รทสช.ลุยปากคลองตลาด จัดคิว “พล.อ.ประยุทธ์” ปราศรัยทั่วไทย

กรุงเทพฯ 12 ก.พ. – เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.รุ่นใหม่ ลงพื้นที่ย่านปากคลองตลาด ดูการค้าขายช่วงวาเลนไทน์ หวังนำไอเดียไปใช้ต่อยอดนโยบายด้านเศรษฐกิจ แก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ เผยเตรียมจัดคิวให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ปราศรัยทั่วประเทศเร็วๆ นี้ พร้อมจีบ “รังสิมา” เป็นองครักษ์พิทักษ์ “ลุงตู่” ช่วงอภิปรายฯ


วันที่ 12 ก.พ.66 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ลงพื้นที่สำรวจปากคลองตลาด แหล่งซื้อขายดอกไม้สดและสินค้าต่างๆ ในช่วงวาเลนไทน์ โดยได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน และสอบถามปัญหาต่างๆ ที่ต้องการให้ช่วยแก้ไข พร้อมแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่ร่วมลงพื้นที่ โดยมีนายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ร่วมให้ข้อมูลในระหว่างการเดินพบปะประชาชนในพื้นที่ปากคลองตลาด

นายเอกนัฏ ให้สัมภาษณ์ว่า การนำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ลงพื้นที่ในช่วงนี้ เพราะต้องการให้ได้รับทราบปัญหาของประชาชน และนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาร่วมกันกับนโยบายเดิมของพรรคที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการแก้ไขปัญหาให้กับชาว กทม. โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ ที่พรรคให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นการสร้างรายได้และทำให้เศรษฐกิจโตขึ้น ซึ่งต้องพึ่งขีดความสามารถ การพัฒนาต่างๆ โดยการนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ลงพื้นที่ไปร่วมงานรูปแบบต่างๆ จะทำให้เกิดไอเดีย หรือแรงบันดาลใจ สามารถนำไปใช้ในการคิดนโยบายใหม่ๆ เพื่อต่อยอดนโยบายด้านเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชนมากขึ้น เริ่มจากการพูดคุยกับผู้ค้า ทราบว่าปัญหาหนึ่งคือ การเข้ามาตีตลาดของดอกไม้จากต่างประเทศ ดังนั้นจึงต้องคิดว่า ควรจะทำอย่างไรเพื่อให้สินค้าภายในประเทศสามารถต่อสู้แข่งขันกับดอกไม้ที่มาจากต่างชาติได้ ในส่วนนี้เห็นจะต้องพัฒนาเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบโลจิสติกส์ ซึ่งพรรคจะได้นำไปเป็นแนวทางในการทำนโยบายต่อไป


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนิด้าโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นคนนครศรีธรรมราชว่า แม้จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ แต่ก็ยังคงแบ่งใจให้กับพรรคอื่น นายเอกนัฏ กล่าวว่า หากเทียบกับความนิยมตั้งแต่เริ่มตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเห็นได้ว่า คะแนนนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 12% จนมาถึงขณะนี้ 21% ในเชิงสถิติจึงดูไม่แตกต่างกับพรรคอื่นๆ แต่ตนก็ไม่ได้สนใจเรื่องคะแนนนิยมของพรรคอื่น สิ่งสำคัญคือต้องการแข่งขันกับตัวเอง ตอนนี้คะแนนนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเท่าตัว ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็เรียกได้ว่าเป็นหุ้นขาขึ้น จากตอนนี้ยังมีเวลาอีก 2-3 เดือน หากได้ลงพื้นที่หลังจากนี้ เชื่อว่าคะแนนนิยมของพรรคก็จะเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ทางพรรคเตรียมจัดคิวให้ พล.อ.ประยุทธ์ เดินสายไปปราศรัยพบกับประชาชนอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จึงอาจต้องใช้ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ในการพบประชาชน หรือช่วงหลังเวลาราชการแทน เช่น ทราบว่าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายกฯ จะไป จ.สุราษฎร์ธานี และพบประชาชนหลังเวลาราชการด้วย จากนี้ก็จะหาเวลาจัดคิวไปพบประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

“ตอนนี้ผมก็ยังไม่เห็นว่าคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จะด้อยกว่าคนอื่นตรงไหน ฉะนั้นเมื่อมีผลเป็นแบบนี้ เราก็ต้องทำงานต่อไป ผมเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นผู้นำที่มีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง ที่ผ่านมาท่านก็ได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการที่มีผลงานเป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องการวางโครงสร้างพื้นฐาน โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ หรือการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด จากนี้ไปก็ยังมีอีกหลายโครงการที่ท่านจะต้องทำต่อ ซึ่งต่อไปก็จะมีทั้งนักการเมืองที่มีประสบการณ์ และผู้ที่มาจากนอกแวดวงการเมือง แต่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาร่วมกันทำงานภายใต้พรรครวมไทยสร้างชาติด้วย” นายเอกนัฏ กล่าว


เมื่อถามว่า ตอนนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ในการอภิปรายตามมาตรา 152 พล.อ.ประยุทธ์ จะโดดเดี่ยวกลางสภาฯ นายเอกนัฏ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่โดดเดี่ยวอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้พรรครวมไทยสร้างชาติก็มี ส.ส.ในสภาฯ แล้ว และยังมี ส.ส.ปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 30-40 คน ที่ยังไม่ได้ลาออก เพราะยังต้องทำหน้าที่ในสภาฯ ตนไม่ได้อยากจะใช้คำว่าปกป้อง แต่หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่โดดเดี่ยวแน่นอน อย่างไรก็ตาม คิดว่าเป็นโอกาสดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะได้ชี้แจงและตอบคำถามต่างๆ ถือเป็นการสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น

“ส่วนคำถามที่ว่า จะมีทีมองครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ ผมว่าไม่จำเป็นต้องตั้ง เพราะมีคนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว หนึ่งในนั้นกำลังทาบทามคุณรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ แต่ตรงนั้นผมว่ามันเป็นสีสัน เพราะสิ่งสำคัญคิดว่าอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะได้สื่อสารกับประชาชน เท่าที่ผมได้คุยกับท่าน ท่านก็บอกว่าสามารถตอบได้ทุกอย่าง เพราะท่านทำมาด้วยตัวเองทุกเรื่อง” นายเอกนัฏ กล่าว

เมื่อถามว่า มีคนอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีดีเบต นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในการสื่อสารก็มีหลากหลายช่องทาง จะเลือกช่องทางที่เหมาะสมที่สุด เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ไม่อยากจะไปต่อล้อต่อเถียงกับใคร เวทีอภิปรายก็ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่จะได้สื่อสาร ตอบคำถามต่างๆ ได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย