นายกฯ ปลื้ม! เห็นความก้าวหน้าด้านการศึกษา

เชียงราย 21 ธ.ค.-นายกฯ เปิดมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีนักเรียนไทย-ญี่ปุ่น ปลื้ม เห็นความก้าวหน้าด้านการศึกษา ย้ำต้องปรับการเรียนการสอนให้รู้จักคิดให้เป็น เตรียมโหลดแอปฯ “สปาใจ” เบรกอารมณ์หงุดหงิด ขอทุกคนรัก-สามัคคี ขณะที่นักเรียนให้กำลังใจ นายกฯ ดูแลสุขภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น Thailand-Japan Student ICT Fair 2022 (TJ-SIF 2022) ที่หอประชุมโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหาร ครู นักเรียน จากกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย, สถาบันการศึกษาที่เน้นการเรียนการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมด้วย


โดยเมื่อนายกฯ มาถึงได้รับชมการแสดงต้อนรับชุด ” Season of Color” ซึ่งเป็นการแสดงจินตลีลาผสมผสานกับหุ่นยนต์ โดยนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จากนั้นนายกฯ รับฟังการนำเสนอโครงงานจากนักเรียนญี่ปุ่น และนำเสนอโครงงานโดยนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย

ขณะที่ Mr. OBA Yuichi รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต อัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวแสดงความยินดีในนามของรัฐบาลญี่ปุ่น ก่อนนายกฯรับฟังรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน และมอบโล่ให้กับผู้สนับสนุนและนักเรียน จำนวน 9 ราย


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ดีใจและยินดีที่ได้มีโอกาสมานั่งตรงนี้ะได้เห็นถึงความก้าวหน้า ความตั้งใจของบุคลากรทางการศึกษาทั้งในส่วนของรัฐบาลสถาบันการศึกษาครูอาจารย์ โดยเฉพาะเพื่อนของเราจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมือและมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนานกว่า 400 ปีในอดีต ซึ่งวันนี้ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้นำเสนอแลกเปลี่ยนผลงานสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมและด้าน ICT สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการจัดการศึกษาและคุณภาพของครูและนักเรียนทั้ง 2 ประเทศอย่างดียิ่ง ซึ่งผลงานในการประดิษฐ์ด้าน ICT ดังกล่าวยังส่งผลต่อการพัฒนาในอนาคต โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราพยายามอย่างเต็มที่ในการเตรียมการด้านการศึกษาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดทรัพยากรมนุษย์ที่มีขีดความสามารถสอดคล้องกับความต้องการของประเทศและความต้องการของโลกในปัจจุบัน วันนี้ต้องปรับตัวทุกอย่างให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง สอดคล้องกับสถานการณ์โลก วันนี้อยู่ระหว่างรอยต่อระหว่างคนรุ่นเรา รุ่นตน รุ่นก่อน หรือรุ่นเยาวชนเด็กจนถึงเด็กเกิดใหม่ ทั้งหมดคือห่วงโซ่ด้านการศึกษาและห่วงโซ่ทรัพยากรมนุษย์ ทำอย่างไรให้ทุกอย่างก้าวหน้าทันต่อการเปลี่ยนแปลง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่เราทำวันนี้เพื่อเตรียมการในอนาคต โดยเริ่มจากตัวเองก่อน เริ่มจากการเรียนรู้ การประยุกต์และเกิดกระบวนความคิดขึ้นมาว่าเราจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร ตนในฐานะเป็นอดีตนักเรียน ยังนึกอยากกลับมาเรียนใหม่อีกรอบ เพราะสมัยก่อนไม่มีโอกาสแบบนี้ การเรียนการสอนไม่ใช่แบบนี้ และสิ่งที่ตนไปต่างประเทศมาได้พบปะหารือกับมิตรต่างประเทศ ขอชื่นชมญี่ปุ่นที่เป็นประเทศหนึ่งที่เป็นมิตรกับเรามายาวนานหลายๆความร่วมมือที่เกิดขึ้นกับญี่ปุ่นมีมากมายมหาศาล ในหลายช่วงยุคและยุคต่อๆไป ขอขอบคุณประเทศญี่ปุ่นและคนญี่ปุ่นทุกคนเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและจะมีต่อไปยาวนานไม่มีวันสิ้นสุดด้วยความรักความปรารถนาดีที่มีให้กัน


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องปรับการเรียนการสอนของเราให้รู้จักคิด คิดให้เป็น คิดไปสู่เป้าหมายที่ทุกคนต้องการ เราต้องการเปิดโลกในเรื่องการศึกษาของเราให้กว้างขึ้นคิดให้เป็น มีหลักคิด มีกระบวนการคิดและนำไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการ ซึ่งวันนี้เราต้องการแรงงานจำนวนมากในเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ต้องมีความรู้ อย่างน้อยต้องทำงานร่วมกับเครื่องมือเครื่องจักรได้ วันหน้าต้องทำงานกับหุ่นยนต์ได้ ซึ่งต้องการแรงงานที่มีขีดความสามารถ ฝากกระทรวงการศึกษาด้วย ซึ่งเข้าใจดีถึงความยากง่ายในการดำเนินการสิ่งเหล่านี้ แต่หลายปีที่ผ่านมาเรามีการพัฒนาตามลำดับแต่ต้องเร่งขึ้นไปอีกโดยรัฐบาลจำเป็นต้องหาทางสนับสนุนพุ่งเป้าในการแก้ปัญหา ไม่เช่นนั้นก็จะไปไม่ทันการณ์ วันนี้เราต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด

“ผมจำได้สมัยเด็กๆ ผมชอบเรียนวิทยาศาสตร์ แม้จะไม่ใช่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงแบบท่าน และสอนให้เรารู้จักคิด ส่วนใหญ่เป็นวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ สมัยก่อนทุกประเทศในโลกใบนี้เรียนรู้จากวิทยาศาสตร์ธรรมชาติทั้งสิ้น แต่เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนแปลงทุกคนก็เริ่มคิดว่าวิทยาศาสตร์ธรรมชาติมาเป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์ได้อย่างไร เช่น ทำอย่างไรสว่างไม่มืดทั้งวันทั้งคืน ทำอย่างไรไม่ให้หนาว ทำอย่างไรไม่ให้ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ จึงนำมาสู่การเป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์ แก้ไขจากวิทยาศาสตร์ธรรมชาติไม่ให้เกิดขีดจำกัดในการคิด วันนี้โลกไปไกลกว่านั้นแล้วไปเรื่องเทคโนโลยรงี การใช้นวัตกรรม ใช้ดิจิทัล ICT ต่างๆ วันนี้ผมดีใจที่เห็นเด็กๆ ทุกคนแสดงออกด้วยความมั่นใจว่าเราทำได้อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นในการส่องประกายให้โรงเรียนต่างๆได้พัฒนาตัวเอง”นายกฯ กล่าวฃ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า สิ่งที่ดีใจอีกเรื่องคือ ให้โหลดแอปพลิเคชัน “สปาใจ” ให้นายกฯ ด้วย ทำอย่างไรไม่ให้หงุดหงิด ไม่ปวดหัวทั้งวัน ต้องสปาใจสักหน่อย

“ถ้าวัดคงเกินร้อยแน่เลยฉัน เพราะงานมันเยอะ แต่ทำอย่างไรไม่ให้ส่งพลังลบออกมาแล้วทำลายตัวเอง ผมเห็นรอยยิ้ม เห็นทุกคนมีความสุขผมก็มีความสุขด้วย เมื่อวานผมไปใต้สุด ไปสงขลา พัทลุงเยี่ยมอุทกภัยน้ำท่วม นั่นก็อีกมุมหนึ่งของคนไทยของเรา จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาทุกจังหวัด วันนี้มาเหนือสุด สิ่งที่ผมต้องทำ เอาเหนือสุด ใต้สุด ตะวันออก ตะวันตกและทั้งหมดรวมเป็นพลังเข้มแข็งขึ้น ประเทศไทยมีโอกาสมากพอสมควร เราต้องร่วมแรงร่วมใจ ร่วมรัก ร่วมสามัคคีกันในการขับเคลื่อนประเทศไทย เพราะประเทศไทยไม่ได้เป็นของใคร แต่เป็นของพวกเราทุกคนที่อยู่มายาวนานหลายร้อยปีมาแล้วจนถึงปัจจุบัน เราต้องรักษาไว้และทำให้ดีขึ้น เป็นแผ่นดินที่มีคุณค่า มีแกนหลักสำคัญ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหลักชัยเป็นหลักนำทางของพวกเราทุกคน” นายกฯ กล่าว

จากนั้น นายกฯ ทำพิธีเปิดงานโดยการกดปุ่มใบพัดโฮโลแกรมตราสัญลักษณ์ และเยี่ยมชมนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีระบบบำบัดน้ำเสียอัจฉริยะของนักเรียน โดยนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ที่พรีเซ็นต์สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว ยังได้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีให้ดูแลสุขภาพ เนื่องจากเห็นภารกิจเยอะ โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า “ขอบใจ ยืนยันว่าทำทุกอย่าง เพื่อแก้ปัญหาที่มีมากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย”

นายกรัฐมนตรี ยังเยี่ยมชมการพัฒนาเกมส์ของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น ก่อนนั่งรถรางไปยังศูนย์กีฬา เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการโครงงานแบบโปสเตอร์ของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น และผลงาน นวัตกรรม ด้านไอซีทีของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งนี้ระหว่างเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ มีนักเรียนเข้ามาขอถ่ายภาพกับนายกฯ ซึ่งนายกฯอารมณ์ดี ส่งมินิฮาร์ทและไอเลิฟยูให้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]