งบฯ กู้เรือหลวงสุโขทัยเกิน 200 ล้านบาท

สัตหีบ 10 ก.พ.- งบฯ กู้เรือหลวงสุโขทัยพุ่งเกิน 200 ล้านบาท ขณะที่ ผบ.ทร. ยันไม่มีธงเหตุเรือล่มมาจากลมฟ้าอากาศ ย้ำต้องใช้วัตถุพยานเทียบเคียงคำให้การ 289 ปาก เผยพลาธิการ ทร.ยันจ่ายเสื้อชูชีพครบอัตรา


พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ว่าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีพล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือเป็นประธาน ได้ดำเนินการสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง และมีความก้าวหน้า โดยมีการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น กำลังพลผู้รอดชีวิต และหน่วยงานที่เข้ามามีส่วนช่วยเหลือ ทั้งจากท่าเรือบางสะพานและเรือเอกชนอื่นๆ ที่เข้ามาร่วมช่วยเหลือในวันนั้น รวมทั้งหมด 289 ปากครบถ้วนเรียบร้อย ปัจจุบันนี้เหลือเพียงเรียบเรียงถ้อยความสาเหตุการจมของเรือหลวงสุโขทัย

“ซึ่งตามที่ทราบ คือว่า การจมลงมีสาเหตุหลักจากการที่น้ำเข้าเรือและทางเรือไม่สามารถสูบน้ำออกได้ทัน จนกระทั่งเรือเอียง และจมลงในที่สุด ซึ่งสาเหตุต่างๆเหล่านี้ต้องนำมาประมวลหาสาเหตุที่แท้จริง ในขณะนี้ได้ตั้งสมมุติฐานที่ทำให้เรือจมไว้หลายประเด็น โดยผลการสอบข้อเท็จจริงจากกำลังพลที่รอดชีวิตต้องประกอบกับเรื่องของวัตถุพยาน ที่เรือหลวงสุโขทัยว่าตรงตามคำให้การของผู้รอดชีวิตหรือไม่ และได้มุ่งประเด็นไปที่จุดใดบ้าง เพื่อนำมาประกอบกับผลการสอบสวนจึงเป็นประเด็นแท้จริงที่เกิดขึ้น” พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าว


ส่วนที่มีการมองว่าสาเหตุที่เรือร่มมาจากสภาพอากาศหรือความผิดพลาดของตัวบุคคลนั้น พล.ร.อ เชิงชาย กล่าวว่า ในสมมุติฐานนั้น ก็มีการตั้งไว้หลายประเด็นแต่ผลยังไม่ชัดเจนขอให้คณะกรรมการสอบสวนได้ประมวลผลออกมาก่อน   สำหรับประเด็นที่ประชาชนและสื่อมวลชนสงสัยในการจมของเรือ เช่น เสื้อชูชีพ จากการตรวจสอบอัตราเสื้อของเรือหลวงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นเรือรุ่นเดียวกัน เพียงพอสำหรับกำลังพลที่อยู่ในเรือ กล่าวคือมีอัตราเสื้ออยู่ 120- 130 ตัว  เมื่อเทียบกับเรือหลวงสุโขทัยซึ่งมี ขนาดเท่ากัน รวมทั้งได้มีการตรวจสอบกับทางกรมพลาธิการ ได้รับการยืนยันว่าได้แจกจ่ายจำนวนเท่ากัน คือ 130 ตัว รวมทั้งมีการเบิกเปลี่ยนเสื้อชูชีพล่าสุดก็ยืนยันว่าเพียงพอสำหรับกำลังพล ที่อยู่บนเรือ 105 คน

ส่วนขั้นตอนที่ว่าบางคนมีและบางคนไม่มีนั้น อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนทั้งในส่วนของกำลังพลของเรือ รวมถึงกำลังพลที่มาสมทบจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและคุยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ซึ่งเรื่องนี้มีความชัดเจน และสามารถชี้แจงต่อประชาชนได้ เพราะสามารถสอบถามพยานที่รอดชีวิตทุกคนว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ทั้งเรื่องของเรือจมและบางคนที่ไม่มีเสื้อชูชีพ และขณะเรือใกล้จะจมช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้น

ผบ.ทร. ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการกู้เรือ ว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะเรือจมอยู่ในระดับน้ำลึก 40-50 เมตร ดังนั้นการนำเรือขึ้นมาจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากมีอุบัติเหตุหรือทำให้เรือเสียหายเพิ่มมากขึ้น จะทำให้วัตถุพยานต่างๆไม่สามารถนำมาพิสูจน์ได้ จึงจำเป็นต้องเฟ้นหาบริษัทที่มีขีดความสามารถ มีเครื่องมือที่กู้เรือขึ้นมาได้ เพื่อนำมาสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเหตุใดถึงได้จมลง ขณะนี้ยังมีขั้นตอนการพิจารณา จากบริษัทที่นำเสนอเพิ่มเข้ามา ท้ายที่สุดคือเรื่องของงบประมาณที่จะใช้ในเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องมีการนำเสนอไปที่หน่วยเหนือให้พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งกองทัพเรือจะเป็นส่วนพิจารณา ว่าจะใช้งบฯสำรองที่กองทัพเรือมีอยู่ หรือจะต้องขอจากรัฐบาล ตอนนี้ยังไม่ทราบวงเงินที่ชัดเจน ต้องรอคณะกรรมการชุดกู้เรือนำเสนอขึ้นมา


เมื่อถามว่า ประมาณการว่าจะใช้งบประมาณจำนวนเท่าใด พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า เท่าที่ทราบตัวเลขคร่าวๆ น่าจะ สูงกว่า 200 ล้านบาท ในการนำเรือขึ้นมาและนำเข้าฝั่ง ผบ.ทร. กล่าวด้วยว่า ในส่วนของผู้สูญหาย 5 ราย  ได้มีการเยียวยาจากในส่วนของกองทุนรวมใจไทยกองทัพเรือและทุนประกันชีวิตหมู่ ได้มีการจ่ายเงินไปแล้ว 2,000,000 บาท ซึ่งส่วนที่เหลือต้องรอให้ศาลสั่งว่าเป็นผู้สูญหายก่อนตามกฎหมาย จึงจะมีการดำเนินการจ่ายเงินที่เหลือได้ ทั้งนี้กองทัพเรือได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลญาติพี่น้องของผู้ที่เสียชีวิตและสูญหายอย่างต่อเนื่องด้วย .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]