นนทบุรี 27 มี.ค.-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โชว์แผนงาน โครงการ และกิจกรรมส่งเสริมสินค้านวัตกรรมและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทยปี 66 ลุยโครงการ DEWA & DEWI ต่อ พัฒนาสินค้าจากเศษวัสดุเหลือใช้ ดันผู้ประกอบการ BCG.Heroes ลดคาร์บอน เตรียมจับคู่พัฒนานวัตกรรมปั้น BCG.Heroes รุ่น 2 และนำสินค้า BCG เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงแผนการจัดทำโครงการและกิจกรรมส่งเสริมสินค้านวัตกรรมและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ในปี 2566 ว่า กรมฯ ได้กำหนดแผนงานในการสนับสนุนสินค้าตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ โดยมีโครงการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และ BCG ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ โครงการ DEWA & DEWI , กิจกรรม BCG to Carbon Neutrality , โครงการ Smart Value Creation , การสร้างการรับรู้ด้าน BCG ทั้งรูปแบบออนไลน์และสิ่งพิมพ์ , การจัดทำโครงการคัดเลือกผู้ประกอบการ BCG.Heroes รุ่น 2 การขยายโอกาสทางการค้า BCG & Sustainability โดยพาผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมแสดงสินค้าในต่างประเทศ และเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Naturally Good Expo 2023
สำหรับความคืบหน้าการจัดทำโครงการและกิจกรรม มีดังนี้ โครงการ DEWA & DEWI เป็นโครงการพัฒนาสินค้าออกแบบจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์สู่ตลาดสากล (DEsign from Waste of Agriculture and Industry : DEWA & DEWI) ขณะนี้ได้มีการคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการได้แล้ว 20 ราย แยกเป็นผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าที่ใช้เศษเหลือใช้ทางการเกษตร (DEWA) จำนวน 4 ราย และผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าที่ใช้เศษจากอุตสาหกรรม (DEWI) จำนวน 16 ราย
นอกจากนี้ กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยสู่ความยั่งยืน เฟส 2 (BCG to Carbon Neutrality) เป็นกิจกรรมต่อยอดจากเฟส 1 (ปี 2565) ที่มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาศักยภาพและยกระดับผู้ประกอบการไทยให้มีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญในการปรับตัวให้มีความพร้อมด้าน BCG และการลดการปล่อย Carbon footprint ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผลักดันผู้ประกอบการ BCG Heroes 10 ราย ที่ผ่านการคัดเลือกจากรุ่น 1 ให้สามารถได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ เป็นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจคาร์บอนต่ำ “BCG Low Carbon Pioneers” สามารถลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการบูรณาการร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) มาร่วมให้คำแนะนำและสนับสนุนในการยื่นขอคาร์บอนฟุตพริ้นท์
สำหรับกิจกรรมส่งเสริมและต่อยอดนวัตกรรมสู่การค้าระหว่างประเทศ ประจำปี 2566 (Smart Value Creation 2023) โดยปีนี้ จะดำเนินงานภายใต้แนวคิด “นำวัสดุชีวภาพจากธรรมชาติ เสริมศักยภาพด้วยนวัตกรรม BCG (Bio Materials Innovation for BCG)” และจะร่วมมือกับหน่วยงานบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กำหนดจัดกิจกรรมจับคู่พัฒนานวัตกรรม ในวันที่ 18 เมษายน 2566 เวลา 09.00–17.00 น. ณ ห้องสัมมนา 4 (Auditorium) ชั้น 1 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (รัชดา) และจัดกิจกรรมบ่มเพาะ วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.00–16.00 น. ณ ห้องสัมมนา 7-9 ชั้น 2 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (รัชดา)
ส่วนการสร้างการรับรู้ ด้าน BCG จะเดินหน้าโครงการคัดเลือกผู้ประกอบการ BCG Heroes (รุ่น 2) โดยคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพด้านการดำเนินธุรกิจตามแนวคิด BCG Economy Model จำนวนไม่น้อยกว่า 50 ราย ใน 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ 1) กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ 2) กลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป-อาหาร และ 3) กลุ่มสินค้าอื่นๆ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้สินค้า BCG ไทยในตลาดต่างประเทศโดยมีกำหนดเปิดรับสมัครประมาณปลายเดือนเมษายน 2566 ทางด้านการขยายโอกาสทางการค้า (BCG & Sustainability) จะนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Naturally Good Expo 2023 โดยในปีนี้จัดแสดงนิทรรศการในรูปแบบ Thailand Pavilion ภายใต้แนวคิด BCG Sustainability นำเสนอจุดเด่นของสินค้าไทยในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพที่มีวัตถุดิบจากธรรมชาติ ออร์แกนิก และ Sustainable Living ที่มีการดำเนินธุรกิจตามแนวคิด BCG Economy และมีพื้นที่สำหรับเจรจาการค้าให้กับผู้ประกอบการ จะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 มิถุนายน 2566 ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ จำนวน 22 ราย แบ่งเป็น Food & Beverage 9 ราย Packaging 2 ราย Decorative & Tableware 7 ราย และ Personal care 4 ราย เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย