นายกฯ ย้ำใช้งบมีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้

ทำเนียบฯ 1 ธ.ค.-นายกฯ มอบรางวัลการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ย้ำ​ใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ​ ตรวจสอบได้​ บอก​สถานะการเงินการคลังประเทศยังมีเสถียรภาพ​ ยันไม่ต้องการทำอะไรเพื่อการเมือง แต่ทำเพื่อประเทศ ชี้​หากมีการเลือกตั้ง​ต้องไม่เป็นภาระวันหน้า


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 8 ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมีหน่วยงานที่ได้รับรางวัล จำนวน 44 หน่วยงาน และ 7 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 103 รางวัล

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกหน่วยงานที่ได้รับรางวัล เชื่อมั่นว่ารางวัลนี้เป็นรางวัลอันทรงคุณค่า สร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน และยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และความถูกต้องตามกฎระเบียบและกติกาอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังช่วยสร้างความเข้มแข็งกับส่วนราชการในการรักษาประสิทธิภาพการทำงานในระดับมาตรฐานที่สูงอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้ในฐานะประชาชนทั่วไป คาดหวังที่จะเห็นส่วนราชการ และข้าราชการ ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลัง มีความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ใช้งบประมาณแผ่นดินจากเงินภาษีอย่างมีประสิทธิภาพในการพัฒนาประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี คาดหวังให้ทุกส่วนราชการร่วมกันนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน สมความคาดหวังของประชาชนทั้งประเทศ และมุ่งหวังให้การเงินการคลังของรัฐเป็นไปอย่างบูรณาการ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ลดความผิดพลาด ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น สะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน และขอให้ทุกหน่วยงานมุ่งมั่นตั้งใจในการรักษาระดับมาตรฐานการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังให้มีประสิทธิภาพสูง มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างหน่วยงาน เพื่อยกระดับมาตรฐานทุกหน่วยงานไปสู่ความเป็นเลิศ อันจะนำไปสู่การยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐในภาพรวมต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย วานนี้ (30 พ.ย.) ว่าได้พบกับประชาชนเกษตรกรชาวนาและท้องถิ่น ได้พูดถึงการปรับโครงสร้างการทำเกษตรให้ดีขึ้น ให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงขั้นตอน ตลอดจนห่วงโซ่การผลิต การตลาด ซึ่งการลงพื้นที่ได้เห็นถึงความก้าวหน้า

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนอยากจะมอบรางวัลให้ครบทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะกี่ร้อยรางวัลก็ยินดีจะมอบ จึงขอให้ทุกคนช่วยกันทำงาน ในเรื่องการบริหารการเงินการคลังของรัฐได้รับคำชื่นชม รวมถึงได้รับความเชื่อมั่นจากต่างชาติว่ามีเสถียรภาพและศักยภาพ สามารถรองรับกับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีกว่าหลายประเทศ ดังนั้นจะต้องทำตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่มีอะไรดีที่สุด เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงทุกวัน ทั้งสถานการณ์โลก การค้าการลงทุน จึงจำเป็นต้องนำทุกอย่างมาวิเคราะห์พิจารณาว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้ได้การยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนรักษาความดีเอาไว้ ไม่มีใครรู้เท่ากับเราจะรู้ตัวเราเองว่า เราจะทำงานดีหรือไม่ดีอย่างไร สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทุกคน​ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายไปแล้วนั้น บางส่วนศึกษาจากภายนอก ศึกษาเองบ้าง รับฟังคนอื่นมาบ้าง และท้ายที่สุดคือการรับฟังจากคนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในด้านใดก็ตาม กระทรวงการคลังถือเป็นแกนกลางที่จะบริหารตรวจสอบงบประมาณต่างๆ ให้ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า โปร่งใส สุจริต เป็นธรรม และสามารถตรวจสอบได้ นี่คือสิ่งที่ต้องยึดมั่นเสมอ เพราะเราใช้จ่ายงบประมาณจากภาษีของประชาชน ใช้ทุกอย่างให้คุ้มค่า และปรับต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน​ ก่อนที่จะย้ำว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน เราจะนิ่งดูดายไม่ได้ การคิดแบบเดิม กฎหมายเดิมๆ จะเดินไม่ได้

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ขณะนี้สถานะการเงินการคลังเราได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ แนวระดับ 3b+ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพ มีการบริหารจัดการการเงินการคลังที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพ และรองรับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ดีกว่าในหลายประเทศ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจและมีส่วนร่วมกับกระทรวงการคลังและรัฐบาล หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกอย่างจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ

