ห่วงประชาชนเดินทางวันหยุดยาว ย้ำขับขี่ปลอดภัย

กทม. 3 ธ.ค.-นายกฯ ห่วงใยประชาชนเดินทางวันหยุดยาวตลอดเดือน ธ.ค. ขอให้เพิ่มความระมัดระวังการขับขี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ จัดคาร์ซีทสำหรับเด็ก กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใยประชาชนที่คาดว่าจะมีการเดินทางมากตลอดเดือน ธ.ค. 65 เนื่องจากมีวันหยุดยาวหลายช่วงด้วยกัน ได้แก่ ช่วงวันพ่อแห่งชาติ 3-5 ธ.ค.นี้ วันรัฐธรรมนูญ 10-12 ธ.ค. และในเทศกาลปีใหม่ จึงกำชับให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อำนวยความสะดวกการเดินทางให้ประชาชน ให้คำแนะนำ ตลอดจนกวดขันพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การเมาแล้วขับ


ในส่วนของประชาชนโดยเฉพาะผู้เดินทางทางถนนนั้นก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยตรวจสภาพรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน คนขับมีสภาพร่างกายที่พร้อม พักผ่อนเพียงพอ ไม่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการขึ้นในระหว่างขับขี่พาหนะ เช่น หัวใจ ลมชัก งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อน และในขณะขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคนขับและผู้ร่วมเดินทาง และหากมีเด็กร่วมเดินทางควรพิจารณาใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seat) ผู้ใช้รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยทั้งคนขับขี่และคนซ้อนท้าย ขับรถด้วยความเร็วที่กำกฎหมายกำหนด เคารพกฎจราจร โดยหากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้โทรขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพทันทีที่สายด่วน 1669 ทันที

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับทุกหน่วยงานดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชนเนื่องจากปัจจุบันอุบัติเหตุทางถนนยังคงเป็นสาเหตุสำคัญของการบาดเจ็บ เสียชีวิต และทุพพลภาพของประชาชน โดยข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 23 พ.ย. 65 ทั่วประเทศได้พบผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน รวม 847,317 ราย แบ่งเป็น ผู้บาดเจ็บ 834,130 ราย (ร้อยละ 98.44) ผู้เสียชีวิต 13,042 ราย (ร้อยละ 1.53) และทุพพลภาพ 145 ราย (ร้อยละ 0.02)


ทั้งนี้ ผู้ประสบเหตุส่วนใหญ่เป็นเพศชาย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ 36-60 ปี โดยพาหนะที่เกิดเหตุมากที่สุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ รองลงมาคือ รถยนต์ จังหวัดที่มีรายงานจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร รองลงมาคือ ชลบุรีและนครราชสีมา ซึ่งจากสถิติย้อนหลังเมื่อปี 2564 พบว่าจะมีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตสูงในช่วงเดือน มี.ค. ธ.ค. และ ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงเดือนที่มีเทศกาลและวันหยุดยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