ใช้งบประมาณต้องคุ้มค่า ตรวจสอบได้

เมืองทองธานี 12 ม.ค.-นายกฯ มอบนโยบายจัดทำงบประมาณปี 67​ ย้ำใช้งบอย่างระมัดระวัง คุ้มค่า​ ตรวจสอบได้ โครงการไหนไม่ได้ตามเป้าให้ยกเลิก เอาเงินไปใช้โครงการอื่นให้เกิดประโยชน์ ลั่นทุจริตต้องถูกดำเนินคดี ​  


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี พล.อ.อนุพงษ์​ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นายสุชาติ​ ชม​กลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร​ วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ร่วมประชุม

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า สถานการณ์ของเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ มีความมั่นคงทางด้านงบประมาณ ได้รับการยอมรับและมีการพัฒนาในประเทศหลายส่วน แม้ว่าจะมีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบกับโควิด-19 สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ทางภูมิศาสตร์ระหว่างประเทศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ส่งผลให้การพัฒนาในอนาคตเปลี่ยนแปลงไปมาก การพลิกผันการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของโลกที่มีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจำนวนมากต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความท้าทายภายในประเทศ ที่ต้องบริหารจัดการกับปัญหาความเจริญของเศรษฐกิจภายในประเทศ หนี้สินครัวเรือน การเข้าสู่สังคมสูงวัย​ ซึ่งส่งผลกระทบต่อจำนวนแรงงาน รวมทั้งปัญหาคุณภาพและความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วมสภาพแวดล้อม


“เราเผชิญกับสิ่งเหล่านี้มาหลายปี แต่จะทำอย่างไรให้เกิดความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น ​จำเป็นต้องใช้จ่ายงบประมาณให้คุ้มค่า ให้เกิดความสมดุล เพื่อแก้ไขปัญหาทุกมิติ ต้องเดินไปพร้อมกัน รัฐบาลมีความมุ่งมั่น ทุ่มเท เตรียมพร้อมสรรพกำลังแก้ไขปัญหาอันเป็นประเด็นหลักเร่งด่วนอย่างเต็มที่สุดกำลังความสามารถ พัฒนาปฏิรูปด้านต่าง ๆ ให้เดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง หากย้อนกลับไป จะเห็นว่าการดำเนินการมีผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์​ ผมคิดว่าทุกคนก็คงเห็นบ้าง หากไม่เห็นก็ไม่รู้จะทำอย่างไร​ ว่ามีอะไรคืบหน้ามาบ้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการทางการคลังเพื่อฟื้นฟูผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดผลกระทบของการปรับขึ้นราคาสินค้า โดยได้บัญญัติมาตรการเฉพาะ​เจาะจง​ในการแก้ไขปัญหา​ สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ อย่างกลุ่มผู้มีรายได้น้อยประชาชนทั่วไป เพื่อรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศและเพิ่มกำลังซื้อ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน และโครงการคนละครึ่ง​ ไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคน สินเชื่อดอกเบี้ยตามมาตรการเสริมสภาพคล่องสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ตลอดจนมีการช่วยเหลือภาคแรงงานสำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ให้การช่วยเหลือเกษตรกรผ่านโครงการประกันรายได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านการบรรเทาผลกระทบจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น ต้นทุน​พลังงานที่นำเข้าจำนวนมาก วันนี้เกิดผลกระทบ และได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาบรรเทาผ่านมาตรการภาษีสรรพสามิต อุดหนุนราคาน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้ม ก๊าซ NGV การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า การลดเงินนำส่งของนายจ้างตามมาตรา 33 ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น มีการช่วยเหลือกว่า 15 ล้านราย สำหรับประเด็นปัญหาสำคัญที่ต้องเตรียมพร้อมอย่างเท่าทัน คือ การแก้ไขปัญหาการดำเนินชีวิตของประชาชน เช่น เรื่องการลดข้อจำกัดในการประกอบอาชีพ โดยอบรมแรงงานให้ครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อจะเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ สามารถพึ่งพาตัวเองได้ บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพให้ประชาชนไม่น้อยกว่า 370,000 คน การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและหนี้กองทุน กยศ. การปราบปรามการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน การปรับปรุงระบบภาษี การขยายโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพ


“ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด ต้องมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน สร้างชุมชนที่เข้มแข็ง สร้างอาสาสมัคร สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ทั้งกายภาพและจิตใจ รณรงค์ ป้องกันและแก้ไข ทั้งในสถานประกอบการ โรงเรียน เรือนจำ ทัณฑสถาน ฟื้นฟูดูแลผู้เสพ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติในสังคม การแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการเฝ้าระวังการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างจริงจังและเข้มงวด ทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม มีขั้นตอนในการดำเนินการทุกอย่าง อะไรก็ตามที่เป็นความผิด ต้องถูกดำเนินการทางกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับหลายส่วนด้วยกันที่ต้องร่วมมือกัน ขอฝากไว้ด้วย ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญ​ ผมไม่เคยปล่อยปละละเลยใด ๆ ทั้งสิ้น ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามความรับผิดชอบของทุกส่วนในกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องมีความร่วมมือของประชาชนในการร่วมมือร้องทุกข์กล่าวโทษ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเว็บไซต์ภาษี ได้สั่งการเพิ่มเติมว่าต้องรู้ว่าทุกอย่างมาอย่างไรไปอย่างไร​ ใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า​ จัดสัดส่วนต่าง ๆ ได้เหมาะสมหรือไม่ จะได้​​รู้ได้เข้าใจกัน แล้วจะไม่เป็นปัญหาในอนาคต การใช้จ่ายเงินจะใช้ให้ใคร​ รายจ่ายต้องคำนึงถึงที่มาของรายได้ อยากบอกให้ทุกคนทราบว่า​ รัฐบาลเป็นห่วงเป็นใยทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกพวก​ แต่จะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมในการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้มาจากภาษีของประชาชน ในแต่ละประเภทให้เกิดความสมดุล​ เกิดความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นจะต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากที่สุด

“รัฐบาลวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศไปสู่อนาคต อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าจะต้องหารายได้เพิ่มเติม​ ให้พ้นจากประเทศที่เป็นรายได้ปานกลางให้เป็นประเทศที่มีรายได้สูงโดยเร็วที่สุด เพื่อมาดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ที่มีรายได้น้อย จะดูแลเขาได้อย่างไรเพิ่มเติม แต่ต้องหาเงินก่อน ต้องทยอยดำเนินการ ในห้วงรัฐบาลที่อยู่ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ วันนี้มีปัญหาระบบออนไลน์ ที่ถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์​ ในทางหลอกลวง ผมได้สั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย แม้ว่าจะมากมายเพียงใดก็ตามก็ต้องดำเนินการ​ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดขึ้นไปเรื่อย ๆ เกิดความเสียหายอย่างที่ทุกคนก็เห็นอยู่​ เราจะต้องไม่ปล่อยปละละเลย หากเราไม่ช่วยกันก็แก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง ต้องแก้ไขปัญหาแบบองค์รวมโดยใช้ประชาชนมีส่วนร่วม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ​เรามีระบบการกระจายอำนาจอยู่แล้ว​ จะต้องพัฒนาให้มากขึ้น​ เมื่อมีความพร้อม​ งบประมาณพร้อม​ คนพร้อมทุกอย่างเดินหน้าได้หมด ต้องดูบริบทของประเทศไทยด้วยว่าเป็น​อย่างไร​ อยู่ในปัจจุบัน การกระจายอำนาจพร้อมกับการกระจายความรับผิดชอบเพิ่มบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประเทศไทยเป็นเป้าหมายของหลายประเทศบนโลกใบนี้ ซึ่งให้ความสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยว ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน โดยตัวเลขคาดการณ์คาดว่า GDP จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 3.5 ในปี 2566 แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะช่วยกันได้อย่างไร​ ทั้งภาครัฐ​ภาคเอกชนและประชาชนจะต้องช่วยกันในการเดินหน้า เพราะเราจะต้องเดินหน้าลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคโควิด-19 ก็ยังมีอยู่และถูกซ้ำเติมด้วยสถานการณ์โลกในปัจจุบัน​ ความผันผวนด้านราคาพลังงาน​ ทั้งน้ำมัน ก๊าซ มีปัญหาทั้งหมด​ มีราคาผันผวน เราต้องเตรียมความพร้อมการกลายพันธุ์ของโรคโควิด- 19 โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกข่าวชี้แจงไปแล้วว่าอยู่ในการดูแลควบคุมดำเนินการอยู่ในเรื่องนี้ ขอให้ทุกคนระมัดระวังให้ได้มากที่สุด

“การใช้จ่ายในปี 2567 ถึงมีบทบาทสำคัญเดินหน้าควบคู่กับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทต่าง ๆ เพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้​ เรื่องส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัล​ ยกระดับฝีมือแรงงานการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและบริการที่ดีต่อเนื่อง การดำเนินเศรษฐกิจชีวภาพ​ เศรษฐกิจหมุนเวียนเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG การจัดสวัสดิการให้กับคนไทยกลุ่มต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ผมใช้คำว่าเหมาะสม ขอให้ดูระเบียบให้ดีด้วยในการจัดสรรงบประมาณในเรื่องเหล่านี้ มี 2 คำ​ ที่ผมใช้อยู่เสมอ​ คือความเท่าเทียม เท่าเทียมในด้านโอกาส เท่าเทียมด้านกฎหมาย ความเป็นธรรมคือผู้มีรายได้น้อยมีความเดือดร้อนก็ย่อมได้รับความดูแล เราต้องทำทั้ง 2 อย่างอยู่แล้ว ซึ่งเป็นคนละเรื่อง เราจะต้องหางบประมาณได้เพียงพอไม่” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ รัฐบาลมีความท้าทายในการดำเนินการทางการคลังจำเป็นจะต้องดำเนินการไปด้วยความรอบคอบในการรักษาวินัยและเสถียรภาพทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว การจัดเก็บรายได้และการใช้จ่ายภาครัฐ ต้องสอดคล้องเหมาะสม​ ยั่งยืนสามารถสนับสนุนการพัฒนาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดภาระการเงินการคลังในระยะยาวขอเน้นความสำคัญที่จะทำอะไรก็ตามต้องไม่สร้างภาระระยะยาว เราทำอย่างระมัดระวังเท่าที่จำเป็น มีขีดความสามารถในการบริหารได้ ขอให้อยู่ในกรอบหลักการดังกล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การบริหารรายจ่ายงบประมาณประจำอย่างประหยัด​ มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความจำเป็นในปัจจุบัน ​นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานให้มากยิ่งขึ้น ในการประชุมสัมมนาประชาสัมพันธ์ออนไลน์ นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่องดลดภาระงบประมาณ​ ขอร้องว่าจะทำอย่างไรให้สามารถลดงบประมาณรายจ่ายประจำลงได้ โครงการแผนงานใดถ้าไม่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือทำไม่ได้ติดขัดขั้นตอน ก็ควรยกเลิก เพื่อนำงบประมาณไปใช้ในแผนงานโครงการอื่น การเสนอแผนงานโครงการขึ้นมาต้องตรวจสอบความเป็นไปได้ ต้องเข้มงวดเรื่องเหล่านี้ ​ ไม่ใช่อนุมัติไปแล้ว แต่ทำจริงไม่ได้​ จะทำให้เกิดปัญหาตามมา เพราะฉะนั้นจะต้องเตรียมการให้พร้อม เรื่องไหนที่ทำมาแล้วทำไม่ได้​ ทำแล้วไม่ผ่าน ต้องทบทวน

“การมอบนโยบายวันนี้ ถ้าไม่ทำตามนี้​ ก็ไม่มีประโยชน์ จะใช้จ่ายอะไรก็​ทำแผนงานต่าง ๆ​ อะไรก็ได้ ไม่ได้​ อันตราย จากสถานการณ์ทางการเงินก็เริ่มทำแบบนี้ ก็มีปัญหาต่าง ๆ อยู่บ้างก็ทำต่อก็แล้วกัน​ งบประมาณ 2567​  ที่ต้องเตรียมความพร้อมให้กับรัฐบาลต่อไป ขณะเดียวกันเราต้องเตรียมความพร้อมในรัฐบาลต่อไปด้วย นี่คือหลักการของผมในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี หัวหน้ารัฐบาล เพราะฉะนั้นต้องไม่ทุจริต ถ้ามีก็ต้องถูกลงโทษ ผมไม่เคยละเว้นใครทั้งสิ้น เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ต้นทาง กลางทาง ปลายทางดำเนินการ ผมไม่เข้าร่วมใด ๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนช่วยกันให้มันเรียบร้อยทุกเรื่อง อย่าให้เกิดความแตกแยก​ ความชิงชังเกิดขึ้น ผมไม่ต้องการแบบนั้น บ้านเมืองไปกันไม่ได้ เราใช้กลไกที่มีอยู่แล้วเดิมแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ขอโทษคนฟังว่าคำพูดของผมอาจไม่น่าฟังมากนัก แต่ทั้งหมดนี้คือจิตใจของผม” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก