จ.สุพรรณบุรี 17 ก.พ.-“วราวุธ” ควงมารดา-พี่สาวปราศรัยขอคะแนนชาวอ.อูทอง สุพรรณบุรี ให้ได้ส.ส.ทั้ง 5 เขต เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ขอคะแนนชาวอู่ทอง เลือกชาติไทยพัฒนาแบบถล่มทลาย ทั้งคนและรรค ยก จ.สุพรรณบุรี ย้ำคำ “พ่อบรรหาร” ต้องได้ส.ส.ยกจังหวัดจะยิ่งพัฒนาง่ายขึ้น
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เปิดเวทีปราศรัยช่วยนายนพดล มาตรศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตพื้นที่อ.อู่ทอง โดยมีคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา มารดาและน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการอำนวยการพรรคมาให้กำลังใจ มีประชาชนกว่า 2,000 คนมาร่วมรับฟัง
นายวราวุธ กล่าวว่า การเลือกตั้งปี 2562 พรรคชาติไทยพัฒนาในจังหวัดสุพรรณบุรีต้องจำใจในสิ่งที่ไม่อยากทำคือขอให้นายนพดล ไปอยู่ในบัญชีรายชื่อ เพราะถูกลดเขตเหลือเพียง 4 เขตเลือกตั้ง การเสียสละของนายนพดลเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทำให้พรรคชาติไทยพัฒนาดำรงอยู่มาได้เกือบ 4 ปี แต่วันนี้ภายใต้กติกาใหม่ จ.สุพรรณบุรี กลับมามี 5 เขตเลือกตั้ง ทำให้นายนพดลกลับมาลงสมัครในเขตอ.อู่ทอง และอีก 3 ตำบลของอ.สองพี่น้อง วันนี้เรามาพิสูจน์ความรักกันอีกครั้งว่าเลือกตั้งปี 2566 พวกเราชาว อ.อู่ทอง อ.สองพี่น้องยังรักส.ส.นพดลอยู่ และอย่าลืมหิ้วนายวราวุธ เข้าสภาฯ ไปด้วย เพราะเลือกตั้งรอบนี้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ ขอให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนาให้เยอะ ๆ เพื่อจะได้พาวราวุธและพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าไปทำงาน
“เกือบ 4 ปีพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งใจทำงานต่อเนื่อง ทั้ง นายประภัตรในฐานะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผมในฐานะ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางไปทำงานจนครบทั้ง 77 จังหวัดเพื่อรับฟังปัญหา จึงเป็นที่มาของคำว่า “รับฟัง ทำจริง” รับฟังปัญหาประชาชนมาทั่วประเทศ และนำมาทำจริง ซึ่งการเลือกตั้งแต่ละครั้ง มีพรรคการเมืองเข้ามาพูดมากมาย อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ที่สำคัญการพูดใครก็พูดได้ บอกจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คนที่ทำจริง ๆ คนที่เป็นพรรคตัวจริง ทำงานในจังหวัดสุพรรณบุรีตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เราพิสูจน์มาแล้ว ตั้งแต่สมัยพ่อบรรหาร และวันนี้เราก็ยังทำงานกันอยู่ เราไม่ได้ขายฝัน เราไม่ได้มาโม้ และสิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนาทำ ไม่ได้ทำแค่สุพรรณบุรี แต่ทำเพื่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ” นายวราวุธ กล่าว
หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า มรดกชิ้นสำคัญที่สุดที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ทิ้งไว้ให้กับแผ่นดินไทย คือ การริเริ่มให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) และนำไปสู่การมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ที่เป็นฉบับที่ดีที่สุดที่เคยมีในประเทศไทย แต่หลังจากนั้นก็มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่หลายฉบับ และยิ่งแก้ยิ่งเละ ดังนั้น นโยบายหลักของเราคือการเสนอแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง และต้องมาจากพี่น้องประชาชน เป็นรัฐธรรมนูญที่ฟังเสียงจากทุกคน ไม่ใช่แก้โดยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นี่คือสิ่งที่พรรคชาติไทยทำมาแล้ว และเราขอทำอีก เราทำกันจริง ๆ
