กองทัพระลึกเสมอต้องปรับวิธีการทำงาน

รัฐสภา 22 ธ.ค.- “ณัฐชา” ตั้งกระทู้สดถาม รมว.กลาโหม จำเป็นแค่ไหนร.ล.สุโขทัยต้องออกลาดตระเวนขณะสภาพอากาศไม่ดี ซัดถึงเวลาปฏิรูปกองทัพ ด้าน “รมช.กลาโหม” เผยช่วงแรกเรือเอียง 60 องศา คิดว่า ลากจูงเข้าฝั่งได้ ย้ำกองทัพระลึกเสมอว่า ต้องปรับวิธีการทำงาน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อกรณีร.ล.สุโขทัยอับปาง โดยมอบหมายให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมตอบคำถามแทน

นายณัฐชา กล่าวว่า กรณีร.ล.สุโขทัยเป็นการเสียใจครั้งยิ่งใหญ่ของพี่น้องชาวไทย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังปฎิบัติค้นหาผู้ประสบภัยในทะเล ขอให้กำลังใจให้ค้นหาผู้รอดชีวิต รวมไปถึงครอบครัวกำลังพลทุกคน แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ยังไม่ทราบต้นสายปลายเหตุ แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นเหตุการณ์ที่เรือหลวงเผชิญกับคลื่นลมแรง แต่ถือเป็นการสูญเสียภายใต้การบริหารของกองทัพครั้งแล้วครั้งเล่า


“ผมอยากจะถามไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำสูงสุดของกองทัพ วันนี้ไม่ได้มาตอบไม่เป็นไร ท่านก็คงกำลังเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน อยากให้รัฐมนตรีช่วยฯ ตอบให้ชัด เพราะคำตอบของท่านในวันนี้จะเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของครอบครัวผู้ที่กำลังรอคอยความอยู่รอดของกำลังพล เราได้ฟังจากผู้บัญชาการทหารเรือไปแล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่เป็นการซ้ำเติมความรู้สึกนึกคิดของพี่น้องประชาชนที่ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยซ้ำ” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวว่า อยากให้ช่วยอธิบายเหตุการณ์เริ่มต้นเวลาที่น้ำเริ่มเข้าเรือ ได้รับการแจ้งเหตุเวลาใด เรือที่เข้าไปช่วยลำแรก ไปในช่วงเวลาใด ตอนนั้นมีกำลังพลจำนวนเท่าไหร่ เรือไม่จมสู่พื้นทะเลใช่หรือไม่ อุปกรณ์ในการนำไปช่วยมีอุปกรณ์ใดบ้าง มีชูชีพเท่าไหร่ เรือยางเท่าไหร่ อุปกรณ์อื่น ๆ ที่จะช่วยกำลังพลให้รอดชีวิตมีอะไรบ้าง ขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานใดบ้างและได้รับการตอบรับจากหน่วยงานใดบ้าง ร.ล.สุโขทัยอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ มีประวัติการซ่อมบำรุงหรือประวัติการใช้งบประมาณในการซ่อมบำรุงมากน้อยแค่ไหน และการซ่อมบำรุงครั้งล่าสุดเมื่อไหร่

ด้านพล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่กำลังพลทุ่มเทเสียสละในการปฎิบัติภารกิจครั้งนี้ โดยเฉพาะครอบครัวของกำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6 ราย และช่วงบ่ายวันนี้จะมีพิธีรับศพไปบำเพ็ญกุศล เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมเวลา 18.40 น. เป็นช่วงค่ำ ซึ่งศูนย์บัญชาการกองทัพเรือได้รับรายงานจากเรือรบหลวงสุโขทัยและได้รายงานไปที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตามระดับบังคับบัญชา ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้เข้าแก้ไขสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมเรือรบหลวงสุโขทัย


“สาเหตุหลัก ๆ ทางกองทัพเรือรายงานว่า วันนั้นสภาพอากาศมีคลื่นลมแรงมาก เรือได้ฝ่าคลื่นแรง และต่อมามีน้ำเข้ามาในตัวเรือและเข้าไปในเครื่องจักรไฟฟ้า จึงทำให้หยุดทำงาน ไม่สามารถควบคุมเรือได้ ส่งผลให้น้ำเข้ามาในตัวเรืออย่างรวดเร็ว ซึ่งสภาพเรือในช่วงนั้นเอียงประมาณ 60 องศา ทางศูนย์บัญชาการกองทัพเรือได้สั่งการให้ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช เรือรบอ่างทอง ร.ล.กระบุรีและเฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำเข้าช่วยเหลือ ซึ่งในช่วงเวลานั้น ร.ล.กระบุรีอยู่ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าไปในพื้นที่ประมาณ 20 ไมล์ทะเล ถึงเวลาประมาณ 20.40 น. นอกจากนี้ ได้รับการช่วยเหลือจากเรือลากจูงในพื้นที่และเรือน้ำมัน

“การดำเนินการทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมภายในกองทัพเรือ ในช่วงที่เหลือเอียงประมาณ 60 องศา ได้คาดการณ์ว่าใช้เรือลากจุง ก็สามารถลากเรือหลวงสุโขทัยมายังฝั่งได้ แต่น้ำกลับเข้ามาเพิ่มเติมทำให้ท้ายเรือจม กำลังพลทั้งหมด 105 นายมาอยู่ที่กราบเรือ ช่วยเหลือได้ 75 นาย อีก ประมาณ 30 นายพลัดตก ผมเองได้ไปพบกับญาติทุกคน แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กองทัพเรือสอบสวนในทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องเสื้อชูชีพ เรื่องที่สังคมให้ข้อสังเกตต่าง ๆ ส่วนเรื่องชูชีพและเครื่องช่วยชีวิตในเรือนั้น ขอเรียนว่าปกติจะมีจำนวนเท่ากับอัตราประจำเรือและมีส่วนหนึ่งที่เป็นอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยทางทะเล มีทั้งชูชีพส่วนบุคคลและแพชูชีพ และด้วยสภาพเรือที่เอียง ทำให้ไม่สามารถปล่อยแพชูชีพได้ เพราะว่าคลื่นลมแรง แม้แต่เฮลิคอปเตอร์ที่ไปเพื่อจะโรยให้กำลังพลได้ขึ้นมาบนเฮลิคอปเตอร์นั้นก็ทำได้ยาก เพราะเรือโคลงเคลง อาจจะเป็นอันตรายได้ ส่วนข้อสังเกตว่ามีเสื้อชูชีพครบหรือไม่ ได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งร.ล.สุโขทัยได้รับการซ่อมบำรุงใหญ่ครบทั้งระบบเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา

จากนั้น นายณัฐชา ได้ขอบคุณสำหรับคำตอบ พร้อมระบุว่า สาเหตุที่ถาม เป็นเพราะอยากทราบว่ามีความมุ่งมั่นตั้งใจกำลังพลที่ประเมินมูลค่าไม่ได้อย่างไรบ้าง ซึ่งไม่ได้รับคำตอบ ส่วนเรื่องชูชีพตนไม่ได้ถาม เพราะเป็นเรื่องที่สังคมรู้แจ้งอยู่แล้วว่า มีไม่พอ และกองทัพเรือจำนนต่อหลักฐานแล้ว

“ทหารที่รอดชีวิตมาได้ เขาได้บอกแล้วว่าเขาได้เผชิญเหตุการณ์ใดบ้าง เขาต้องปล่อยศพเพื่อนที่มาด้วยกัน ที่ไม่มีชูชีพ เขาต้องลอยคอกับเพื่อนที่ไม่มีชูชีพ ต้องลอยคอกับเพื่อนที่ว่ายน้ำไม่เป็น อะไรต่างๆ อันนี้กองทัพเรือจำนวนต่อหลักฐานและสังคมได้รับข้อมูลไปแล้วว่ามีไม่เพียงพอ ซึ่งต้องเข้าไปสู่ระบบการตรวจสอบ” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา ถามต่อว่า มีภารกิจใดที่ต้องฝ่าคลื่นลมแรง ในวันและเวลาที่มีมรสุม มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ใครเป็นคนออกหนังสือสั่งการ ได้รับข้อมูลจากจังหวัดหรือกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนหรือไม่ว่า มีคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง เหตุใดยังคงต้องดื้อดึงเอากำลังคนที่เป็นลูกหลานของพี่น้องประชาชน ไปทำภารกิจนี้ นอกจากนี้ กำลังพลที่ออกไปเป็นทหารเกณท์ใช่หรือไม่ มีกำลังพลที่ว่ายน้ำไม่เป็นใช่หรือไม่ รวมทั้งกำลังพลทั้งหมดได้เคยผ่านอบรมเผชิญเหตุภัยพิบัติหรือไม่

“มีวิธีการขั้นตอนอย่างไร พลทหารเหล่านี้เคยได้รับการฝึกอบรมหรือไม่ หรือท่านไม่ได้มองเห็นคุณค่าของพลทหารเลย มีภารกิจที่ไหนก็ส่งไป เอาจำนวนเข้าว่า สุดท้ายไม่ได้พัฒนาต่อยอดหรือฝึกอบรมให้กับพลทหารเหล่านั้นในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ” นายณัฐชา กล่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเน้นย้ำให้ดูแลกำลังพลทุกคนให้มีความปลอดภัย ทางกองทัพเรือก็ได้เตรียมการ แต่ด้วยสภาพอากาศสภาพแวดล้อมในเวลานั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน คงไม่ใช่ว่าจะมาตอบว่าทำไม่ได้หรืออย่างไร ทั้งนี้ ร.ล.สุโขทัยมีหน้าที่ลาดตระเวนในทะเล ในสภาพอากาศที่เป็นคลื่นลมแรงแบบนี้ จะเห็นได้ว่าวันดังกล่าวมีเรืออับปาง 2-3 ลำเช่นเดียวกัน ร.ล.สุโขทัยก็มีหน้าที่ในการบรรเทาสาธารณภัยด้วย

“กรมอุตุนิยมวิทยาก็แจ้งมา ก็มีการประเมินสถานการณ์ ก่อนตัดสินใจไป แล้วท่านถามว่ามีกำลังพลส่วนอื่นนั้น กำลังขนส่วนไหนก็ไปปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดชุมพร ก็เป็นการดำเนินการตามหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติในฐานะที่เป็นเรือหลวงที่ปฎิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ทัพเรือภาค 1” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว

ส่วนคำถามว่า มีการฝึกอบรมหรือไม่ พล.อ.ชัยชาญ ยืนยันว่า มีการฝึกซ้อมตลอดเวลา ก่อนที่จะออกเรือต้องชี้แจงแนะนำการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ต้องให้กองทัพเรือไปสอบข้อเท็จจริงว่าข้อปฏิบัติดังกล่าว กำลังพลได้เข้าใจถึงกรณีที่มีสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่

ทำให้นายณัฐชา ลุกขึ้นถามทันทีว่า “ออกไปลาดตระเวนอะไร ชูชีพท่านยังไม่มี ถ้าท่านจะเห็นไม่คาดคิด เรือชาวบ้านเรือเอกชนอับปาง จะเอาชูชีพที่ไหนช่วยเขา ถ้าจะเอาแพยางที่ไหนช่วยเขา เพราะเรือของท่านเองยังช่วยไม่ได้เลย แล้วท่านไปลาดตระเวนภาษาอะไร นำกำลังพลไป 100 กว่าคน อุปกรณ์ก็ไม่ครบครัน”

นายณัฐชา ถามต่อว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอยู่มา 8 ปีเต็มมีอำนาจล้นฟ้า ถึงเวลาปฏิรูปกองทัพแล้วหรือไม่ ท่านบริหารราชการให้หน่วยงานที่ท่านเกิดและโตและดีขึ้นยังไม่ได้ แล้วจะบริหารประเทศในอีก 2 ปีที่เหลืออยู่ได้อย่างไร

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้เน้นย้ำไปผู้บัญชาการทหารเรือแล้วว่าจะต้องเสาะหาข้อเท็จจริง กองทัพไม่อยู่เฉย พยายามทำทุกทางเพื่อให้มีประสิทธิภาพ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน

“กำลังพลในกองทัพก็มีความมั่นใจในกองทัพ ประชาชนก็มีความภาคภูมิใจในกองทัพ กองทัพก็อยู่คู่กับประชาชน กองทัพเองก็ระลึกเสมอว่า กองทัพจะต้องปฏิรูปตัวเอง ปรับวิธีการทำงานของตัวเองให้สามารถที่จะดูแลพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการปฎิบัติภารกิจป้องกันประเทศหรือการรักษาความมั่นคงก็ดี กองทัพมีการปฏิรูปมาต่อเนื่อง” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]