กรุงเทพฯ 17 ธ.ค. – “จุรินทร์” ออนทัวร์เขตหนองจอก ชาวนาตะโกนเชียร์ให้เป็นนายกฯ เผยเตรียมออนทัวร์อีสาน-เหนือ สัปดาห์หน้า
วันที่ 17 ธ.ค.65 เวลา 12.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำ “จุรินทร์ ออนทัวร์ เขตหนองจอก” เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร เขตหนองจอก ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร ทำนา ปลูกพืชสวนผสมตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 และร่วมงานประชุมครูสอนศาสนาอิสลาม กรุงเทพฯ-สมุทรปราการ
ทันทีที่นายจุรินทร์ เดินทางไปถึงบริเวณงาน ชาวหนองจอกได้ปรบมือดีใจ พร้อมกับนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอว และมอบดอกไม้ ทั้งกล่าวชมว่า “ตัวจริง หล่อกว่าในทีวี ดูใจดี เราอยากให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี หลังเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ท่านได้เป็นนายกใหญ่ อย่าทิ้งเกษตรกร และขอให้มีโครงการประกันรายได้ต่อไป” สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับคณะของนายจุรินทร์ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น
จากนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการลงพื้นที่ในวันนี้ ซึ่งเป็นเขตของ ส.ส.พลังประชารัฐ นายศิริพงษ์ รัสมี ว่ามีนัยทางการเมืองหรือไม่ว่า ไม่ได้มีนัยอะไร เป็นการลงพื้นที่ปกติ เพราะ “จุรินทร์ ออนทัวร์” นั้น ก็ได้เดินทางไปทั่วประเทศ และในกรุงเทพมหานครก็ถือเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่จะต้องมา สำหรับวันนี้ถือว่ามาพบกับพี่น้องเกษตรกรเขตหนองจอกที่ปลูกข้าว ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนอยู่แล้ว และมาพบพี่น้องชาวมุสลิมที่เป็นครูสอนศาสนาในเขตหนองจอก และสมุทรปราการด้วย
“ไม่มีนัยสำคัญทางการเมืองอะไรเป็นพิเศษ แต่ต้องขอบคุณ ส.ส.ศิริพงษ์ รัสมี ที่ให้เกียรติมาร่วมกิจกรรมด้วย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารได้มาทำงานร่วมกัน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า มีโอกาสจะเห็น ส.ส.ศิริพงษ์ สวมเสื้อสีฟ้า ซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามท่าน ส.ส.ศิริพงษ์ ซึ่งท่านจะเป็นผู้นับหนึ่งในการตัดสินใจ ประชาธิปัตย์นั้นไม่มีอะไรรังเกียจท่านหรอก เพราะท่านก็เป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพคนหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร และมีพื้นฐานคะแนนเสียงที่ดีในเขตหนองจอกด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากสภาพการเมืองที่มีหลายพรรคการเมืองเริ่มคึกคัก มีการดูด ส.ส.กันเกิดขึ้น สำหรับประชาธิปัตย์ได้มีการเตรียมหาผู้สมัครเพื่อทดแทนคนที่ออกไปพรรคอื่นหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีคนแทนอยู่แล้ว มีการเตรียมการไว้แล้ว ไม่ได้มีความกังวลอะไร และเรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อเป้าหมายใหญ่ของพรรคที่กำหนดไว้เดิม เพราะพรรคมีเป้าหมายชัดเจนว่าพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่เป้าหมาย
จากการที่มีพรรคการเมืองเริ่มแบ่งขั้วกัน ทั้งที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมฯ ถึงจุดยืนภายหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องนี้ตนเคยตอบไปแล้วว่า ต้องนับหนึ่งที่ประชาชน เราไปนับหนึ่งก่อนประชาชนไม่ได้ เพราะระบบนี้ประชาชนต้องเป็นคนให้คำตอบเป็นคนแรกว่า ได้ให้เสียงกับพรรคการเมืองแต่ละพรรคจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งนั่นคือเจตนารมณ์ที่ประชาชนต้องการจะเห็นว่าได้สนับสนุนพรรคการเมืองไหนมากน้อยเท่าไหร่ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลต่อไป เราจะไปตอบก่อนชาวบ้านไม่ได้ เพราะเท่ากับว่าเราไม่เคารพเสียงประชาชน และมันก็ไม่เป็นไปตามนั้นด้วย ทั้งหมดประชาชนต้องเป็นคนให้คำตอบก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่มีการปล่อยข่าวถึงการโค่นล้มหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้มีความชัดเจนอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกท่านได้ออกมาปฏิเสธชัดเจนแล้ว ตั้งแต่เลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร เราพร้อมที่จะจับมือกันอย่างเป็นเอกภาพในการที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนพรรคต่อไป และเป้าหมายก็มีชัดเจนอยู่แล้วว่า ภาคไหนเรามีเป้าหมายในพื้นที่ไหน จะได้ ส.ส. รวมกันเป็นจำนวนเท่าไหร่ เรื่องนี้มีความชัดเจนอยู่แล้ว ไม่กระทบ ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมกับมั่นใจว่า หลังปีใหม่ พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถเปิดตัวผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต เพราะพรรคตั้งเป้าหมายที่จะส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขตอยู่แล้ว ในสัปดาห์หน้า ตนจะเดินทางไปเปิดตัวที่บางจังหวัดในภาคอีสาน ถัดจากนั้นจะได้ไปเปิดตัวในภาคเหนือด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่มีอดีต ส.ส.ของพรรคในจังหวัดภาคอีสานย้ายไปพรรคการเมืองอื่น ได้มีการเตรียมหาตัวผู้สมัครไว้แล้วหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะทราบมานานแล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับพรรค
ส่วนที่ถามว่า สำหรับ ส.ส.ที่ยังอยู่กับพรรค และยังมีพลังดูดจากพรรคการเมืองอื่นอีกด้วย ได้มี ส.ส.มาเล่าให้ฟังหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “คนที่มีความพยายามมาทาบทามที่จะดูดไปก็มาเล่าให้ฟัง เพราะฉะนั้นก็ทราบกันทั้งนั้นแหละ แต่คนส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมด ก็ยังยืนหยัดอยู่กับพรรค มั่นคงอยู่กับพรรค ผมถึงมั่นใจว่าเป้าหมายเราไม่ถูกกระทบอะไร”
นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังเชื่อมั่นว่า ในการเลือกตั้งเที่ยวหน้า เราปักธงในกรุงเทพฯ ได้ แม้ว่าคราวที่แล้วจะไม่ได้แม้แต่คนเดียว แต่ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กับ ส.ก. พิสูจน์ว่าประชาชนให้การตอบรับประชาธิปัตย์มากขึ้นกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา อย่างน้อย ส.ก. เราก็ได้ตั้ง 9 คน และได้ที่ 2 มาอีก 7 เขต สำหรับผู้สมัครฯ ผู้ว่าฯ กทม. “ดร.เอ้” ก็มาลำดับ 2 แม้จะไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ ก็ตาม จึงสะท้อนว่าเสียงตอบรับในกรุงเทพฯ ดีขึ้นกว่าคราวที่แล้วแน่นอน ส่วนจะได้เท่าไหร่อย่างไรนั้น ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้สมัครที่เราพยายามคัดเลือกคนที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้ชาวกรุงเทพฯ ต่อไป จะมีบางเขตที่ยังไม่ได้กำหนดตัว เพราะจะมีเขตเพิ่มขึ้นมา 3 เขต ดังนั้นก็จะยังไม่ชัดเจนว่ามีเขตไหนบ้าง จึงทำให้กระทบกับบางเขตที่เรายังไม่สามารถเปิดตัวได้ แต่เมื่อถึงเวลาก็จะเปิดตัวแน่ และส่วนใหญ่เราก็กำหนดตัวชัดเจนเกือบจะเรียกว่าไว้หมดแล้ว
“ผู้สมัครก็จะมีผสมกัน ทั้งอดีต ส.ส. ทั้งคนรุ่นใหม่ และผู้สมัครหน้าใหม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น เราให้ความสำคัญกับคนทุกรุ่น คนรุ่นใหม่ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เราให้ความสำคัญ เที่ยวนี้ก็มีคนหน้าใหม่ คนรุ่นใหม่เข้าพรรคเยอะเลย จะได้ทยอยเปิดตัวต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย