอื่น” น.ส.ถวิลวดี กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]