มั่นใจมาตรการดึงต่างชาติลงทุน

ทำเนียบ  วันนี้  (10 มี.ค.)    นายกรัฐมนตรีมั่นใจมาตรการดึงต่างชาติศักยภาพสูง และการตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคของบรรษัทข้ามชาติ  จะเพิ่มขีดความสามารถคนไทยเร็วขึ้น   เผยยอดผู้ยื่นขอ LTR Visa แล้ว 2,920 คน ท็อป 3 ยุโรป สหรัฐฯ จีน บีโอไอส่งเสริมตั้ง Regional Headquarters กว่า 500 โครงการ


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ให้ความสำคัญกับการผลักดันนโยบายเพื่อเพิ่มศักยภาพของคนไทย  ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญต่อขีดความสามารถแข่งขันประเทศมาต่อเนื่อง  โดยดำเนินการผ่านหลายด้านรวมถึงการดึงผู้มีศักยภาพสูงเข้ามาอาศัยทำธุรกิจและทำงานในประเทศไทยด้วยนโยบายการเป็นศูนย์การบุคลากรทักษะสูง (Talent Hub) ของภูมิภาค  และการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ โดยดึงบริษัทชั้นนำเข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค(Regional Headquarters) ในไทย ซึ่งผู้มีทักษะสูงและบริษัทระดับโลกจะถ่ายทอดความรู้ และนวัตกรรมต่างๆ แก่คนไทยผ่านการทำงานร่วมกัน

“นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่าการดึงผู้มีศักยภาพสูงโดยการให้ LTR Visa และการดึงบริษัทระดับโลกมาตั้งสำนักงานใหญ่จะเป็นทางลัดที่จะพัฒนาคนไทยให้เก่งเร็วขึ้นผ่านการทำงานกับบุคคลหรือบริษัทที่มีนวัตกรรมและความสามารถการแข่งขันสูง ซึ่งด้วยนโยบายที่ชัด มีทีมงานที่นายกรัฐมนตรีตั้งเดินสายเพื่อให้ข้อมูลนักลงทุน และผลจากการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคเมื่อปลายปี 65 ทำให้ทั่วโลกมองเห็นศักยภาพของประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดสะท้อนไปที่ยอดของผู้มีทักษะสูงและบริษัทระดับโลกที่เข้ามายังประเทศไทยต่อเนื่อง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ได้รายงานถึงการดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีสำหรับนโยบาย Talent Hub ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย หรือ Long-Term Resident Visa (LTR Visa)  ตั้งแต่ 1 พ.ย.65 -28 ก.พ. มีต่างชาติยื่นขอ LTR Visa รวม 2,920 คน

ทั้งนี้ แยกเป็น กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง 195 คน, กลุ่มผู้เกษียณอายุและมีความมั่งคั่งจากต่างประเทศ  1,011 คน, กลุ่มผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย 771 คน, ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ 390 คน และ ผู้ติดตามบุคคลกลุ่มต่างๆ ข้างต้น 553 คน  และหากแยกตามกลุ่มประเทศพบว่าผู้ยื่นขอ LTR Visa สูงสุด 3 อันดับแรกคือ ยุโรป 940 คน สหรัฐอเมริกา 517 คน และจีน 325 คน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  ในส่วนการเข้ามาตั้ง Regional Headquarter  สำนักงานบีโอไอได้ให้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนตั้งสำนักงานแล้วกว่า 500 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยบริษัท 5 สัญชาติแรกได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ สิงคโปร์ ฮ่องกง และฝรั่งเศส โดยตัวอย่างของบริษัทที่เป็นที่รู้จักของทั่วโลกมีอย่างเช่น อโกดา, หัวเว่ย เทคโนโลยี่, อาร์เซลิก ฮิตาชิ, อายิโนะโมะโต๊ะ, นิสชิน ฟู้ดส์, อัลสตอม, โตโยต้า มอเตอร์, นิปปอนสตีล เป็นต้น บริษัทเหล่านี้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานหลักในการกำกับดูแลและให้บริการกับบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค.- สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