กมธ.ดีอีเอสเปิดห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีอวกาศ

เชียงราย 27 ธ.ค.- กมธ.ดีอีเอส  จับมือ รัฐ-เอกชน เปิดห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีอวกาศจ.เชียงราย หวังสร้างอาชีพใหม่ให้เด็กไทย ป้อนสู่ตลาดโลก หลังพบตัวเลขขาดแคลนบุคลากรจำนวนมาก   ขณะที่ “เศรษฐพงค์” ชี้ ตลาดโลกยังขาดแคลนนักวิเคราะห์ข้อมูล ชี้มูลค่าธุรกิจอวกาศในตลาดโลกจำนวนมหาศาล    


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นำโดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ประธาน กมธ.ดีอีเอส  พร้อมด้วยนายสรอรรถกลิ่นประทุม ที่ปรึกษา กมธ.ดีอีเอส  และ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะละสุวรรณ ประธานคณะอนุกมธ.กิจการอวกาศ เพื่อเศรษฐกิจและความมั่นคง  ลงพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคเวียงป่าเป้าอ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ร่วมกันเปิดห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีอวกาศ เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ และทำให้ภาคเหนือมีศูนย์การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศ ดาวเทียมสำรวจโลก ภูมิสารสนเทศและการประยุกต์ใช้ที่ทันสมัย  แก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ จ.เชียงราย  ตลอดจนการสร้างและพัฒนาบุคลากรเฉพาะด้าน  โดยมีตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมให้การสนับสนุน  อาทิ  บริษัท ไทยคม จำกัด สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ  เครือเจริญโภคภัณฑ์  ทรู  และบริษัท เทโร สเปซ จำกัด  

น.ส.กัลยา ให้เหตุผลในการเลือกวิทยาลัยเทคนิคเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เป็นห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีอวกาศนำร่องว่า  เพราะเป็นพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับหลากหลายปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทั้งฝุ่นพีเอ็ม 2.5  ปัญหาภัยพิบัติน้ำป่า-ดินถล่ม จึงจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีมาช่วยพยากรณ์สถานการณ์ ขณะเดียวกัน ต้องการเสริมองค์ความรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ให้เข้าถึงการเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีอวกาศ เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้  โดยใช้วิทยาลัยเทคนิคเวียงป่าเป้าเป็นจุดเริ่มต้น ก่อนประเมินผลและขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วทุกภูมิภาค  


ด้าน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด ทำให้หลายอาชีพเกิดการเปลี่ยนแปลงและบางอาชีพสุ่มเสี่ยงที่จะสูญหายไปในอนาคตอันใกล้นี้  ซึ่งหากเด็กและเยาวชนไทยยังได้รับการศึกษาตามหลักสูตรเดิม อาจจะส่งผลให้ไม่สามารถหางานทำได้  แต่เทคโนโลยีอวกาศจะเป็นองค์ความรู้ที่มารองรับอาชีพใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล  ขณะที่ปัจจุบันไทย ยังขาดแคลนบุคลากรในด้านนี้จำนวนมาก จึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาและเสริมองค์ความรู้ให้กับเยาวชนเหล่านี้เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดโลก ซึ่งยังมีความต้องการสูงในระยะ 5-10 ปีนี้  โดยมั่นใจว่าหากเด็กไทยได้รับการศึกษาด้านนี้จะไม่ตกงานอย่างแน่นอน

“สถาบันการศึกษาที่ยังใช้หลักสูตรเดิมๆ อาจจะไม่ได้สร้างบุคลากรออกมารองรับตลาดยุคใหม่  ทำให้การผลิตนักศึกษาออกมาก็หางานทำไม่ได้ จึงจำเป็นต้องปรับความรู้ใหม่ให้ทันกับโลกอนาคต และตอบโจทย์ตลาดโลก โดยเฉพาะปัจจุบันพบว่ายังขาดแคลนนักวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก ดังนั้นตรงนี้จะเป็นอาชีพใหม่ที่กำลังเป็นความต้องการของตลาดแรงงาน ขณะที่มูลค่าเทคโนโลยีอวกาศมีมหาศาล เรียกว่าผลิตคนออกมาเท่าไหร่ ก็ไม่เพียงพอกับตลาด ดังนั้นหากเด็กไทยมีความรู้ด้านนี้ รับรองมีงานทำอย่างแน่นอน” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว

ด้าน นายอภิชัย เรืองศิริปิยะกุล  ซีอีโอ บริษัท เทโร ซอฟต์ เปิดเผยถึงการนำเทคโนโลยีมาร่วมสนับสนุนว่า  ทางบริษัทมีหลากหลายเทคโนโลยีที่จะนำมาให้การสนับสนุนการศึกษาของเด็กไทยและการพัฒนาชุมชนชายขอบ อาทิ  บล็อกเชนและแพลตฟอร์ม คาร์บอนเครดิต ซึ่งจะช่วยเหลือเรื่องการดูแลรักษาป่า การสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร จากการเป็นคาร์บอน เครดิต กลับมาขายต่อเป็นรายได้ให้กับชุมชน นอกจากนี้เทโร ซอฟต์ กำลังโฟกัสเรื่องอวกาศดาวเทียม เพื่อการพยากรณ์ผลผลิตในแปลงเกษตรล่วงหน้า ซึ่งจะสามารถใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ด้วย ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับประชาชน


ดร.พิรดา  เตชะวิจิตร์  อาจารย์ประจำวิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สจล.  กล่าวถึงห้อง สเต็มแล็บว่า เป็นห้องทดลองให้นักเรียน-นักศึกษา ได้สร้างนวัตกรรม ซึ่งปัจจุบันขยายไปกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ และมีการขยายองค์ความรู้จากเดิมเฉพาะระดับมัธยมศึกษา มาเป็นระดับประถมศึกษาด้วย เพื่อนักเรียนที่มีความสนใจในระดับเริ่มต้นจะเข้ามาเรียนรู้และทดลองสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ  ทำให้ปัจจุบันวิธีการคิดและเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ของเด็กไทยเปลี่ยนแปลงไป  ซึ่งจะเป็นตัวรองรับโลกกำลังพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ให้เด็กไทยมีความคิดสร้างสรรค์ ทำงานได้ มีทักษะใช้ชีวิต   

นายเรวัตร แก้วทองมูล ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคเวียงป่าเป้า กล่าวขอบคุณ กมธ.ดีอีเอสและหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามาสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนในด้านนี้  ซึ่งพบว่านักเรียนที่นี่ตื่นเต้นกับการเรียนรูปแบบใหม่ ที่ในอดีตถูกมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่สามารถจับต้องได้  การติดตั้งห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีอวกาศจึงถือเป็นการจุดประกายฝันให้กับนักศึกษาและสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ๆ ให้กับเด็กไทยเข้าสู่องค์กรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 8 ก.ย.- โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน “ไผ่ ลิกค์-สัมพันธ์” หลุดโผ กล้าธรรมดัน “นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ-อามินทร์” เสียบแทน รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจากนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อนั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง สำหรับการจัด ครม.ครั้งนี้ มีการใช้รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม […]

“แพทองธาร” บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความยินดี “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.- “แพทองธาร” เข้าพรรคเพื่อไทย บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “อนุทิน” นั่งนายกตั้งแต่วันแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้ทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าสบายดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า สบายดีค่ะ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า วันนี้หรือเดี๋ยวรอดูแล้วกัน แต่ว่ากลับมาแน่นอน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร จะไปรอรับด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ไปรับ พอดีวันนี้ติดงานตอนบ่ายจึงไม่ได้ไป เมื่อถามว่า ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกฯ มีอะไรฝากถึงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย ส่วนวันนี้ที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยมีประชุมอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และขึ้นด้านบนอาคารทันที .-316 […]

จันทรุปราคา

ชาวตรังแห่ชม จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย

ตรัง 8 ก.ย.- ชาวตรังตื่นตา ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่ำคืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ชาวตรังรวมตัวกันที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 00.31 – 01.53 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนโปรยปรายลงมาบางช่วง แต่ประชาชนไม่พลาดเก็บภาพความสวยงามของพระจันทร์สีแดงอิฐ พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด คืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ท้องฟ้าเหนือจังหวัดตรัง ปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนชาวตรัง โดยเฉพาะที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีประชาชนออกมาเฝ้าชมและบันทึกภาพพระจันทร์ที่ถูกเงาโลกบังจนกลายเป็นดวงจันทร์สีแดงอิฐ สวยงามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงเวลาสำคัญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 00.31 น. ซึ่งเป็นจังหวะที่พระจันทร์ถูกเงาโลกบังทั้งดวง มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า […]