รทสช.หนุนหญิงเข้าถึงสิทธิพื้นฐาน ทำงานระดับแนวหน้า

พรรครวมไทยสร้างชาติ 8 มี.ค.- 4 ว่าที่ผู้สมัครส.ส.หญิงรทสช.ชูแนวคิดนายกฯ  สร้างความเสมอภาคทางเพศอย่างยั่งยืน  ขับเคลื่อนนโยบายให้สตรีมีความเข้มแข็ง  ทั้งการเข้าถึงสิทธิพื้นฐาน การทำงานระดับแถวหน้าขององค์กร การช่วยเหลือกลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยว พร้อมเรียกร้องให้ปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างเท่าเทียม


น.ส.ศิรินันท์ ศิริพานิช นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี น.ส.ณัฐวรินธร บวรภัควุฒิศิริ และน.ส.พัชรนันท์ โกศลสมบัตินนท์ 4 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมทำกิจกรรมลงพื้นที่รณรงค์สิทธิสตรี เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคม โดยลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจสตรีทุกวัย พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือสนับสนุนผู้หญิง ตามแนวคิด “พลังสตรีเด็ก และเด็กหญิง ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยี สู่ความเสมอภาคระหว่างเพศอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นแนวคิดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี

น.ส.ศิรินันท์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีความเท่าเทียมในเรื่องสิทธิสตรีมากขึ้นหลายด้าน ผู้หญิงมีพื้นที่ในสังคม แต่ก็ยังมีบางจุดที่ตนอยากจะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เช่น การส่งเสริมให้ผู้หญิงรับทราบถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของตัวเอง ที่ผ่านมารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดำเนินการมาตลอด เช่น โครงการมารดาประชารัฐ มีเงินช่วยเหลือและสิทธิพิเศษให้เด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี เช่น เงินช่วยเหลือหลังคลอด 600 บาทต่อเดือน เงินช่วยเหลือการตรวจโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย และภาวะดาว์นซินโดรมในเด็กทารกในหญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น โดยมีแนวคิดลดเงื่อนไขการรับสิทธิเพื่อขยายสิทธิ์ให้เข้าถึงสตรีในกลุ่มต่าง ๆ มากขึ้น


“ปัจจุบันยังมีการจำกัดฐานรายได้ของผู้หญิงที่จะได้รับบริการนี้  เช่น สตรีวัยทำงานที่มีรายได้ไม่เพียงพอ เช่น กลุ่มสตรีที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเดือนน้อย ทำให้ไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ซึ่งหากมีโอกาสได้เข้าไปทำงานเป็นตัวแทนก็อยากจะผลักดันให้ขยายกลุ่ม โดยการเพิ่มโอกาสให้กับสตรีกลุ่มนี้ด้วย กลุ่มเปราะบางอีกกลุ่มคือ กลุ่มผู้หญิงที่ติดเชื้อ HIV ไม่ว่าจะติดจากคู่สมรส หรือไม่ อยากให้ผู้หญิงกลุ่มนี้ได้รับโอกาสในสังคม ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เราต้องให้ความรู้เกี่ยวกับสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้กับผู้หญิงทุกคน เช่น การตรวจเชื้อ HIV ฟรี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อความปลอดภัย เพราะ HIV รู้ไว รักษาทัน และในส่วนของการบริการด้านสุขภาพของรัฐก็ให้การรักษาเป็นอย่างดีด้วย”  น.ส.ศิรินันท์กล่าว

นางรัดเกล้า  สุวรรณคีรี กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะการทำงานได้เทียบเท่าผู้ชายในสายอาชีพต่างๆ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ตนมองว่ายังมีอีกหลายจุดที่ควรได้รับการส่งเสริม  เช่น กลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวที่แม้ว่าจะสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเพราะต้องทำงานและยังต้องเลี้ยงดูลูกด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลูกเล็ก ๆ ทำให้บางครั้งไม่สามารถที่จะมีอาชีพที่มั่นคงได้  ดังนั้นอยากแนวทางส่งเสริมให้ผู้หญิงกลุ่มนี้สามารถทำงานเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างเหมาะสมกับชีวิตความเป็นอยู่  แนวทางหนึ่งที่ตนคิดว่าสามารถทำได้และพยายามจะผลักดันคือการทำให้เกิดข้อกำหนดทางกฎหมาย หรือข้อบังคับเพื่อสามารถช่วยเหลือกลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น การออกข้อกำหนดหรือสิทธิพิเศษให้ภาคธุรกิจหรือเอกชน ที่ให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้แม่เลี้ยงเดี่ยวสามารถทำงานได้โดยไม่มีข้อกังวล เช่น การจัดให้มีเนิร์สเซอรี่ในที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน

นางรัดเกล้า กล่าวว่า อยากผลักดันให้เพิ่มโอกาสในความก้าวหน้าในการทำงานให้กับผู้หญิง ปัจจุบันในบริษัทหรือองค์กรใหญ่ๆ เช่น บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ก็มีข้อกำหนดเหล่านี้บรรจุใน DJSI ที่มีเกณฑ์กำหนดเกี่ยวกับการให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียมระหว่างชายหญิง โดยไม่ได้ดูแค่จำนวนการทำงานของผู้หญิงในบริษัทเท่านั้น แต่ยังมีเกณฑ์ลงลึกไปถึงความสามารถ หรือการเติบโต หรือตำแหน่งในหน้าที่การงานของผู้หญิงด้วย ดังนั้นตนจึงคิดว่าในการทำงานของผู้หญิงโดยเฉพาะในภาคของการเมืองจึงควรจะมีการส่งเสริมผู้หญิงในการทำงานระดับกลไกนี้ด้วยเช่นกัน


ขณะที่น.ส.พัชรนันท์ โกศลสมบัตินนท์ กล่าวว่า ตามแนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการให้เกิดความเสมอภาคแบบยั่งยืนระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย และยังเป็นไปตามนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติที่จะเห็นได้ว่า พรรคเองให้ความสำคัญกับการทำงานของผู้หญิง และมีว่าที่ผู้สมัครหญิงหลายคน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน อยากให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญเรื่องนี้เช่นกัน โดยในส่วนของตนอยากให้มีนโยบายสนับสนุนผู้หญิงในทุกช่วงวัย และไม่ว่าทุกคนจะมาจากไหน อยากให้ออกมาแสดงความสามารถ ภายใต้การส่งเสริมของทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน

น.ส.ณัฐวรินธร บวรภัควุฒิศิริ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงถือว่าได้รับการยอมรับมากขึ้น ตามแนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ต้องการให้เกิดความเสมอภาคระหว่างเพศ ถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะทำให้ผู้หญิงมีความเท่าเทียมกันในสังคม ซึ่งในการทำงานของตนก็มีแนวคิดที่อยากจะขับเคลื่อน ส่งเสริมผู้หญิงให้มีความเท่าเทียมเสมอภาคกันระหว่างหญิงชายในทุกภาคส่วนของสังคม รวมถึงความเท่าเทียมกันในองค์กร บริษัท ที่ทำงานต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมายังคงพบว่ามีการละเมิดสิทธิ์ การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากนายจ้าง หรือ ผู้ร่วมงานด้วยกันเอง ดังนั้นจึงอยากเป็นตัวแทนของผู้หญิงเรียกร้องให้ทุกคนปฏิบัติต่อผู้หญิงรวมถึงทุกคนอย่างเสมอภาค.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย