มั่นใจหากเป็นรัฐบาลยาเสพติดหมดไป

ที่พรรคเพื่อไทย 31 ม.ค.- “เพื่อไทย” จัดเสวนา “หยุดประยุทธ์ หยุดคอร์รัปชัน หยุดยาเสพติด หยุดธุรกิจสีเทา”ด้าน “หมอชลน่าน” ชี้ ถึงเวลาที่คนไทยต้องร่วมมือกันหยุดรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ระบุ หากเป็นรัฐบาลยาเสพติดจะหมดไป


พรรคเพื่อไทย จัดเสวนา หยุดประยุทธ์ หยุดคอร์รัปชัน หยุดยาเสพติด หยุดธุรกิจสีเทา โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สร้างในสิ่งที่เป็นมหันตภัยอันใหญ่หลวง ทำลายโอกาสของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ทำลายสิทธิเสรีภาพและการปกครองในรอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ดึงประเทศไทยที่กำลังจะมีประชาธิปไตยเต็มใบ กระชากกลับไปสู่ยุคเผด็จการ สร้างรอยด่างไว้มาก อาจทำให้ธนาธิปไตย หรือ Money Politic จะกลับมา จากการคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งจะมีการใช้เงินหลายหมื่นล้านบาท แต่ส่วนตัวตนเชื่อว่า ตอนนี้เงินจะไม่สามารถซื้อเสียงของประชาชนได้ เพราะไม่มีใครอยากเสียโอกาสอีกแล้ว


นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ มอบให้คือการสูญเสียโอกาสของประชาชน จากโรคระบาดสู่ธุรกิจ เกิดปัญหาเชิงสังคมหลายมิติอย่างยาเสพติด ธุรกิจสีเทา ที่กลับมาเบ่งบาน การใช้ทรัพยากรของชาติบ้านเมืองอย่างไร้ทิศทาง รวมถึงการใช้สิทธิเสรีภาพอย่างมิชอบ การบังคับใช้กฎหมายที่ล้นเกิน ไร้นิติรัฐนิติธรรม ใช้กฎหมายทำลายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามและผู้เห็นต่างทางการเมือง



“พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศตัวเข้าสู่ระบบการเมือง เป็นนักการเมืองเต็มตัว ลงรับสมัครเลือกตั้ง เขาบอกว่าไปต่ออีก 2 ปี พลิกโฉม แต่กลัวว่าอาจไม่ใช่แค่ 2 ปีพลิกโฉม แต่เป็นพลิกโฉมประเทศลงเหว ดังนั้น ถ้าไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ และเครือข่ายพล.อ.ประยุทธ์ กลับมา ขอชวนพี่น้องประชาชนมาหยุดพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยกัน ด้วยอำนาจประชาชนที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ด้วยเสียงของพี่น้องประชาชนที่มีความชอบธรรม จับปากกาเข้าคูหาและเลือกพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทย ทั้งคนและพรรค ถ้าผลการนับคะแนนจากเสียงประชาชนออกมา แล้วพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ไปต่อ เขาจะยอมรับและกลับไปอยู่บ้าน ถ้าหยุดประยุทธ์ได้ เท่ากับหยุดคอร์รัปชัน หยุดยาเสพติด หยุดธุรกิจสีเทา ได้” นพ.ชลน่าน กล่าว


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์และการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การคอร์รัปชันที่แย่ที่สุดคือการ “คอร์รัปชันอำนาจ” ซึ่งเกิดขึ้นมาตลอด และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กรณีดาราสาวไต้หวันถูกตำรวจไทยไถเงิน ต่อจากคลิปนักท่องเที่ยวจีนจ้างตำรวจไทยรับตั้งแต่สนามบินจนมีรถตำรวจนำพาเที่ยวที่คนเข้าดูเป็นล้านๆคน และก่อนหน้านี้ก็มีคดีตู้ห่าว ซึ่งเกี่ยวพันถึงหลานชายพลเอกประยุทธ์ และมีการทุจริตของอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่เกี่ยวข้องเป็นญาติกับเพื่อนสนิทพลเอกประยุทธ์ นอกจากนี้ยังพิสูจน์ชัดเจนจากดัชนีสากลที่วัดความโปร่งใสในการทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งปรากฏว่าอันดับความโปร่งใสของประเทศไทย ลดลงมาโดยตลอด โดยในปี 2560 อยู่อันดับ ที่ 96 ปี 2561 อยู่อันดับที่ 99 ปี 2562 อยู่อันดับที่ 101 และ ปี 2563 อยู่อันดับที่ 104 และ ปี 2564 อยู่อันดับที่ 110 ซึ่งชัดเจนว่า ทุจริตในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาตลอด


นายพิชัย ยังกล่าวว่า การทุจริตขยายวงกว้างในทุกวงการ ทั้งเรื่อง ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ทั้งเรื่องการซื้อขายเพื่อโยกย้ายตำแหน่ง จนเป็นสาเหตุให้ยาเสพติดระบาดมาก การดันทุรังซื้อเรือดำน้ำทั้งที่เครื่องยนต์ไม่ตรงสเป็ก แต่จะเอาเครื่องยนต์อื่นใส่ เรือล่มโดยไม่มีเสื้อชูชีพเพียงพอ รวมไปถึงทุจริตด้านนโยบาย การอนุญาตให้เกิดการผูกขาด ซึ่งเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจอย่างมาก แต่การทุจริตที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบอย่างมากกับประเทศจนถึงปัจจุบันคือการทุจริตทางด้านอำนาจ ซึ่งทำให้ประเทศเสื่อมถอยจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหาร และยังจะสืบทอดอำนาจโดยการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อเข้าข้างตนเอง แต่ความรู้ความสามารถไม่ถึงทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่จนถึงปัจจุบัน พอคนวิจารณ์ก็ถูกเรียกปรับทัศนคติเหมือนที่ตนเคยถูกเรียกทั้งหมด 12 หน และตั้งแต่มีการเลือกตั้งในปี 2562 เป็นต้นมา เศรษฐกิจไทยยังอยู่กับที่ไม่ได้ไปไหนเลย เศรษฐกิจปี 2562 ขยายได้เพียง 2.4% ในปี 2563 เศรษฐกิจติดลบที่ – 6.2% จากวิกฤติการณ์โควิด ในปี 2564 ขยายได้เพียง 1.5% และปี 2565 น่าจะขยายได้เพียง 3% รวม 4 ปีแล้วเศรษฐกิจไทยยังขยายได้ไม่ถึง 1% ตลอด 4 ปีซึ่งย่ำแย่อย่างมาก แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังจะอยากอยู่ต่อ



นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คำว่าทุนจีนสีเทาได้ยินครั้งแรกในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้นตอในการแก้ไขปัญหานี้ล่าช้าไม่ทันการณ์ เพราะหัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก เมื่อผู้บังคับบัญชาระดับบนไม่กำชับ ไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง วิธีการแก้ไขทุนจีนสีเทา หรือทุนรูปแบบอื่นๆ คือ ต้องทำให้ขาว ประเทศไทยต้องได้ภาษี เหมือนกรณีที่ร้านอาหารไทยในยุโรปถูกเก็บภาษี 27% หากมีทัวร์จีนเข้ามาก็สามารถเก็บภาษี 30% มากกว่าทัวร์ไทยถูกเก็บ 10% เป็นต้น


นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.66) คาดว่าร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง ไม่น่าผ่านการพิจารณาของสภา เราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการคัดค้านกฎหมายนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลนี้เห็นคนไม่เท่ากัน ไม่เคยให้ความสำคัญ ไม่เห็นหัวประชาชน ดิสต์เครดิตการทำงานสภาตลอด ส.ส.ซึ่งเป็นผู้แทนประชาชนมีหลากหลาย มีตั้งแต่ดินถึงภูเขา เป็นการรวมกันของสภาประชาชน เพื่อไทยมีประชาชนเป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็ก โอกาสของประชาชนมาถึงแล้ว ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจากทฤษฎีเชิงประจักษ์ที่เห็นมาตั้งแต่ ปี 2557 หากกลไก 3 ส่วนถ่วงดุลกันได้ ทั้งนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ทุนจีนสีเทาไม่มีแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง แต่ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมเผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ เผยหากเหตุการณ์ประทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 ทั้งสองฝ่ายเห็นพร้อมที่จะหยุดยิง […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]