มั่นใจหากเป็นรัฐบาลยาเสพติดหมดไป

ที่พรรคเพื่อไทย 31 ม.ค.- “เพื่อไทย” จัดเสวนา “หยุดประยุทธ์ หยุดคอร์รัปชัน หยุดยาเสพติด หยุดธุรกิจสีเทา”ด้าน “หมอชลน่าน” ชี้ ถึงเวลาที่คนไทยต้องร่วมมือกันหยุดรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ระบุ หากเป็นรัฐบาลยาเสพติดจะหมดไป


พรรคเพื่อไทย จัดเสวนา หยุดประยุทธ์ หยุดคอร์รัปชัน หยุดยาเสพติด หยุดธุรกิจสีเทา โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สร้างในสิ่งที่เป็นมหันตภัยอันใหญ่หลวง ทำลายโอกาสของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ทำลายสิทธิเสรีภาพและการปกครองในรอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ดึงประเทศไทยที่กำลังจะมีประชาธิปไตยเต็มใบ กระชากกลับไปสู่ยุคเผด็จการ สร้างรอยด่างไว้มาก อาจทำให้ธนาธิปไตย หรือ Money Politic จะกลับมา จากการคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งจะมีการใช้เงินหลายหมื่นล้านบาท แต่ส่วนตัวตนเชื่อว่า ตอนนี้เงินจะไม่สามารถซื้อเสียงของประชาชนได้ เพราะไม่มีใครอยากเสียโอกาสอีกแล้ว


นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ มอบให้คือการสูญเสียโอกาสของประชาชน จากโรคระบาดสู่ธุรกิจ เกิดปัญหาเชิงสังคมหลายมิติอย่างยาเสพติด ธุรกิจสีเทา ที่กลับมาเบ่งบาน การใช้ทรัพยากรของชาติบ้านเมืองอย่างไร้ทิศทาง รวมถึงการใช้สิทธิเสรีภาพอย่างมิชอบ การบังคับใช้กฎหมายที่ล้นเกิน ไร้นิติรัฐนิติธรรม ใช้กฎหมายทำลายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามและผู้เห็นต่างทางการเมือง



“พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศตัวเข้าสู่ระบบการเมือง เป็นนักการเมืองเต็มตัว ลงรับสมัครเลือกตั้ง เขาบอกว่าไปต่ออีก 2 ปี พลิกโฉม แต่กลัวว่าอาจไม่ใช่แค่ 2 ปีพลิกโฉม แต่เป็นพลิกโฉมประเทศลงเหว ดังนั้น ถ้าไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ และเครือข่ายพล.อ.ประยุทธ์ กลับมา ขอชวนพี่น้องประชาชนมาหยุดพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยกัน ด้วยอำนาจประชาชนที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ด้วยเสียงของพี่น้องประชาชนที่มีความชอบธรรม จับปากกาเข้าคูหาและเลือกพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทย ทั้งคนและพรรค ถ้าผลการนับคะแนนจากเสียงประชาชนออกมา แล้วพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ไปต่อ เขาจะยอมรับและกลับไปอยู่บ้าน ถ้าหยุดประยุทธ์ได้ เท่ากับหยุดคอร์รัปชัน หยุดยาเสพติด หยุดธุรกิจสีเทา ได้” นพ.ชลน่าน กล่าว


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์และการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การคอร์รัปชันที่แย่ที่สุดคือการ “คอร์รัปชันอำนาจ” ซึ่งเกิดขึ้นมาตลอด และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กรณีดาราสาวไต้หวันถูกตำรวจไทยไถเงิน ต่อจากคลิปนักท่องเที่ยวจีนจ้างตำรวจไทยรับตั้งแต่สนามบินจนมีรถตำรวจนำพาเที่ยวที่คนเข้าดูเป็นล้านๆคน และก่อนหน้านี้ก็มีคดีตู้ห่าว ซึ่งเกี่ยวพันถึงหลานชายพลเอกประยุทธ์ และมีการทุจริตของอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่เกี่ยวข้องเป็นญาติกับเพื่อนสนิทพลเอกประยุทธ์ นอกจากนี้ยังพิสูจน์ชัดเจนจากดัชนีสากลที่วัดความโปร่งใสในการทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งปรากฏว่าอันดับความโปร่งใสของประเทศไทย ลดลงมาโดยตลอด โดยในปี 2560 อยู่อันดับ ที่ 96 ปี 2561 อยู่อันดับที่ 99 ปี 2562 อยู่อันดับที่ 101 และ ปี 2563 อยู่อันดับที่ 104 และ ปี 2564 อยู่อันดับที่ 110 ซึ่งชัดเจนว่า ทุจริตในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาตลอด


นายพิชัย ยังกล่าวว่า การทุจริตขยายวงกว้างในทุกวงการ ทั้งเรื่อง ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ทั้งเรื่องการซื้อขายเพื่อโยกย้ายตำแหน่ง จนเป็นสาเหตุให้ยาเสพติดระบาดมาก การดันทุรังซื้อเรือดำน้ำทั้งที่เครื่องยนต์ไม่ตรงสเป็ก แต่จะเอาเครื่องยนต์อื่นใส่ เรือล่มโดยไม่มีเสื้อชูชีพเพียงพอ รวมไปถึงทุจริตด้านนโยบาย การอนุญาตให้เกิดการผูกขาด ซึ่งเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจอย่างมาก แต่การทุจริตที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบอย่างมากกับประเทศจนถึงปัจจุบันคือการทุจริตทางด้านอำนาจ ซึ่งทำให้ประเทศเสื่อมถอยจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหาร และยังจะสืบทอดอำนาจโดยการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อเข้าข้างตนเอง แต่ความรู้ความสามารถไม่ถึงทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่จนถึงปัจจุบัน พอคนวิจารณ์ก็ถูกเรียกปรับทัศนคติเหมือนที่ตนเคยถูกเรียกทั้งหมด 12 หน และตั้งแต่มีการเลือกตั้งในปี 2562 เป็นต้นมา เศรษฐกิจไทยยังอยู่กับที่ไม่ได้ไปไหนเลย เศรษฐกิจปี 2562 ขยายได้เพียง 2.4% ในปี 2563 เศรษฐกิจติดลบที่ – 6.2% จากวิกฤติการณ์โควิด ในปี 2564 ขยายได้เพียง 1.5% และปี 2565 น่าจะขยายได้เพียง 3% รวม 4 ปีแล้วเศรษฐกิจไทยยังขยายได้ไม่ถึง 1% ตลอด 4 ปีซึ่งย่ำแย่อย่างมาก แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังจะอยากอยู่ต่อ



นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คำว่าทุนจีนสีเทาได้ยินครั้งแรกในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้นตอในการแก้ไขปัญหานี้ล่าช้าไม่ทันการณ์ เพราะหัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก เมื่อผู้บังคับบัญชาระดับบนไม่กำชับ ไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง วิธีการแก้ไขทุนจีนสีเทา หรือทุนรูปแบบอื่นๆ คือ ต้องทำให้ขาว ประเทศไทยต้องได้ภาษี เหมือนกรณีที่ร้านอาหารไทยในยุโรปถูกเก็บภาษี 27% หากมีทัวร์จีนเข้ามาก็สามารถเก็บภาษี 30% มากกว่าทัวร์ไทยถูกเก็บ 10% เป็นต้น


นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.66) คาดว่าร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง ไม่น่าผ่านการพิจารณาของสภา เราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการคัดค้านกฎหมายนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลนี้เห็นคนไม่เท่ากัน ไม่เคยให้ความสำคัญ ไม่เห็นหัวประชาชน ดิสต์เครดิตการทำงานสภาตลอด ส.ส.ซึ่งเป็นผู้แทนประชาชนมีหลากหลาย มีตั้งแต่ดินถึงภูเขา เป็นการรวมกันของสภาประชาชน เพื่อไทยมีประชาชนเป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็ก โอกาสของประชาชนมาถึงแล้ว ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจากทฤษฎีเชิงประจักษ์ที่เห็นมาตั้งแต่ ปี 2557 หากกลไก 3 ส่วนถ่วงดุลกันได้ ทั้งนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ทุนจีนสีเทาไม่มีแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]