“ทิพานัน” เหน็บนโยบายพท.อย่า “คิดใหญ่ โกงเป็น”

ทำเนียบรัฐบาล 8 ธ.ค.-“ทิพานัน” บอก “แพทองธาร” ต้องชัดเจนเข้ามาทำงานการเมืองหรือต้องการหาพ่อกลับบ้าน เหน็บนโยบายต้องไม่ “คิดใหญ่ โกงเป็น” ตั้งคำถามเศรษฐกิจไม่ดี แต่ทำไมผลประกอบการธุรกิจตระกูลชินวัตรกลับดี  


น.ส.ทิพานัน  ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยสัมภาษณ์ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยระบุว่าควรจะชัดเจนเรื่องการแก้ปัญหาของประชาชนมากกว่าและควรชัดเจนในเรื่องที่ควรจะชัดเจน ว่า น.ส.แพทองธาร ต่างหากที่ต้องชัดเจนว่า การเข้ามาการเมืองเพื่อพาพ่อกลับบ้านหรือเพื่อประชาชน

“สิ่งที่สังคมสังสัยคือมาเพื่อประโยชน์ของครอบครัวตนเอง ซึ่งต่างจากพล.อ.ประยุทธ์ที่ชัดเจนมาโดยตลอดว่าทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและคนไทยทุกคน ไม่เคยเอาประชาชนมาเป็นหมากในเกมการเมือง ดังที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมองการทำงานเพื่อบ้านเมืองเป็นแค่เกมแย่งชิงอำนาจการเมืองเท่านั้น” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ต้องขอชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่า ความสำเร็จของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ด้านการพัฒนาและยกดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นต่อเนื่องอย่างยั่งยืน ไม่ฉาบฉวย จนเป็นที่ประจักษ์จาก UN โดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้จัดประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนามนุษย์ระดับ “สูงมาก” (Very High) และต่อเนื่องมา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ซึ่งต่างจากปี 2554-2557 อยู่ในระดับสูง (High)  และระหว่างปี 2544-2549 อยู่ในระดับปานกลาง เท่านั้น

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ได้นำพาชาติฝ่าวิกฤติโควิด 19 มาตั้งแต่ช่วง 2562 ที่ทั่วโลกประสบปัญหากันอย่างหนัก รัฐบาลตระหนักถึงการประคองเศรษฐกิจไปพร้อมกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูญเสียน้อยที่สุด ซึ่งก็ผ่านพ้นมาด้วยดีจนได้รับรางวัล  United Nations Public Service Awards (UNPSA) ประจำปี ค.ศ. 2021 ณ เมืองดูไบ โดยเป็นรางวัลชนะเลิศจากผลงานหัวข้อ “Intelligent and Sustainable Public Health Emergency System in Thailand”  โดยรางวัล UNPSA เป็นรางวัลเชิดชูเกียรติระดับนานาชาติที่สหประชาชาติมอบให้องค์กรระดับประเทศหรือท้องถิ่นที่มีผลการดำเนินงานภาครัฐที่เป็นเลิศ 

“หลังได้รับการเลือกตั้งเพียงไม่กี่เดือน วิกฤติโควิด 19 ได้กระทบทุกประเทศทั่วโลกในช่วงปี 2562-2564 จึงเป็นความท้าทายอย่างหนักที่จะทำให้ภาคธุรกิจเสียหายน้อยที่สุด รัฐบาลจึงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและใช้ยาแรงเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวให้เร็วที่สุด จึงมีโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายในระดับครัวเรือน เช่น  เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง บัตรสวัสดิการฯ ซื้อของร้านธงฟ้า มาตรการสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ เช่นโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย มาตรการเลื่อนเวลาการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล มาตรการเลื่อนเวลาการยื่นแบบแสดงรายการ นำส่งและชำระภาษี มาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ มาตรการผ่อนปรนหลักเกณฑ์การ จำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้สำหรับหนี้ที่เจ้าหนี้ปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านแรงงาน เรารักกัน ซึ่งมาตรการเหล่านี้พยุงเศรษฐกิจให้รอดพ้นวิกฤติมาได้” น.ส.ทิพานัน กล่าว


รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนในปี 2565 นี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยรัฐบาลมุ่งผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ เช่น สนามบิน รถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ ถนนมอเตอร์เวย์ไปยังทุกภาค ขนส่งรถไฟฟ้า รวมถึงเศรษฐกิจ EEC ที่เป็นเศรษฐกิจใหม่ที่ขณะนี้เติบโตต่อเนื่อง  ในส่วนภาคการส่งออกอุตสาหกรรมยานยนต์ก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น  ทั้งนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่นบ้านจัดสรร คอนโด ก็เติมโตมีกำไรทุกไตรมาส ที่สำคัญภาคการท่องเที่ยวก็มีอนาคตสดใสเช่น ในปี 2565 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวทะลุ 10 คนเข้ามาในไทย 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังดีขึ้นนี้ รัฐบาลไม่รอช้าต่อพี่น้องแรงงานทุกคน จึงมีมติเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2565 ขึ้นค่าแรง 354 – 328 บาท ที่มาจากการหารืออย่างรอบคอบทั้ง 3 ฝ่ายคือ นายจ้าง ลูกจ้างและรัฐ ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าหากเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้นเร็วขึ้น ประเทศชาติสงบ ไม่มีอะไรมาทำให้สะดุด จะนำข้อมูลหารือให้รอบด้านทั้ง 3 ฝ่าย เพื่อขึ้นค่าแรงให้กับพี่น้องแรงงานได้อีกในไม่ช้านี้แน่นอน และขณะที่พรรคเพื่อไทยดูแคลนความสามารถการบริหารงานของรัฐบาล สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เปิดเผยแนวโน้มการปรับอัตราค่าตอบแทนรวม ประจำปี 2565/2566 อย่างเป็นทางการ จากการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกในกลุ่มเป้าหมาย 112 องค์กรจากภาคธุรกิจต่าง ๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริการ ยานยนต์ เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และเทคโนโลยี พบแนวโน้มปรับตัวอัตราค่าตอบแทนที่ขยับขึ้นสูง โดยในปี 2566 คาดการณ์องค์ธุรกิจต่าง ๆ จะปรับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.27 % ขณะที่คาดการณ์โบนัสคงที่ 1.44 เดือน คาดการณ์โบนัสผันแปร 2.31 เดือน ซึ่งคือตัวการันตีการทำงานของรัฐบาลอย่างประจักษ์และชัดเจนมากกว่าสร้างวาทกรรมกล่าวหามั่ว ๆ ของพรรคเพื่อไทย

“สิ่งที่อยากจะให้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยตระหนักในคำพูดว่าเศรษฐกิจไม่ดี  ให้ตอบสังคมว่าแล้วทำไมธุรกิจของตระกูลชินวัตรที่อยู่ในไทยกลับมีผลประกอบการดี เช่น โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิทก็ยังมีกำไรใช่หรือไม่ การพูดว่าเศรษฐกิจไม่ดีต้องเพื่อไทยมาแก้ ก็ให้พี่น้องประชาชนพิจารณาถึงข้อมูลด้วยการค้นหาคำว่า “รายได้ครอบครัวชินวัตร” จะพบว่าสิ่งที่หัวหน้าครอบครัวพูดเป็นจริงหรือไม่ การที่พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าเศรษฐกิจกำลังแย่ มันสวนทางกับข้อมูลที่เผยแพร่ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง และการที่ น.ส.แพทองธารประกาศนโยบายขายฝันแค่ไหน คิดใหญ่เกินจริงแค่ไหน อย่าให้มีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนอดีตพ่อกับอา ที่ทุจริตคอรัปชั่นคนไทยไปอย่างมหาศาล ไม่เคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นนักโทษหลบหนีคดีร่อนเร่ไปมา ดังนั้นนโยบายที่ประกาศใหม่ก็อย่าให้สังคมตราหน้าว่า “คิดใหญ่ โกงเป็น” เหมือนในอดีต” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ฯ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยืนยันจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาสมควร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความชัดเจนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ว่าหลายๆ อย่างเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยืนยันว่าความชัดเจนในการจัดสรรนิ่ง 100% แล้ว ทุกคนที่มาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีทราบดีถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยจะต้องเริ่มทำงานทันทีหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผย ระบุว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาสมควร ไม่เป็นการก้าวล่วงใดๆ ก็จะรีบเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จะไม่ดำเนินการใดๆ ลับหลังประชาชน และจะให้ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อออกความเห็นให้รัฐบาลได้รับฟัง และรัฐบาลจะได้ปฏิบัติตาม นายอนุทิน ยังยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคน จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อจำกัด จะต้องทุ่มเททำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีทั้งทหาร พลเรือน อส. นายกองใหญ่.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย