นายกฯ ปลื้มผู้นำเอเปครับรอง “Bangkok goals on BCG Economy”

ทำเนียบฯ 20 พ.ย.- นายกฯ สุดปลื้ม ผู้นำเอเปคทุกเขตเศรษฐกิจร่วมรับรอง “Bangkok goals on BCG Economy” ชื่นชมความริเริ่มของไทย เชื่อมั่นโมเดลเศรษฐกิจ BCG จะสร้างการเติบโตของประเทศ ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกได้


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำเอเปคจากทุกเขตเศรษฐกิจได้ร่วมรับรอง ปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ค.ศ. 2022 รวมทั้งได้ร่วมรับรอง “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG” หรือ “Bangkok goals on BCG Economy” ซึ่งทั้งในช่วงระหว่างการประชุมฯ และระหว่างการหารือแบบทวิภาคี ผู้นำเอเปคฯ ได้กล่าวชื่นชมความริเริ่มที่ประเทศไทยได้นำเสนอแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในการประชุมฯ ครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าโมเดลเศรษฐกิจ BCG จะสร้างการเติบโตของประเทศ และตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ริเริ่มโมเดลเศรษฐกิจใหม่ที่เรียกว่า “โมเดลเศรษฐกิจ BCG ” ตัว “B” คือ Bioeconomy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ ตัว “C” คือ Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน และตัว “G” คือ Green Economy หรือเศรษฐกิจสีเขียว โดยมุ่งหวังให้เป็นกลไกยกระดับสถานะของประเทศทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในประชาคมโลก ทั้งนี้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ของประเทศไทยมีความสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) มากถึง 13 จาก 17 เป้าหมาย


ทั้งนี้ จากการริเริ่มนำโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาขับเคลื่อนการพัฒนาของประเทศในระยะเวลาประมาณ 2 ปี  สามารถเริ่มเห็นผลที่เป็นรูปธรรม สอดรับกับเป้าหมายกรุงเทพ (Bangkok goals) ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ที่ประเทศไทยได้มีการนำเสนอในการประชุมผู้นำเอเปคในครั้งนี้ โดยรัฐบาลได้ดำเนินการด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้ง 4 เป้าหมาย ดังนี้

(1) จัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การปลูกป่าโดยเอกชนและประชาชนโดยมีการจัดสรรคาร์บอนเครดิตเป็นแรงจูงใจให้กับผู้ที่ปลูกป่า บำรุง อนุรักษ์ป่า โดยปี 2565 กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการปลูกป่าเพื่อแบ่งปันคาร์บอนเครดิตร่วมกันจำนวน 4 แสนไร่

การพัฒนาตลาคคาร์บอนเครดิตในประเทศ มูลค่าและปริมาณการซื้อขายคาร์บอนเครดิตส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 จำนวน 124.8 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 13 เท่า จากปี 2564) และปริมาณการซื้อขาย 1.16 ล้านตัน ด้วยราคาเฉลี่ย 107.23 บาทต่อตัน


นโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามนโยบาย 30@30 คือ การตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030

การส่งเสริมการผลิตโปรตีนจากแมลงซึ่งใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการปลูกพืช หรือเลี้ยงสัตว์  ตัวอย่างเช่น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้เข้าไปส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงจิ้งหรีดตำบลหนองพระ ซึ่งมีสมาชิก 78 ราย โดยฟาร์มจิ้งหรีดที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี สร้างรายได้ครัวเรือนละ 20,000 บาท/เดือน ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนเป็นอาชีพเสริมให้กลายมาเป็นอาชีพหลัก
 
(2) ขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน กระทรวงอุตสาหกรรมผลักดันโรงงานเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียวไปแล้ว  40,319 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 63.1 ของจำนวนโรงงานทั้งหมด อีกทั้งสถาบันการเงินมีโครงการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจ BCG รวมกันกว่า 1.5 แสนล้านบาทจนถึงปี 2570 โดยเริ่มมีการปล่อยสินเชื่อแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565
       
(3) อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพการส่งเสริมให้เกษตรลดใช้สารเคมีในการเกษตร ด้วยการส่งเสริมการปลูกพืชด้วยระบบโรงเรือนอัจฉริยะ หรือการนำระบบเกษตรแม่นยำ ส่งผลให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 50% คุณภาพของผลผลิตสูงขึ้น ลดปริมาณการใช้สารเคมีเกษตรในการกำจัดแมลงลงได้ร้อยละ 50 และผลกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว

กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สวทช. และหน่วยงานในท้องถิ่น นำ “นวัตกรรมไม้โกงกางเทียม”  ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เลียนแบบรากต้นโกงกางธรรมชาติ ไปใช้ในพื้นที่สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ เมื่อปี 2558  ซึ่งจากการตรวจวัดดินตะกอนที่สะสมหลังแปลงไม้โกงกางเทียม พบว่า ดักตะกอนได้สูงถึง 50 ซม. ปัจจุบันขยายผลการติดตั้งแปลงไม้โกงกางเทียมในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จ.พังงา จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง
 
(4) ปรับปรุงประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากรเพื่อลดขยะให้เป็นศูนย์ ความร่วมมือรัฐและเอกชนภายใต้ชื่อ “PPP Plastic”  ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีการดำเนินงานเพื่อลดขยะในกลุ่มพลาสติกในหลายพื้นที่ เช่น พื้นที่เทศบาลระยองสามารถลดการหลุดรอดของขยะพลาสติกลงสู่ทะเลได้ถึงร้อยละ 50 นอกจากนี้ ชุมชนวังหว้า จังหวัดระยอง ไม่เพียงประสบความสำเร็จในการจัดการขยะ แต่ยังสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 10,000 บาท/เดือน

โครงการเศรษฐกิจแพลตฟอร์มขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ผู้นำ BCG ยุคใหม่ (BCG Next Gen) ด้วยการบ่มเพาะผู้ประกอบการ และการส่งเสริมการตลาด โดยส่วนหนึ่งเป็นการนำวัสดุที่ใช้แล้วหมุนเวียนนำกลับมาใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ในระหว่างเดือนตุลาคม 2564 – มีนาคม 2565  มีผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จำนวน 1,351 ราย สร้างมูลค่าการค้าทั้งสิ้น 3,795 ล้านบาท
มหาวิทยาลัยทักษิณ พัฒนาเทคโนโลยีนำทางปาล์มน้ำมัน (แกนใบ) ที่เหลือทิ้งในเกษตรกรรม ในพื้นที่ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง มาแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์กระดาษ ทั้งยังเป็นการสร้างงานให้เกษตรกร เป็นการพัฒนาท้องถิ่น ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลาสติกได้เป็นจำนวนมาก

“รัฐบาลไทยเชื่อว่าโมเดลเศรษฐกิจ BCG ไม่ได้เหมาะสมต่อประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นรูปแบบที่ประเทศสมาชิกในเขตเศรษฐกิจเอเปคสามารถนำไปปรับใช้ พัฒนา ต่อยอดให้เกิดประโยชน์ตามบริบทของประเทศตนเองและต่อโลกได้อีกด้วย” นายอนุชากล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี ตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเร่งเทปูน 500 ลบ.ม. อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติม

กทม. 25 ก.ย.-ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ “เขตภัยพิบัติ” เป็นประกาศตามเหตุการณ์ ไม่ได้ระบุระยะทาง เร่งเทปูน 500 ลูกบาศก์เมตร อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติมจุดทรุด เตรียมกระสอบทราย-เครื่องสูบน้ำรับมือทันที นายชัชชาติ สิทธพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุดตัวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาว่า นายกฯ ได้ติดตามสั่งการทุกหน่วยงานมาโดยตลอด ทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง และได้รับความร่วมมือร่วมใจที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงภาคส่วนเอกชนต่างๆ อีกด้วย ทำให้เหตุการณ์รอบนอกเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว เหลือเพียงข้างในที่เป็นเรื่องเชิงเทคนิค นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ หลังเกิดเหตุ 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน และไม่ได้สั่งให้เตรียมการต้อนรับแต่อย่างใด ท่านมาแบบตามสบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่ท่านนายกฯ ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพูดคุยให้กำลังใจกัน มีปัญหาอะไรก็คุยกัน นายชัชชาติ เปิดเผยอีกว่า วันนี้จะมีการเทปูนลง 500 ลูกบาศก์เมตรไปในถนนทรุด แต่สิ่งที่ต้องมีการประเมินต่อคือ ปูนไหลลงไปในอุโมงค์เท่าไร เนื่องจากยังอุดกระสอบทรายได้ไม่เต็มที่ จึงมีปูนบางส่วนที่ไหลไปในอุโมงค์หรือสถานี อุปสรรคคือการเทปูนไปแล้วไม่ลงตรงจุด เนื่องจากปูนจะไหลไปในจุดที่ต่ำสุดเช่นเดียวกับการไหลของดิน […]

รฟม.-ผู้รับจ้าง เร่งแก้ไขถนนทรุด ยันเยียวยา ปชช.เต็มที่

กรุงเทพ 25 ก.ย. -รฟม.-ผู้รับจ้าง เร่งแก้ไขถนนทรุด หน้า รพ.วชิรพยาบาล คืนสภาพการจราจรภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วย กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที – พีแอล และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน PMCSC 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ร่วมแสดงเจตจำนงขออภัยประชาชนทุกท่านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นมา โดย รฟม. และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา ยืนยันพร้อมรับผิดชอบ ดูแลแก้ไขปัญหาให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเยียวยาประชาชน ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อย่างดีที่สุด โดย รฟม.ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยจะเร่งประชาสัมพันธ์ และลงพื้นที่ดูแลทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบทันที นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้ รฟม. ตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. เพื่อยืนยันความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้าง […]

สภาฯ เคาะวันแถลงนโยบายรัฐบาล 29-30 ก.ย.นี้

รัฐสภา 25 ก.ย.-สภาฯ เคาะวันแถลงนโยบายรัฐบาล 29-30 ก.ย.นี้ ฝ่ายค้านได้เวลา 15 ชั่วโมง “ปกรณ์วุฒิ” ลั่นแบ่งพอๆ กัน ปชน. 9 ชั่วโมง เพื่อไทย 6 ชั่วโมง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมร่วมวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี สส. และ สว. พิจารณาแนวทางดำเนินการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในการแถลงนโยบายรัฐบาล ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนส่งถึงประธานรัฐสภา ว่า มีความพร้อมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ภายหลังประชุม ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบกำหนดวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 29-30 กันยายนนี้ โดยจะเริ่มอภิปรายในเวลา 09.00 น. ทั้งสองวัน แต่วันที่สองจะให้จบการอภิปรายในเวลา 18.00 […]