พรรคเสรีรวมไทย 9 มี.ค.-“สมชัย” ชี้ “ชวน” ทำหน้าที่ปธ.สภาฯ ขัดรัฐธรรมนูญระหว่างพิจารณาร่างพ.ร.ก.อุ้มหายฯ ระบุการแจ้งที่ประชุมส่งศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทำให้สมาชิกต้องหยุดอภิปราย ไม่ได้ลงมติ เป็นเจตนาช่วยรัฐบาล
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย แถลงถึงการทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างการประชุมเพื่อพิจารณาพ.ร.ก.อุ้มหายฯ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ว่า เป็นการทำหน้าที่ที่ผิดรัฐธรรมนูญ โดยในช่วงการพิจารณาที่ส.ส.อภิปรายร่างพ.ร.ก.ดังกล่าว และมีความเป็นไปได้ว่าจะลงมติคว่ำร่าง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเมืองที่นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ ด้วยการอ้างว่ามีส.ส.รัฐบาลเข้าชื่อเพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย การที่นานชวน แจ้งต่อที่ประชุมสภาว่ามี ส.ส. 115 คนเข้าชื่อกันแล้วและขอให้ยุติการอภิปราย ในเวลา 13.19 น. นาที แต่เมื่อตรวจสอบลำดับเวลาการยื่นคำร้องเสนอชื่อก็ปรากฎว่านายชวนได้แจ้งต่อที่ประชุมก่อนเวลาที่หนังสือของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลส่งมาถึง
นายสมชัย ชี้แจงลำดับเวลาการยื่นเรื่อง ว่าส.ส. 115 คน ได้ส่งคำร้องต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 11.09 น. และส่งต่อไปยังสำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร เวลา 11.22 น. จากนั้นส่งต่อไปยังกลุ่มประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ เวลา 11.32 น. โดยกลุ่มประสานการเมืองฯ จะมีหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อและลายเซ็น ซึ่งพบว่าใน 115 ชื่อ มีชื่อไม่ตรง 14 ชื่อ เซ็นชื่อซ้ำ 1 ชื่อ จึงเหลือผู้ยื่นที่ถูกต้อง 100 คน และเมื่อตรวจสอบเสร็จได้ส่งให้รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่เซ็นรับ ในเวลา 13.00 น. จากนั้นส่งต่อเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 13.20 น. และส่งกลุ่มงานประธานสภาผู้แทนราษฎรในเวลา 13.35 น. แต่นายชวนกลับแจ้งที่ประชุมในเวลา 13.19 น. นายชวนทราบก่อน 16 นาทีได้อย่างไร ในเมื่อเอกสารคำร้องยังมาไม่ถึง
“เรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหา หากประธานรับเรื่องและออกหนังสือส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญก่อนมาแจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 173 กำหนดให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญและให้รอการพิจารณา แต่ประธานกลับแจ้งที่ประชุมก่อนส่ง นอกจากนี้ยังพบว่าในวันต่อมาโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎรได้แถลงข่าวว่าประธานสภาลงนามส่งศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ ท่านอาจช่วยรัฐบาลไม่ให้แพ้โหวตในสภา แต่รวบรัดรัดผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 ป.ป.ช.ต้องไต่สวนการปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจที่ขัดรัฐธรรมนูญ ถ้าป.ป.ช.ไต่สวนแล้วมีมติว่าผิดก็ต้องส่งเรื่องให้ศาลฎีกาวินิจฉัย ซึ่งหากศาลเห็นว่าผิดจะสั่งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า ได้นำเรื่องนี้เข้าหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ร่วมประชุมพิจารณาร่างพ.ร.ก.ดังกล่าว ซึ่งหากพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นด้วยจะยื่นต่อป.ป.ช.แต่ถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย ตนอาจจะยื่นคนเดียว ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ป.ป.ช.วินิจฉัย ว่าเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่.-สำนักข่าวไทย