“นั่นคือหน้าที่ของพวกเรา​ หน้าที่ของผม​ และส่วนราชการทุกภาคส่วน ผมไม่ต้องการทำอะไรเพื่อการเมือง ผมต้องการทำเพื่อประเทศของเรา ประชาชนของเรา ถ้าไม่ทำวันนี้ จะทำเมื่อไหร่ ไม่รู้ ต้องทำให้ดีขึ้นทุกวัน คิดทุกวัน ทำทุกวัน มันต้องดีขึ้น ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนจะร่วมมือกันได้มากน้อยเพียงใด คนคาดหวังว่าในระยะเวลาอันใกล้ วันหน้าก็มีการเลือกตั้งอะไรต่างๆ ตนก็ไม่อยากจะทิ้งภาระไว้ให้ใครในโอกาสหน้าทั้งสิ้น ไม่อยากให้ทุกอย่างกลับมาสู่ที่เดิม คือก่อนที่เราจะแก้ไขปัญหามาถึงเวลานี้ได้ ขอให้ทุกคนได้ภาคภูมิใจว่า เราทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสมาเพื่อใคร ไม่ใช่เพื่อตัวเอง ทำเพื่อคนอื่น นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่ากุศล ทำบุญให้ทำกับวัดกับพระ แต่ทำกุศลต้องทำให้กับคน เพราะฉะนั้นคือสิ่งที่ทุกคนต้องเสียสละ ต้องไม่เหนื่อยที่จะคิด ไม่เหนื่อยที่จะทำ มุ่งหวังผลประโยชน์จากการทำงานของตัวเอง นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกกับพวกเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าทุกคนพยายามทำอย่างเต็มที่ ทำได้ดีกว่านี้อีก หวังว่าวันพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้ ตนเชื่อมั่นทุกคน พร้อมยอมรับเหนื่อยเหมือนกันที่พูด เพราะคิดแล้วต้องพูด อยากให้รู้ว่านายกฯ คิดอะไรอยู่ อยากให้ทุกคนพยายามคิด ไม่ใช่ว่าตนเก่งกว่า ทุกคนเก่งกว่าตนอยู่แล้ว.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้านร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยเหตุกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อ

ศรีสะเกษ 2 ส.ค.-เช้านี้บรรยากาศที่ปั๊มน้ำมันบ้านผือ อ.กันทรลักษ์ เต็มไปด้วยความสลด ชาวบ้านร่วมกิจกรรมวางดอกไม้แสดงความไว้อาลัยผู้เสียชีวิต จากเหตุถูกกัมพูชายิงจรวดใส่ และจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆในอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทยอยเดินทางมาที่ปั๊ม ที่ถูกกัมพูชาโจมตีโดยการยิงจรวด BM-21 ใส่ เมื่อวันที่24 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจรวจตกใส่บริเวณร้านสะดวกซื้อ ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีก 15 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีแม่และลูกวัย 8 ขวบ ชาวบ้านร่วมกันเขียนข้อความแสดงความไว้อาลัย ก่อนร่วมกันนำข้อความพร้อมดอกไม้ชูขึ้น เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ว่าการที่ทหารกัมพูชาโจมตีพื้นที่พลเรือนถือเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม จากนั้นได้รวมกันนำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความไว้อาลัยบริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อที่ถูกกัมพูชายิงจรวดใส่ นอกจากชาวบ้านแล้วยังมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ที่มาร่วม วางดอกไม้ แสดงความไว้อาลัย ตัวแทนชาวบ้านบอกว่า การร่วมวางดอกไม้ในครั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี พร้อมขอประณามกัมพูชา ที่เลือกยิงเป้าหมายเป็นประชาชน ทั้งที่ตำบลเมืองถือเป็นพื้นที่สีเขียว แต่ยังมีกระสุนตกใส่ และการที่เป็นพื้นที่สีเขียว จึงไม่ได้มีการอพยพประชาชน หากตกใส่หมู่บ้าน เชื่อว่าจะมีความสูญเสียเกิดขึ้นมากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

กองทัพบก ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน

กทม. 2 ส.ค.-กองทัพบกบูรณาการทุกภาคส่วน ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2568 เรื่องห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือ “โดรน” ที่ควบคุมการบินจากภายนอก, ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน, และทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการใช้ระบบต่อต้านโดรน (Anti-Drone System) รวมถึงสามารถดำเนินการทำลายโดรนจากภาคพื้นดินได้ทันที ในการนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ถึง 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 ถึง 4 ดำเนินมาตรการตามแนวทางดังต่อไปนี้ •ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด โดยมีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ฝ่ายทหาร) เป็นผู้รับผิดชอบในการหารือและประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการ หน่วยงาน และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมและวางแผนภาพรวมในการป้องกันและต่อต้านการใช้โดรนไม่ทราบฝ่าย •ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยงานความมั่นคง ภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วยกำลังจากฝ่ายพลเรือน ตลอดจนตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร […]

ไทยตอนบนมีฝนน้อย คลื่นลมมีกำลังอ่อน

กทม. 2 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนมีฝนน้อย คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนน้อยเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตากอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ […]

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย