ส.ว.ถกรายงานแก้ปัญหาซื้อเสียง ผุดไอเดียแจกเงิน 500 บาท

รัฐสภา 23 ม.ค.- ส.ว.ถกรายงานศึกษาแก้ปัญหาซื้อเสียงเลือกตั้ง ผุดไอเดียแจกเงินคนละ 500 บาทเป็นค่าพาหนะใช้สิทธิเลือกตั้ง “ส.ว.วงศ์สยาม” บอกใช้งบเพียง 20,000 ล้านบาทเอง แถมยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้าน “พรเพชร” เตือน ส.ว. อย่ายุ่งเกี่ยวการเลือกตั้งครั้งหน้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (23 ม.ค.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาเป็นประธานการประชุม ประธานวุฒิสภา ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการทำหน้าที่ของวุฒิสภา หลังพลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภา ได้ตั้งคำถามกรณีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ที่มีกรอบระยะเวลาการดำเนินงานใน 60 วันว่า หากคณะกรรมการชุดดังกล่าวพิจารณาเสร็จแล้วจะสามารถเสนอผลการดำเนินงานต่อที่ประชุมวุฒิสภาอย่างไรเพราะมีการปิดสมัยประชุมไปแล้ว หรือต้องรอการเปิดสมัยประชุมใหม่ในอีก 6-7 เดือนหรือไม่
ประธานวุฒิสภา ชี้แจงว่า สมัยประชุมนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะไม่มีการประชุมวุฒิสภาจนกว่าจะเปิดสมัยประชุม โดยในสมัยปิดประชุมรัฐสภา วุฒิสภายังสามารถทำหน้าที่ในชั้นกรรมาธิการได้ตามปกติ แต่มีข้อควรระวังห้ามวุฒิสภาไปดำเนินการที่มีผลต่อการหาเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งห้ามเข้าไปแทรกแซงก้าวก่ายการทำงานของรัฐบาล ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 126 กำหนดว่า ในระหว่างไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าด้วยเหตุ สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ หรือถูกยุบ จะไม่สามารถประชุมวุฒิสภาได้ ยกเว้นมีความจำเป็นต้องที่วุฒิสภาต้องประชุมเพื่อสรรหาบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ประธานวุฒิสภาสามารถนำความขึ้นกราบบังคมทูล ขอให้มีพระบรมราชโองการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ โดยให้ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เพื่อให้วุฒิสภาทำหน้าที่แทนรัฐสภาได้

จากนั้น ที่ประชุมเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณารับทราบรายงานการศึกษาเรื่องแนวทางการส่งเสริมและการพัฒนาการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม ของคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธาน โดยสาระสำคัญเพื่อเสนอแนวทางและนโนบายให้คณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการการเลือกตั้งไปพิจารณาแก้ไขปัญหาและดำเนินการให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม


นายเสรี กล่าวว่า รายงานฉบับนี้จะทำให้เกิดผลดีในการทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามกฎหมาย แต่จะมีผลกระทบกับนักการเมืองบางส่วน โดยเฉพาะแนวทางในการแก้ไขปัญหาการซื้อเสียง ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแล้วเห็นว่า ประชาชนควรได้รับค่าตอบแทนการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การวางแนวทางให้คนรับเงินซื้อเสียงไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงการเสนอแนวทางลดการจำกัดไม่ให้ประชาชนหารายได้จำหน่วยสินค้าระหว่างที่มีการปราศรัยเลือกตั้ง เป็นต้น

ด้านนายวงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี เลขานุการกรรมาธิการฯ นำเสนอรายละเอียดของรายงานดังกล่าวว่า จากการศึกษาปัญหาในการเลือกตั้งพบปัญหาสำคัญ คือการทุจริตการเลือกตั้งของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งปัญหานี้กรรมาธิการฯเสนอแนวทางแก้ไขให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ สร้างวินัยให้ประชาชนเป็นพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย มีจิตสำนึกรับผิดชอบร่วมต่อต้านทุจริต มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด แก้ไขกฎหมายให้ผู้ที่ขายสิทธิหรือผู้ที่รับเงินซื้อเสียงไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากเรื่องนี้พบว่าประชาชนมีความจำเป็นต้องรับเงินซื้อเสียงจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่ไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นพยานได้ เพราะต้องถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ซื้อเสียงเลือกตั้ง สุดท้ายไม่สามารถสาวถึงตัวผู้ซื้อเสียงเลือกตั้งได้

นายวงศ์สยาม กล่าวว่า วันนี้มีผู้ซื้อสิทธิขายเสียงอยู่มากมาย ประกอบกับสังคมไทยเป็นระบบอุปถัมภ์ จึงอยากเสนอให้ กกต.กำหนดให้มีค่าพาหนะสำหรับประชาชนที่เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในเบื้องต้นกำหนดให้คนละ 500 บาท ซึ่งจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง โดยคำนวณจากผู้สิทธิเลือกตั้งประมาณ 40 ล้านคน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และยังช่วยให้ประชาชนเกิดแนวคิดที่จะตอบแทนคุณแผ่นดิน เพราะประชาชนได้รับเงินหลวง ไม่ใช่นักการเมือง ทำให้ประชาชนเลือกคนดี มีความรู้ เข้ามาทำหน้าที่


นายวงศ์สยาม ยังกล่าวว่า ทุกวันนี้นโยบายของรัฐบาลในการให้งบประมาณประชาชน 300-500 ต่อเดือนรวมถึงคนละครึ่ง ปีหนึ่งใช้งบประมาณเป็นแสนกว่าล้านบาท ในขณะที่การเลือกตั้งเกิดขึ้น 4 ปีครั้ง

นอกจากนี้ ในกฎหมายเลือกตั้งยังมีข้อห้ามไม่ให้นักการเมืองขนคนมาเลือกตั้ง แต่ในข้อเท็จจริงในต่างจังหวัดอยู่ในพื้นที่ห่างไกล จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งการเสนอเงื่อนไขนี้อย่างน้อยทำให้ประชาชนรู้สึกว่าประชาธิปไตยกินได้ตั้งแต่การเลือกตั้งใช้สิทธิ แม้การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ แต่ข้อเท็จจริงมีค่าใช้จ่าย สังคมไทยจึงควรยอมรับความเป็นจริงเหล่านี้

กรรมาธิการฯยังเสนอให้มีการแก้กฎหมาย กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่ลาออกจากตำแหน่งไปลงเลือกตั้งในตำแหน่งอื่น จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมที่เกิดขึ้นด้วย เช่นผู้ใหญ่บ้านลาออกไปดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน ลาออกไปลงสมาชิก อบจ. หรือ สมาชิก อบจ.ไปลงตำแหน่ง สจ. ย่อมทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมมากมายทั่วประเทศ ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมต้องเกิดขึ้นด้วยความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน กรรมาธิการฯยังเสนอให้แก้กฎหมายระยะเวลาการลงคะแนนจาก 8.00-17.00 น. เป็น 8.00-16.00 น. เพื่อแก้ไขปัญหาการนับคะแนนล่าช้าด้วย

อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการฯมีข้อสังเกตเพิ่มเติม จากคณะอนุกรรมาธิการติดตามการเลือกตั้ง เนื่องจากมีการแก้ไขบัตรเลือกตั้งให้เป็นระบบบัตร 2 ใบ จากเดิมระบบบัตรใบเดียว ประกอบกับการเลือกตั้ง ส.ส.ในแต่ละเขต คะแนนของผู้ชนะการเลือกตั้ง มีคะแนนน้อยกว่าผู้สมัครรายอื่นๆรวมกัน จึงถือเป็นประชาธิปไตยเสียงข้างน้อย ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับ ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากเสนอให้มีการเลือกตั้งบัตรใบเดียว โดยไม่ต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ให้เอาผู้ได้รับคะแนนการเลือกตั้งลำดับที่ 2 มาเป็น ส.ส บัญชีรายชื่อแทน ทำให้มี ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนทั้งหมด

นายวงศ์สยาม ย้ำว่า การศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาเฉพาะกรณีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง หรือการเลือกตั้งซ่อมเท่านั้น ยังไม่ศึกษาจากการเลือกตั้งใหญ่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม