เสนอตั้ง กก.ตรวจสอบระดับชาติ ปมป้ายโฆษณาทำพาสปอร์ต-เปลี่ยนแปลงสัญชาติ

กทม. 22 ก.ค.- ปธ.กมธ.ตำรวจ ยกเจ้าของโพสต์ป้ายโฆษณา ทำพาสปอร์ต-เปลี่ยนแปลงสัญชาติ สร้างแรงกระเพื่อม ทำให้หลายหน่วยงานต้องชี้แจง ตอกย้ำกลุ่มทุนจีนสีเทากำลังสร้างอิทธิพลในประเทศไทย เสนอตั้งคณะกรรมการตรวจสอบระดับชาติ มีนายกฯ – มท. – กต. – ตร. ร่วมทำงาน หวังลดภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นฐานกระทำผิดของกลุ่มทุนจีนสีเทา


นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พบป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บริเวณสี่แยกห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เป็นภาษาจีน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการรับจ้างทำพาสปอร์ตและดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัญชาติต่างๆ ว่า ต้องขอขอบคุณบุคคลที่นำเรื่องราวนี้มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนมีประชาชนตั้งข้อสงสัย และทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขยับแสดงท่าทีถึงเรื่องนี้

ทั้งนี้ ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร มีความเห็นว่า การที่อยู่ดีๆ จะขึ้นป้ายซื้อขายพาสปอร์ตและจ้างทำสัญชาติแต่ละประเทศนั้นจะต้องมีคนที่มีส่วนกับการขออนุญาตเกี่ยวข้องแน่นอน และด้วยสามัญสำนึกแล้ว เนื้อหาบนป้ายโฆษณา เป็นการซื้อขายข้อมูลเอกสารที่ส่งผลต่อความมั่นคงและการเมืองระหว่างประเทศ แต่ทำไมผู้อนุญาตให้ขึ้นป้ายกลับปล่อยปละละเลยให้มีการขึ้นป้ายอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้


นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องไม่ลืมคือ กรณีกลุ่มทุนจีนสีเทาที่เข้ามาในประเทศไทย นอกจากจะมีการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายทั่วประเทศแล้ว กลุ่มทุนจีนสีเทาขณะนี้ยังได้เกาะกลุ่มยึดพื้นที่ต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเขตอำนาจอิทธิพลที่ได้ยึดครอง โดยเฉพาะบริเวณเขตห้วยขวางที่กำลังจะกลายเป็นฐานปฏิบัติการของคนกลุ่มนี้ การที่ขึ้นป้ายโฆษณาว่าสามารถทำพาสปอร์ตและเปลี่ยนแปลงสัญชาติในหลายประเทศได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นฐานอาชญากรรมของพวกกลุ่มทุนจีนสีเทา และเป็นการตอกย้ำถึงกระบวนการต่างๆ เช่น การบังคับใช้กฎหมาย การขอสัญชาติ การขอพาสปอร์ต การดูแลเอกสารสำคัญ เป็นต้น มีความหละหลวม และมีช่องโหว่เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น ในเบื้องต้นจึงอยากเรียกร้องให้ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะต้องสอบสวนเจ้าหน้าที่ของเขตว่า ทำไมจึงปล่อยให้มีป้ายโฆษณาในลักษณะเช่นนี้ และควรมีบทลงโทษกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นป้ายดังกล่าว ต่อมาทางสถานีตำรวจห้วยขวาง ควรที่จะลงมาดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจังถึงกรณีที่เกิดขึ้น เพราะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและสวัสดิภาพของประชาชนในละแวกนั้น เพราะการที่ปล่อยปละละเลยจนทำให้กลุ่มทุนจีนสีเทามาอยู่อาศัยเป็นฐานปฏิบัติการในการกระทำผิดกฎหมายนั้น ถือเป็นเรื่องที่คนไทยมีความคาดหวังว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มากกว่าจะยินยอมให้กลุ่มทุนจีนสีเทา ยึดพื้นที่มาเคลื่อนไหว และในส่วนระดับชาติ ตนจึงอยากให้มีการเสนอตั้งคณะกรรมการสอบสวนและวางมาตรการถึงเรื่องดังกล่าว โดยเสนอให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีบุคคลที่รับผิดชอบเกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย ในเรื่องของการขอสัญชาติ และดูแลเกี่ยวกับการอนุญาตขึ้นป้ายโฆษณา กระทรวงการต่างประเทศ ในเรื่องการขอพาสปอร์ต และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น เพื่อดำเนินการควบคุมและไม่ให้กลุ่มทุนจีนสีเทา มีอำนาจอิทธิพลในประเทศไทย ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจ และไม่ให้สร้างภาพลักษณ์เสียหายต่อประเทศด้วย

“กรณีนี้ผมต้องยกย่องเจ้าของโพสต์ที่อาจจะถ่ายรูปป้ายโฆษณาและเกิดความสงสัยว่า ป้ายนั้นมีข้อความอย่างไร แต่เมื่อใช้เครื่องมือแปลภาษาปรากฏว่า เป็นเรื่องร้ายแรงที่ส่งผลต่อความมั่นคงและการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้เกิดแรงกระเพื่อม จนมีหลายหน่วยงานออกมาชี้แจง และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้ลงพื้นที่สอบถามถึงเรื่องดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ ผมในฐานะประธานกรรมาธิการการตำรวจ ฯ จะเกาะติดประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีประชาชนในหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัด ร้องเรียนมาว่าได้รับผลกระทบจากกลุ่มทุนจีนเทา จนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขได้ ซึ่งการขึ้นป้ายว่า สามารถทำพาสปอร์ตและเปลี่ยนแปลงสัญชาติได้นั้น ถือเป็นการยกระดับการกระทำผิดของกลุ่มทุนจีนสีเทา ถึงขั้นสามารถทำเอกสารและปลอมแปลงข้อมูลสำคัญของแต่บุคคลได้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างถึงระดับนานาชาติ ดังนั้น ผมจึงอยากให้รัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่าได้ละเลยประเด็นนี้ เพราะเชื่อว่ากลุ่มทุนจีนสีเทากำลังจะสร้างประเทศไทยให้เป็นฐานปฏิบัติการ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับคนไทยและประเทศชาติในอนาคตอันใกล้” นายชัยชนะ กล่าว .-319 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลแถลงยันกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ยื่นประท้วง ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลแถลงยืนยันไทยมีความจริงใจ-หยุดยิงตามข้อตกลง แต่กัมพูชากลับยิงใส่ทหารไทยหลายพื้นที่ จึงได้ประท้วงไปที่ ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน ขอประชาชนอย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้รอผลยืนยันจากรัฐ พร้อมสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ปกป้องอธิปไตยประเทศ-คุ้มครองประชาชน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจ และใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะยุติสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุด การเจรจาจนมีข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน และยึดถืออำนาจอธิปไตยของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทหารของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความหวังร่วมกันของประชาคมโลกที่จะคืนสันติภาพแก่ประชาชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเคารพต่อผลการหารือที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า กองกำลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการใช้อาวุธยิงต่อกำลังฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ทหารฝ่ายไทยต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ได้รับทราบว่า การละเมิดข้อตกลงนี้เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจของกัมพูชาอย่างชัดเจน สถานการณ์ในขณะนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพตรึงกำลัง เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ยินยอมให้อธิปไตยไทยถูกล่วงล้ำไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาคของทั้ง 2 ประเทศ […]

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

เปิด 7 ข้อตกลง วงหารือ “กองทัพภาค 2 – กัมพูชา”

29 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการทางทหารฝ่ายกัมพูชา ก่อนได้ข้อสรุปตกลงร่วมกัน 7 ข้อ พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ได้พบปะกับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ในพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยได้หารือและมีข้อตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่รถตู้ของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ฝั่งไทย จะขับออกจากด่านช่องจอมไป -สำนักข่าวไทย