ส.ว.ถกรายงานแก้ปัญหาซื้อเสียง ผุดไอเดียแจกเงิน 500 บาท

รัฐสภา 23 ม.ค.- ส.ว.ถกรายงานศึกษาแก้ปัญหาซื้อเสียงเลือกตั้ง ผุดไอเดียแจกเงินคนละ 500 บาทเป็นค่าพาหนะใช้สิทธิเลือกตั้ง “ส.ว.วงศ์สยาม” บอกใช้งบเพียง 20,000 ล้านบาทเอง แถมยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้าน “พรเพชร” เตือน ส.ว. อย่ายุ่งเกี่ยวการเลือกตั้งครั้งหน้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (23 ม.ค.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาเป็นประธานการประชุม ประธานวุฒิสภา ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการทำหน้าที่ของวุฒิสภา หลังพลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภา ได้ตั้งคำถามกรณีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ที่มีกรอบระยะเวลาการดำเนินงานใน 60 วันว่า หากคณะกรรมการชุดดังกล่าวพิจารณาเสร็จแล้วจะสามารถเสนอผลการดำเนินงานต่อที่ประชุมวุฒิสภาอย่างไรเพราะมีการปิดสมัยประชุมไปแล้ว หรือต้องรอการเปิดสมัยประชุมใหม่ในอีก 6-7 เดือนหรือไม่
ประธานวุฒิสภา ชี้แจงว่า สมัยประชุมนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะไม่มีการประชุมวุฒิสภาจนกว่าจะเปิดสมัยประชุม โดยในสมัยปิดประชุมรัฐสภา วุฒิสภายังสามารถทำหน้าที่ในชั้นกรรมาธิการได้ตามปกติ แต่มีข้อควรระวังห้ามวุฒิสภาไปดำเนินการที่มีผลต่อการหาเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งห้ามเข้าไปแทรกแซงก้าวก่ายการทำงานของรัฐบาล ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 126 กำหนดว่า ในระหว่างไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าด้วยเหตุ สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ หรือถูกยุบ จะไม่สามารถประชุมวุฒิสภาได้ ยกเว้นมีความจำเป็นต้องที่วุฒิสภาต้องประชุมเพื่อสรรหาบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ประธานวุฒิสภาสามารถนำความขึ้นกราบบังคมทูล ขอให้มีพระบรมราชโองการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ โดยให้ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เพื่อให้วุฒิสภาทำหน้าที่แทนรัฐสภาได้

จากนั้น ที่ประชุมเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณารับทราบรายงานการศึกษาเรื่องแนวทางการส่งเสริมและการพัฒนาการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม ของคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธาน โดยสาระสำคัญเพื่อเสนอแนวทางและนโนบายให้คณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการการเลือกตั้งไปพิจารณาแก้ไขปัญหาและดำเนินการให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม


นายเสรี กล่าวว่า รายงานฉบับนี้จะทำให้เกิดผลดีในการทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามกฎหมาย แต่จะมีผลกระทบกับนักการเมืองบางส่วน โดยเฉพาะแนวทางในการแก้ไขปัญหาการซื้อเสียง ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแล้วเห็นว่า ประชาชนควรได้รับค่าตอบแทนการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การวางแนวทางให้คนรับเงินซื้อเสียงไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงการเสนอแนวทางลดการจำกัดไม่ให้ประชาชนหารายได้จำหน่วยสินค้าระหว่างที่มีการปราศรัยเลือกตั้ง เป็นต้น

ด้านนายวงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี เลขานุการกรรมาธิการฯ นำเสนอรายละเอียดของรายงานดังกล่าวว่า จากการศึกษาปัญหาในการเลือกตั้งพบปัญหาสำคัญ คือการทุจริตการเลือกตั้งของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งปัญหานี้กรรมาธิการฯเสนอแนวทางแก้ไขให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ สร้างวินัยให้ประชาชนเป็นพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย มีจิตสำนึกรับผิดชอบร่วมต่อต้านทุจริต มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด แก้ไขกฎหมายให้ผู้ที่ขายสิทธิหรือผู้ที่รับเงินซื้อเสียงไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากเรื่องนี้พบว่าประชาชนมีความจำเป็นต้องรับเงินซื้อเสียงจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่ไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นพยานได้ เพราะต้องถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ซื้อเสียงเลือกตั้ง สุดท้ายไม่สามารถสาวถึงตัวผู้ซื้อเสียงเลือกตั้งได้

นายวงศ์สยาม กล่าวว่า วันนี้มีผู้ซื้อสิทธิขายเสียงอยู่มากมาย ประกอบกับสังคมไทยเป็นระบบอุปถัมภ์ จึงอยากเสนอให้ กกต.กำหนดให้มีค่าพาหนะสำหรับประชาชนที่เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในเบื้องต้นกำหนดให้คนละ 500 บาท ซึ่งจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง โดยคำนวณจากผู้สิทธิเลือกตั้งประมาณ 40 ล้านคน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และยังช่วยให้ประชาชนเกิดแนวคิดที่จะตอบแทนคุณแผ่นดิน เพราะประชาชนได้รับเงินหลวง ไม่ใช่นักการเมือง ทำให้ประชาชนเลือกคนดี มีความรู้ เข้ามาทำหน้าที่


นายวงศ์สยาม ยังกล่าวว่า ทุกวันนี้นโยบายของรัฐบาลในการให้งบประมาณประชาชน 300-500 ต่อเดือนรวมถึงคนละครึ่ง ปีหนึ่งใช้งบประมาณเป็นแสนกว่าล้านบาท ในขณะที่การเลือกตั้งเกิดขึ้น 4 ปีครั้ง

นอกจากนี้ ในกฎหมายเลือกตั้งยังมีข้อห้ามไม่ให้นักการเมืองขนคนมาเลือกตั้ง แต่ในข้อเท็จจริงในต่างจังหวัดอยู่ในพื้นที่ห่างไกล จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งการเสนอเงื่อนไขนี้อย่างน้อยทำให้ประชาชนรู้สึกว่าประชาธิปไตยกินได้ตั้งแต่การเลือกตั้งใช้สิทธิ แม้การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ แต่ข้อเท็จจริงมีค่าใช้จ่าย สังคมไทยจึงควรยอมรับความเป็นจริงเหล่านี้

กรรมาธิการฯยังเสนอให้มีการแก้กฎหมาย กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่ลาออกจากตำแหน่งไปลงเลือกตั้งในตำแหน่งอื่น จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมที่เกิดขึ้นด้วย เช่นผู้ใหญ่บ้านลาออกไปดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน ลาออกไปลงสมาชิก อบจ. หรือ สมาชิก อบจ.ไปลงตำแหน่ง สจ. ย่อมทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมมากมายทั่วประเทศ ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมต้องเกิดขึ้นด้วยความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน กรรมาธิการฯยังเสนอให้แก้กฎหมายระยะเวลาการลงคะแนนจาก 8.00-17.00 น. เป็น 8.00-16.00 น. เพื่อแก้ไขปัญหาการนับคะแนนล่าช้าด้วย

อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการฯมีข้อสังเกตเพิ่มเติม จากคณะอนุกรรมาธิการติดตามการเลือกตั้ง เนื่องจากมีการแก้ไขบัตรเลือกตั้งให้เป็นระบบบัตร 2 ใบ จากเดิมระบบบัตรใบเดียว ประกอบกับการเลือกตั้ง ส.ส.ในแต่ละเขต คะแนนของผู้ชนะการเลือกตั้ง มีคะแนนน้อยกว่าผู้สมัครรายอื่นๆรวมกัน จึงถือเป็นประชาธิปไตยเสียงข้างน้อย ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับ ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากเสนอให้มีการเลือกตั้งบัตรใบเดียว โดยไม่ต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ให้เอาผู้ได้รับคะแนนการเลือกตั้งลำดับที่ 2 มาเป็น ส.ส บัญชีรายชื่อแทน ทำให้มี ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนทั้งหมด

นายวงศ์สยาม ย้ำว่า การศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาเฉพาะกรณีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง หรือการเลือกตั้งซ่อมเท่านั้น ยังไม่ศึกษาจากการเลือกตั้งใหญ่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]

เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันที

รัฐสภา 4 ก.ย.-เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ ชวน ปชน. โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบาย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณถึงการบรรจุวาระโหวตนายกฯ ไว้ต่อที่ประชุมสภาฯ วันที่ 5 ก.ย. นี้ ว่า เข้าใจว่าอาจจะมีการเสนอให้เลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณา แต่พรรคเพื่อไทยจะขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระและไม่ยอมให้เลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อน อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหากมีการลงมติจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่าตนได้รับการประสานมาจากพรรคประชาชน ให้ขอให้พรรคเพื่อไทยยืนยันต่อการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมสภาฯ ขณะเดียวกันนั้นได้เรียกร้องว่าหาก นายชัยเกษมได้เป็นนายกฯ หลังการแถลงนโยบายแล้วต้องประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ทันที “ตอนนี้มีข้อเสนอแบบนี้หหลังจากที่แถลงนโยบาย เราจะยุบสภาทันที หากพรรคประชาชนไม่อยากให้เกิดปัญหา กรณีที่ชาวบ้านไม่ยอมรับ ต้องทำตามนี้ ส่วนหนึ่งที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อให้นายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีอำนาจยุบสภา หลังจากที่ขณะนี้มีปัญหา” นายวิสุทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย