เหล่าทัพพร้อมสนับสนุน แก้ปัญหาไฟป่า-PM 2.5

กองทัพเรือ 22 ก.พ. – ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กำชับทุกเหล่าทัพพร้อมสนับสนุนกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ แก้ปัญหาภัยพิบัติ-ไฟป่า-ฝุ่น PM 2.5


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมที่หอประชุมกองทัพเรือ

ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมอบนโยบายให้เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำการสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจ พร้อมรายงานผลปฏิบัติงานที่สำคัญ อาทิ กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ชี้แจงนโยบายการฝึกของกองทัพไทย พ.ศ. 2566-2570 ซึ่งมีแผนงานการฝึก จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงของรัฐ การเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ และการช่วยเหลือประชาชน


ด้านกองทัพบกเสนอแนวทางการพัฒนาการฝึกเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกให้มีความพร้อมรบ (Combat Readiness) มีขีดความสามารถในการรองรับภารกิจด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ และสามารถปฏิบัติการร่วมกับทุกเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการฝึกที่สำคัญประกอบด้วย การฝึกตามวงรอบการฝึกประจำปีของกองทัพบก ซึ่งเป็นการฝึกขั้นพื้นฐานให้กับกำลังพล เพื่อให้เกิดทักษะความชํานาญทั้งในระดับบุคคล และระดับหน่วย การฝึกร่วม ซึ่งเป็นการฝึกร่วมกับเหล่าทัพ และส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการฝึกร่วม/ผสมกับมิตรประเทศ ซึ่งเป็นการฝึกเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และความชำนาญในการปฏิบัติงาน รวมถึงเป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในหลักนิยม ยุทธวิธี ขีดความสามารถ และความทันสมัยของยุทโธปกรณ์ในแต่ละกองทัพมิตรประเทศทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี

ส่วนกองทัพเรือได้รายงานผลการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หรือ HADR ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 มกราคม 2566 ในพื้นที่เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้เข้ารับการฝึกฯ จากกองทัพเรือ หน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ มวลชน และนักท่องเที่ยวบนเกาะราชาใหญ่ รวมทั้งสิ้น 1,320 คน ผลจากการฝึกฯ ในครั้งนี้ได้รับทราบถึงขีดความสามารถของกำลังทางเรือในการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่ทางทะเลและเกาะแก่ง อีกทั้งยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในขีดความสามารถของกันและกัน อันจะนำไปสู่การปฏิบัติการร่วมกันในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงเกิดความมั่นใจในขีดความสามารถและความพร้อมของกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับกองทัพอากาศได้นำเสนอแนวทางการปฏิบัติการร่วมกับเหล่าทัพ และหน่วยงานภาครัฐในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในภาคเหนือร่วมกับศูนย์อำนวยการร่วมในพื้นที่ โดยกองทัพอากาศได้เตรียมความพร้อมกำลังพล อากาศยาน และอุปกรณ์ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ไฟป่าและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติภารกิจในการบินกระจายเสียงในพื้นที่ยากแก่การเข้าถึง การบินลาดตระเวนค้นหาพื้นที่ไฟป่า การบินสร้างแนวกันไฟเพื่อควบคุมไฟป่า การบินลำเลียงทางอากาศ และส่งกลับสายแพทย์ และการบินค้นหาและช่วยชีวิต


นอกจากนี้กองทัพอากาศยังมีโครงการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาไฟป่าและสลายหมอกควัน ได้แก่ การวิจัยและพัฒนาเครื่องผสมสารยับยั้งไฟป่า สารยับยั้งไฟป่าสูตร ทอ.๑ ถุงบรรจุสารยับยั้งไฟป่าในกล่องอุปกรณ์ควบคุมไฟป่า บรรจุภัณฑ์ยับยั้งไฟป่าแบบติดตั้งอุปกรณ์หน่วงเวลา สถานีระบบควบคุมภาคพื้น อากาศยานไร้คนขับโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อากาศยานไร้คนขับแบบ M Solar X การทำฝนหลวงเมฆอุ่น และพลุสารฝนหลวง เป็นต้น

ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาการฝึกอบรมให้แก่กำลังพล เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถและพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ได้แก่ การฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ภายในหน่วย การทำหน้าที่เป็นวิทยากร ครูฝึก ถ่ายทอดองค์ความรู้ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแก่หน่วยงานต่างๆ การส่งกำลังพลฝึกร่วมกับหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เหล่าทัพ และหน่วยงานพลเรือน เช่น สถานศึกษา สาธารณสุข หน่วยงานปกครอง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี และการติดต่อประสานงานเป็นขั้นตอนเมื่อเกิดเหตุร้าย การส่งกำลังพลเข้าแข่งขันหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SWAT CHALLENGE) ทั้งในประเทศ และนานาชาติ การออกแบบการฝึกยิงปืนประเภทต่างๆ ให้กับข้าราชการตำรวจทั่วประเทศเพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับการตอบโต้ภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป การส่งกำลังพลเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรในต่างประเทศกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษชั้นนำระดับโลก เช่น หน่วย RAID ฝรั่งเศส และ Green Beret สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลในการนำองค์ความรู้ใหม่ๆ มาปรับใช้ในการฝึกหลักสูตรต่างๆ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังได้สั่งการให้เหล่าทัพติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง และปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวมถึงเฝ้าระวังเหตุการณ์ไฟป่าที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน พร้อมทั้งบูรณาการและประสานการปฏิบัติระหว่างเหล่าทัพและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 โดยให้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามที่ได้รับการร้องขอได้ทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]