“พิธา-ปิยบุตร” ขึ้นซาเล้งหาเสียงรอบเมืองขอนแก่น

ขอนแก่น 4 มี.ค.- “พิธา” ควง “ปิยบุตร” ขึ้นซาเล้งแห่หาเสียง ดัน “ทนายป๊อก” หวังได้เก้าอี้เขต 1 ขอนแก่น ไม่หวั่นแบ่งเขตเปลี่ยนไปมา มั่นใจรอบนี้คนแห่เลือกตั้งเพื่ออนาคตมากขึ้น ย้ำจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลที่มี “พล.อ.ประวิตร-พล.อ.ประยุทธ์”


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล และ นายวีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมแห่หาเสียง โดยใช้ขบวนรถสามล้อและมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างแห่ไปรอบตัวเมืองขอนแก่น ทักทายประชาชน แนะนำตัวผู้สมัครและนโยบายของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง โดยกิจกรรมตลอดช่วงเช้านี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวขอนแก่นตลอดสองข้างทางเป็นอย่างดี

นายปิยบุตร กล่าวถึงความมั่นใจของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าจากการติดตามผลสำรวจคะแนนนิยมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ว่าคะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลยังคงอยู่ เมื่อ 4 ปีที่แล้วทุกคนก็ปรามาสพรรคอนาคตใหม่ว่าจะไม่ได้คะแนนนิยม แต่ก็คว้าชัยชนะมาได้ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วถึง 88 ที่นั่ง รวมทั้งที่ขอนแก่นเขต 1 ด้วย มาครั้งนี้ก็เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะยังคงเก็บชัยชนะได้


ด้านนายพิธา ระบุว่าในการเลือกตั้งรอบนี้ พรรคก้าวไกลตั้งเป้าหมายว่าจะต้องได้จำนวน ส.ส.เขตมากขึ้น ให้มี ส.ส.เขตในทุกภาค และต้องมากกว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงจะต้องได้คะแนนนิยมรวม หรือป๊อปปูลาร์โหวต มากขึ้นด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นไปได้ แม้วิธีการคำนวณคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้อาจต่างกัน แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในปัจจัยที่เราควบคุมได้ เรามีแผนการหาเสียงยาวไปจนถึงวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งแล้ว ทั้งการเปิดตัวนโยบาย ลงพื้นที่ เปิดตัว ส.ส.บัญชีรายชื่อ

นายพิธา ยังกล่าวว่า แต่หากจะมีสิ่งใดที่ยังเป็นข้อกังวลอยู่บ้าง ก็คงจะมีการเขียนเขตที่ไม่แน่นอนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และการไม่มีระบบรายงานผลแบบเรียลไทม์ การใช้เวลาราชการและการใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือในการหาเสียงโดยฝ่ายรัฐบาล แต่เราก็จะทำในสิ่งที่ทำได้ให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยัง กกต. ให้จัดการการเลือกตั้งอย่างมีระบบ มีความชัดเจน มีบรรทัดฐานที่ต่อเนื่อง และไม่สร้างความสับสนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

นายพิธา กล่าวอีกว่า สำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปจากกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตนและพรรคก้าวไกลคาดแล้วว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น จึงได้มีการวางแผนให้ผู้สมัครเดินหาเสียงไปพร้อมกัน 2-3 ทีมในเขตใกล้เคียงกันหลายที่ ให้ประชาชนได้เห็นตัวผู้สมัครครบทุกคน ทำงานเป็นทีมและส่งพลังให้แก่กันด้วย


ทั้งนี้ การแบ่งเขตแบบที่นับรวมฐานประชากรแต่เฉพาะคนสัญชาติไทย อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเขตไปอย่างมีนัยยะสำคัญในจังหวัดอย่างเชียงใหม่และเชียงราย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พรรคก้าวไกลก็พร้อมสู้ในทุกรูปแบบ และเชื่อว่าจะสามารถรักษาเขตเดิมและเพิ่มเขตใหม่ได้แน่นอน

เมื่อถามว่ากรณีการขยับของพรรคเพื่อไทย ที่มีการแต่งตั้งทีมที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจขึ้นมา จะส่งผลต่อการหาเสียงของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิธาระบุว่าพรรคก้าวไกลพร้อมเสมอในการแข่งขันเชิงนโยบายเพื่อเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้สังคมไทย และเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะร่วมมือกับแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพื่อทำงานด้วยกันอย่างเต็มที่ในอนาคต เพราะวันนี้ทั้งสองพรรคต่างเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน ทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านต่างเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม ที่เมื่อนำมารวมกันจะเป็น ครม. ที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ ของประเทศไทยได้

ด้านนาวปิยบุตร กล่าวว่า ทุกพรรคเมื่อลงเลือกตั้งนั้น ต่างก็ต้องเริ่มจากศูนย์ด้วยกันทั้งสิ้น บางพรรคการเมืองอาจมีฐานเสียงที่ทับซ้อนกันบ้าง แต่สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งตนเชื่อว่าในรอบนี้จะมีประชาชนหันมาเลือกตั้งด้วยวิธีคิดแบบใหม่ เป็นการเลือกเพื่อไปสู่อนาคตมากขึ้น ซึ่งพรรคก้าวไกลก็คือพรรคที่ตอบโจทย์นั้นได้อย่างครบถ้วน

ทั้งนี้ ผลโพลต่างๆ ที่ออกมาในรอบ 2-3 ที่ผ่านมา ยังคงยืนยันให้เห็นว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด ต่างมีคะแนนนิยมที่รวมกันได้ถึงกว่า 300 ที่นั่ง ถ้าทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านวันนี้ร่วมจับมือกัน ย่อมจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน

ส่วนข่าวลือว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายพรรคมีแนวโน้มจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณได้ พรรคก้าวไกลจะยังคงยืนยันคำเดิมหรือไม่ว่าจะไม่เข้าร่วม นายพิธา ย้ำคำเดิม ว่าพรรคก้าวไกลไม่อาจร่วมกับรัฐบาลที่มีส่วนผสมของพรรคทหารจำแลงได้เด็ดขาด

“ไม่ร่วมครับ ครม.ใดก็ตาม ที่มีส่วนผสมของประยุทธ์หรือประวิตร จะไม่มีผมและพรรคก้าวไกลอยู่ในนั้นแน่นอน” นายพิธา กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น