กรุงเทพฯ 9 ก.พ. – “กรณ์” ชี้ต้องเร่งรื้อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสคนไทย พร้อมหารายได้เข้าประเทศเพิ่ม 5 ล้านล้านบาท
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวในเวทีสัมมนา “อนาคตประเทศไทย Economic Drives เศรษฐกิจไทยสตาร์ทอย่างไรให้ก้าวนำโลก” ว่า ก่อนจะไปสู่คำถามว่าเราจะสตาร์ทอย่างไรให้ก้าวนำโลก ตนขอเพิ่มคำถามว่าเราจะสตาร์ทอย่างไร ในขณะที่มีคนไทย ถือบัตรสวัสดิการคนจนถึง 14 ล้านคน เรามีคนติดแบล็กลิสต์บูโรถึง 6 ล้านชีวิต เรามีเอสเอ็มอีที่ไม่รู้จะไปต่อได้หรือไม่อีกเป็นจำนวนมาก คำตอบของปัญหาเหล่านี้คือ เราต้องรื้อโครงสร้างทางเศรษฐกิจหลายเรื่อง ไทยเราจะเดินไปข้างหน้าพร้อมกันทุกคน
นายกรณ์ ได้ยกตัวอย่าง สินค้าส่งออกยอดฮิตถือเป็นโปรดักส์แชมป์เปียนของประเทศไทย คือรถยนต์ปิกอัพ ที่มีการส่งออกเกือบ 1 ล้านคันต่อปี ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจะยกเลิกการใช้รถยนต์สันดาปแบบเดิมมาเป็นรถยนต์ EV ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องปรับรื้อ ซึ่งเขาไม่จำเป็นที่ต้องเริ่มจากศูนย์เขามีองค์วามรู้ และ supply chain ที่ถูกต้อง ประเทศไทยมีของดีเป็นจำนวนมากที่เป็นโอกาสของคนไทย ถึงเวลาที่ต้องรื้อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ทั้ง อุตสาหกรรมพลังงาน, อุตสาหกรรมการเงิน, อุตสาหกรรมการเกษตร และที่สำคัญ รื้อระบบราชการ ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้า ได้นำเสนอมาตลอด
หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวขยายภาพนโยบายว่า ในส่วนของภาคพลังงาน ต้องทำให้ต้นทุนพลังงานภาคอุตสาหกรรมไทยลดลง ทั้งเรื่องราคาน้ำมัน และพลังงานไฟฟ้า โดยราคาน้ำมัน ต้องรื้อระบบการกำหนดราคาตลาด ราคาค่าการกลั่น ยกเลิกการกำหนดค่าการกลั่น โดยอิงจากตลาดสิงคโปร์มาอิงค่าการกลั่นโดยอิงตลาดในประเทศไทย ส่วนพลังงานไฟฟ้า กำหนดค่าเอฟทีเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้บริโภค ด้านภาษี ต้องให้ความเป็นธรรมกับมนุษย์เงินเดือน คนทำงาน ยกเลิกแบล็กลิสต์ มาใช้ระบบเครดิตสกอร์ เพื่อให้โอกาสประชาชนตลอดจนผู้ประกอบการคนตัวเล็กได้ลืมตาอ้าปากได้ ส่วนภาคเกษตร ต้องรื้อระบบสหกรณ์ เพื่อเป็นตัวช่วยในการขายเพิ่มมูลค่าผลผลิตภาคการเกษตร และที่สำคัญคือการรื้อระบบราชการมาสู่ดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสลดโอกาสทุจริตคอร์รัปชั่น”
“การเหยียบคันเร่งต้องเหยียบด้วยยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นกระแสหลักของโลก และเอาของดีของเราเป็นของดี เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน โดยพรรคชาติพัฒนากล้าได้ใช้แนวนโยบาย Spectrum Economy หรือ เศรษฐกิจเฉดสี โดยเศรษฐกิจสีเขียวปรับการผลิตพลังงานให้อิงกับพลังงานหมุนเวียน เพิ่มรายได้ยั่งยืนให้เกษตรกร ปลูกป่าเศรษฐกิจ, เศรษกิจสีเทา ประเทศไทยมีเศรษฐกิจนอกระบบมากที่สุดในโลก เอามาอยู่ในที่สว่าง เก็บภาษีได้,เศรษฐกิจขาว หรือเศรษฐกิจสายมู กระจายการท่องเที่ยวแนวศรัทธา ส่งเสริมนโยบายสีน้ำเงิน สร้างแพลตฟอร์มคนไทย ลดต้นทุนผู้ประกอบการ, เศรษฐกิจสีเหลืองหรือเศรษฐกิจสร้รางสรรค์ สนับสนุนสตาร์ทอัพ Soft Power , เศรษฐกิจสีรุ้ง ให้สิทธิที่เป็นธรรมกับเพศสภาพที่หลากหลาย พรรคชาติพัฒนากล้ามองมิติตเศรษฐกิจ กำลังซื้อ มหาศาลของ LGBTQ เป็นลูกค้าทางเศรษฐกิจให้กับคนไทย ซึ่งทั้งต้องรื้อและเร่งให้เป็นโอกาสของคนไทย ซึ่งทุกเฉดสีตามยุทธศาสตร์ Spectrum Economy จะเพิ่มรายได้เข้าประเทศไทยรวม 5 ล้านล้านบาท” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว .-สำนักข่าวไทย