นายวราวุธ กล่าวว่า ผลงานในประเทศ และผลงานใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เราแก้ไขเรื่องน้ำแล้ง ทั้งบนดิน และใต้ดิน น้ำตกพุม่วงไม่มีน้ำมากว่า 30 ปี เราได้ฟื้นฟูให้มีน้ำขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และยังขุดบ่อบาดาลขนาดใหญ่หลายแห่ง ก็จะช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์ภัยแล้ง ที่ประเทศไทยกำลังจะเผชิญในเร็ว ๆ นี้ได้ ปี 2564 – 2565 สุพรรณบุรีน้ำท่วมทั้งพื้นที่ อยากถามว่าเวลาน้ำท่วมแต่ละครั้ง พรรคการเมืองที่เคยมาหาเสียงหลายพรรคหายไปไหน ก็มีเพียงพรรคชาติไทยพัฒนาที่ทำงาน ให้ความช่วยเหลือหลายช่องทาง รวมถึงยกกระทรวงทรัพยากรฯ มาไว้ที่จ.สุพรรณบุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน วันนี้เราจึงมาพิสูจน์กันอีกครั้งว่า ชาว อ.อู่ทอง และ อ.สองพี่น้อง จะเลือก ส.ส.คนจริง พรรคที่ทำงานกันจริง ๆ อย่างพวกเราหรือไม่
“พ่อบรรหารพูดอยู่เสมอ พ่อบอกว่า พ่อทำงานใน จ.สุพรรณบุรี พ่อทำงานให้กับประเทศไทย พ่อทำเพื่อลูก ทำเพื่อหลาน ไม่ใช่เฉพาะคนในวันนี้เท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนาทำงานกันมาอย่างยาวนานต่อเนื่อง แต่ละครั้ง เราเสนอตัวรับใช้พี่น้องชาว จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่รุ่นพ่อบรรหารมาถึงวราวุธ เราจึงมาขอความเห็นใจ ขอคะแนนเสียง บางคนบอกว่าเป็นเมืองหลวงของพรรคชาติไทยพัฒนา ผมบอกว่าผิดครับ จ.สุพรรณบุรี เป็นของทุก ๆ คน และทุกคนมีสิทธิกำหนดชะตาของจังหวัด ว่าปี 2566 จะเดินทางแก้ไขปัญหาไปด้วยกันเหมือนที่เป็นมา หรือจะไปฟังพรรคการเมืองบางพรรคที่มาให้สัญญาอย่างนั้นอย่างนี้ และพอถึงเวลามีปัญหาก็หายกันไปหมดเช่นนั้นหรือ” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว
นายวราวุธ กล่าวว่า จากนี้ไปจนถึงพฤษภาคม 2566 ที่จะมีการเลือกตั้ง จะเป็นการวัดใจกันว่าคนสุพรรณบุรี ยังรักกันอยู่หรือไม่ เพราะถ้าคนสุพรรณไม่รักกันแล้ว ใครจะมารักคนสุพรรณด้วยกัน นี่คือหัวใจของพวกเรา และครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ตนได้รับโอกาสจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศ เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ จึงอยากให้มั่นใจว่า วราวุธคนนี้ไม่แพ้แคนดิเดตนายกฯ พรรคอื่น ๆ แน่นอน
ด้านน.ส.กัญจนา กล่าว ว่า วันนี้มาในฐานะพี่สาวของหัวหน้าพรรค และไม่ได้มาหาเสียง แต่มาขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน ปี 2566 นี้กำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเร็ว ๆ นี้ และครั้งนี้ก็แตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อปี 2562 ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ซึ่งกติกาใหม่ปี 66 จะต้องกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใบหนึ่ง คือ เลือก ส.ส.เขต และเขตนี้คือ นายนพดล มาตรศรี และอีกใบหนึ่งคือเลือกพรรคการเมือง ที่แตกต่างอีกอย่างคือครั้งที่แล้ว เรามีผู้แทนฯ แค่ 4 คน เพราะมี 4 เขตเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้เรามี 5 เขตเลือกตั้ง เราได้ ส.ส.เขต เพิ่มขึ้นอีก 1 คน
