“ธนกร” ระบุกระแสยุบสภา 21 มี.ค.เป็นไปได้

ทำเนียบ 28 ก.พ.- “ธนกร” ระบุ กระแสยุบสภา 21 มี.ค. มีความเป็นไปได้ แต่ขึ้นอยู่กับนายกฯ ชี้ฝ่ายค้านปราศรัยดิสเครดิต ”พล.อ.ประยุทธ์” คนยิ่งเห็นใจ ย้ำนโยบาย รทสช.ทำได้จริง รู้ที่มางบฯ ชัดเจน ส่วนจับมือพรรคไหน รอหลังเลือกตั้ง เชื่อ พล.อ.ประวิตร ไม่ทิ้ง พล.อ.ประยุทธ์ ไปจับมือฝ่ายค้าน


นายธนกร วังบุญคงชนะ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรี จะยุบสภาในวันที่ 21 มีนาคม 2566 ว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ก็ยังคงทำงานตามปกติ  โดยวานนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดแล้ว ซึ่งตนเองเข้าใจว่า  เดือนนี้เป็นเดือนที่เหมาะสม และเป็นเดือนสุดท้ายของวาระรัฐบาล

นายธนกร ยังกล่าวถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อวานนี้ ว่า  ในวันที่ 1 มีนาคมนี้จะมีการเปิดตัวเพิ่มอีก 20 คน ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นแล้วว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมีส.ส.อยู่กว่า 40 คน ดังนั้นการที่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์และดูแคลนว่า พรรคคงได้ส.ส.ไม่เกิน 25 คนคงไม่ใช่ และจากการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ในหลายจังหวัด ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน ประชาชนเห็นผลงานของนายกรัฐมนตรี แม้ฝ่ายค้านจะเดินทางปราศรัยโจมตี ดิสเครดิต พลเอกประยุทธ์ว่าไม่มีผลงานนั้น ยิ่งฝ่ายค้านพูด ประชาชนจะยิ่งเห็นใจพรรครวมไทยสร้างชาติและพลเอกประยุทธ์มากขึ้น ยิ่งเป็นการหาเสียงให้รวมไทยสร้างชาติ


ส่วนหลังจากนี้ จะมีการเปิดเวทีปราศรัยย่อยหรือไม่ นายธนากรกล่าวว่า ผู้สมัครแต่ละพื้นที่ จะนโยบายไปนำเสนอกับประชาชน และเชื่อว่า  นโยบายที่ได้ประกาศออกไป อาทิ บัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาท การแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งทำสำเร็จมากแล้ว ไม่เชื่อว่าทำไม่ได้ ยืนยันว่า บัตรสวัสดิการพลัสทำได้อย่างแน่นอน ซึ่งทุกนโยบายนายกรัฐมนตรีมีส่วนร่วม และได้ย้ำกับทีมนโยบาย ว่าทุกนโยบายต้องมีแหล่งที่มาของงบประมาณที่ชัดเจนและทำได้จริง จะเห็นได้ว่า นโยบายของแต่ละพรรคเป็นนโยบายประชานิยมที่ใช้งบประมาณสูงมาก ซึ่งไม่ทราบว่าจะนำเงินมาจากไหน  แต่ของพรรครวมไทยสร้างชาติถูกนโยบายต้องทำได้จริง

ทั้งนี้อย่ามองว่าเป็นการเกทับนโยบายกับพรรคอื่น เพราะต้อง ยอมรับว่านโยบายบัตรการแห่งรัฐเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559 แต่ละพรรคการเมืองนำไปกำหนดเป็นนโยบายได้ ไม่มีปัญหา แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นพรรคการเมืองใดบอกที่มาของงบประมาณได้ชัดเจน ซึ่งตรงนี้มีความแตกต่างจากรวมไทยสร้างชาติ ยืนยันว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ รู้ว่าจะนำงบประมาณมาจากไหน เนื่องจากนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินและทุกโครงการต้องผ่าน นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะทราบตัวเลขงบประมาณทั้งหมด เชื่อว่าทีมเศรษฐกิจของพรรคเป็นคู่เชี่ยวชาญ ซึ่งถ้ามีการเปิดตัวประชาชนจะให้การยอมรับ

ส่วนที่ขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติมีส.ส. กว่า 40 แล้ว แต่ในการเลือกตั้ง การจะเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องมีส.ส. ในพรรคประมาณกี่คนนั้น นายธนกรกล่าวว่า ดูจากองค์ประกอบต่างๆแล้ว ทั้งการมีผู้สมัครที่ประชาชนไว้ใจ ความเชื่อมั่นในตัวพลเอกประยุทธ์ และนโยบายของพรรค จะทำให้พรรคได้ส.ส.จำนวนมาก ส่วนการเสนอนายกรัฐมนตรี ควรจะมาจากพรรคที่ได้จำนวนส.ส.มากที่สุดในฝั่งตัวเอง หรือส.ส.มากที่สุดในการเลือกตั้ง นายธนกร กล่าวว่า ยังไม่สามารถพูดในตอนนี้ได้ ต้องดูตัวเลขหลังเลือกตั้งก่อน ว่าพรรคไหนได้มาก ได้น้อย แต่เชื่อมั่นว่าอย่างน้อยที่สุด พรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน มีความผูกพัน ความรักความสามัคคีกันอยู่ ไม่ได้มีความขัดแย้งและทำงานร่วมกันมานาน และหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคก็ให้เกียรติพลเอกประยุทธ์มาโดยตลอด และพูดคุยกันได้   ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าคิดว่าน่าจะพูดจากันได้มากกว่าพรรคอื่น แต่ต้องดูสถานการณ์ในขณะนั้น แต่เชื่อมั่นว่าประชาชนจะ เห็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำ และจะให้โอกาสในการ นำไปสู่การเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง


เมื่อถามว่า ในอนาคตพลเอกประยุทธ์ จะจับมือกับฝ่ายค้านในปัจจุบันหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ต้องรอดูหลังการเลือกตั้ง ซึ่งวันนี้พรรคฝ่ายค้านหลายพรรคประกาศไม่ร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ   ซึ่งถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ย้ำนายกรัฐมนตรีเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชนทุกคน ดังนั้นต้อไม่มีความขัดแย้งกับใคร และไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร

ส่วนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะทิ้ง พลเอกประยุทธ์ ไปจากมือกับฝ่ายค้านหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่ขอก้าวล่วง แต่ขอยืนยันในความสัมพันธ์ ของพลเอกประวิตรและพลเอกประยุทธ์ว่า มีความเป็นพี่น้อง มีความผูกพันกันมา 40-50 ปี แม้ตนเองรู้จักพลเเอกประยุทธ์มาเพียงสองถึงสามปียังเคารพรักพลเอกประยุทธ์ขนาดนี้  นับประสาอะไรกับคนที่อยู่ร่วมกันมา 40 – 50 ปี และเชื่อว่า ทั้งสองคนจะไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องของจิตใจสำคัญกว่าร่างกาย เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอย่างแน่นอน เพราะความรักความผูกพันธ์มีความมั่นคง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

เปิดแรงจูงใจไรเดอร์โหดทวงหนี้ ยิงสาวใหญ่ดับ

เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเหตุระทึกขวัญ เจ้าหนี้บุกยิงลูกหนี้ใน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.สามพราน โดยมีตัวประกันถูกขังไว้ภายในห้องด้วย อะไรคือแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ติดตามจากรายงาน

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้สปา “ดาราเทวี”

เจ้าหน้าที่ยังเร่งหาสาเหตุไฟไหม้เทวาสปา โรงแรมดาราเทวี หลังเจอจุดต้นเพลิง ด้านเจ้าของเผยไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย เป็นไปไม่ได้ที่จะเผาเอาเงินประกัน

ตำรวจคุมตัวทำแผนโจรบุกร้านทอง บอกผิดเองขอ 5 บาท

“โจร 5 บาท” ถูกจับหลังบุกร้านทอง ยอมรับตกใจกลัวหลังเจอเจ้าของร้านตวาดใส่ให้วางปืนตอนบุกชิงทอง พร้อมโทษตัวเองไม่บอกให้ชัด หวังทอง 5 บาท แต่ได้เงิน 5 บาท

ลูกพีช

ผบ.ตร. ย้ำภาพชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม

ผบ.ตร. ย้ำชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ อ้างเป็นญาติ ย้ำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ชี้ภาพชัดเจน แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม