มูลนิธิป่ารอยต่อ 21 ธ.ค.-“พล.อ.ประวิตร” หนุน งบกองทุนดิจิทัลฯ เปิดรับโครงการปี66 ส่งเสริมภาครัฐ-เอกชน-บุคคลทั่วไป พร้อม เห็นชอบโครงการ “1 ตำบล 1 ดิจิทัล นำโดรนทำการเกษตร หวัง ลดต้นทุนการผลิต
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมครั้งที่ 5/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยที่ประชุมได้พิจารณา อนุมัติประกาศคณะกรรมการฯ กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่องการเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม ที่ขอรับการสนับสนุนงบจากกองทุน ประจำปี66 ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.66 เวลา 08.30น. ถึง 3 ก.พ.66 เวลา 16.30น. โดยให้หน่วยงาน หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจยื่นแบบคำขอรับทุนจากกองทุน ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีกรอบนโยบายการให้ทุน 4 ด้านได้แก่ 1.การพัฒนาบุคลากรดิจิทัล: ส่งเสริม และสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 2. เกษตรดิจิทัล: ส่งเสริมและสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาพัฒนานวัตกรรมและการวิจัยทางการเกษตร 3. การพัฒนานวัตกรรมดิจิทัล: ส่งเสริมและสนับสนุนการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในการพัฒนาทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและ 4. การส่งเสริมรัฐบาลดิจิทัล: ส่งเสริมและสนับสนุน การนำนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนาการบริการภาครัฐ เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้บริการทุกภาคส่วน
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติ โครงการตามมาตรา 26 (3) ได้แก่ โครงการบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ เพื่อเพิ่มมาตรการความปลอดภัย และให้บริการประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และเห็นชอบโครงการจ้างบำรุงรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โครงการ digital workplace ประจำปี66 เพื่อสนับสนุนการบริการจัดเตรียมประชุมออนไลน์ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งเห็นชอบโครงการมาตรา 26 (4) โครงการ 1ตำบล 1ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) เพื่อนำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ ไปใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรของกลุ่มเกษตรกร เพื่อช่วยในการลดต้นทุนการผลิต ลดระยะเวลาการทำงาน และเป็นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ให้แก่กลุ่มเกษตรกร ทั่วทุกภาคของประเทศ
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับคณะกรรมการฯ และผู้เกี่ยวข้องให้กำกับดูแลการดำเนินโครงการ ที่ผ่านความเห็นชอบแล้ววันนี้ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสัญญา ตามกรอบเวลาอย่างเคร่งครัด และจะต้องใช้เงินกองทุนอย่างประหยัด คุ้มค่า โปร่งใส เกิดประโยชน์สูงสุดตามวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม ของประเทศชาติ ต่อไป.-สำนักข่าวไทย