“แต่ที่ยากคือบัญชีรายชื่อ ซึ่งครั้งที่แล้ว 75,000 คะแนน จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน นายวราวุธ นายนพดล เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าสู่สภาฯ ได้ แต่ครั้งนี้เนื่องจากได้เขตเพิ่มอีก 1 คน นายนพดลจึงมาลงเขต ส่วนนายวราวุธ ยังอยู่ในบัญชีรายชื่อ และ 75,000 คะแนน ยังไม่เพียงพอจะส่งนายวราวุธเข้าสู่สภาฯ ได้ เพราะครั้งนี้จะต้องได้คะแนนบัญชีรายชื่อมากกว่า 3.5 แสนคะแนนจึงจะส่งนายวราวุธเข้าสภาฯ ได้ แต่ก็ไม่ยากถ้าพี่น้องชาวสุพรรณบุรีร่วมแรงร่วมใจไม่ให้เสียสักคะแนน ส่งพรรคชาติไทยพัฒนาให้ได้บัญชีรายชื่อให้มากที่สุดได้หรือไม่ จังหวัดอื่นถึงจะไม่มั่นใจแต่ อ.อู่ทองและจ.สุพรรณบุรี คือเมืองหลวงของพรรคชาติไทยพัฒนา กัญจนาขอคะแนนเสียง 4 แสนคะแนนขึ้นไปได้หรือไม่” น.ส.กัญจนา กล่าว
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกส.ส.เขตของพรรคชาติไทยพัฒนาให้ชนะเลือกตั้งยกทั้งจังหวัด นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 บิดาของตน รักอ.อู่ทอง มาก เพราะเป็นแผ่นดินประวัติศาสตร์ของชาติไทยมาอย่างยาวนาน และพ่อบรรหารได้วางรากฐานอ.อู่ทองเป็นเมืองประวัติศาสตร์ เมืองท่องเที่ยว สร้างพิพิธภัณฑ์ขุนหลวงพะงั่ว และมีโครงการมากมายที่พวกเราจะต้องสืบสานต่อ เพราะฉะนั้น อ.อู่ทอง เป็นเมืองที่พ่อบรรหารรักมาก พี่น้องขาว อ.อู่ทอง รักพ่อบรรหารไหม
“การทำงานของพรรคชาติไทยมาจนถึงพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งแต่คุณพ่อบรรหารมาจนถึงยุคพวกเราในปัจจุบัน เราสืบสานงานของพ่อบรรหาร การทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนา เราไม่ได้ทำฉาบฉวยแค่ช่วงเลือกตั้ง แต่เราร่วมทุกข์ร่วมสุข ปูพื้นฐานความเจริญมาตั้งแต่รุ่นพ่อถึงรุ่นลูก การทำงานของเราจึงต้องต่อเนื่อง พ่อบรรหารพูดเสมอว่าเลือกตั้งในจ.สุพรรณบุรี ทำไมเราจึงต้องขอยกจังหวัด เพราะพ่อบอกว่าเราจะต้องทำงานประสานกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะทำให้พัฒนาจ.สุพรรณบุรีเจริญมาได้ถึงทุกวันนี้ ถ้าแต่ละพื้นที่แต่ละเขตเป็น ส.ส.ต่างพรรคกัน แต่ละเขตจะเอาอย่างนั้น อย่างนี้ จ.สุพรรณบุรี จะเจริญอย่างทุกวันนี้ไม่ได้ ขอจ.สุพรรณบุรี ทั้ง 5 เขตเป็นของพรรคชาติไทยพัฒนา เหมือนเช่นในอดีตได้ไหมคะ และขอบัญชีรายชื่อเกิน 5 แสนคะแนนทั้งจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ไหมคะ” น.ส.กัญจนา กล่าว
ขณะที่นายประภัตร กล่าว ว่า พรรคชาติไทยพัฒนาอยู่ได้ เพราะคุณหญิงแจ่มใสและพรรคจะต้องอยู่ไปจนมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของจังหวัดสุพรรณบุรี คือนายวราวุธ ศิลปอาชา รู้สึกชื่นใจที่เห็นพี่น้องประชาชนมีความผูกพันกับพรรค และระหว่างที่เดินทางมาที่นี่ได้เห็นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ เห็นคูเมืองโบราณ แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งทำมาตลอด 48 ปี โดยนายบรรหาร ได้พัฒนาสานต่อ โดยเฉพาะการทำให้จังหวัดสุพรรณบุรี มีน้ำใช้อย่างทั่วถึง ด้วยการผันน้ำจากเขื่อนแม่กลอง ทำฝายยางกว่า 60 กิโลเมตร และพรรคชาติไทยพัฒนาจะสานต่อพัฒนาฝายยางเป็นประตูระบายน้ำ 3 ช่อง เพื่อให้ชาวสุพรรณบุรีไม่ขาดน้ำ อยากให้พี่น้องประชาชนคิดถึงพรรคชาติไทยพัฒนา และลงคะแนนเลือกตั้งให้ชนะอย่างถล่มทลาย ในจ.สุพรรณบุรี ให้ได้.-สำนักข่าวไทย