เพื่อไทย 7 พ.ย.-“ณัฐวุฒิ” จี้นายกฯ บูรณาการหน่วยเกี่ยวข้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ให้มีอำนาจพิเศษปราบยาเสพติด เชื่อทั่วโลกกำลังจับตาหลังเหตุหนองบัวลำภู
นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส. หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กราดยิงศูนย์เด็กเล็กที่องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ก่อให้เกิดความเศร้าสะเทือนใจอย่างยิ่งให้กับประชาชนทั่วประเทศและสร้างความตื่นตกใจให้กับชาวโลก เพราะผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก ทั่วโลกจึงจับตามองว่าจากเหตุการณ์นี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะมีมาตราการแก้ปัญหาอย่างไร
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คนในพื้นที่และคนนอกพื้นที่ทราบดีว่าปัญหาที่เกิดขึ้น มีสาเหตุจากยาเสพติด ซึ่งจากข้อมูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) พบว่าในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูจะมีปัญหาเรื่องยาเสพติดสูงมากถึง 1 ใน 3 ส่วนของพื้นที่ทั้งหมดในจังหวัด ซึ่งถ้าปล่อยปละละเลยไว้นานปัญหาอื่น ๆ จะทยอยตามมาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอาชญากรรม ปัญหาครอบครัว ปัญหาอนาคตของลูกหลาน ปัญหาการใช้ความรุนแรงที่อาจนำมาซึ่งโศกนาฏกรรม
“ภายหลังการเกิดเหตุการณ์ รัฐบาลให้ประกาศให้พื้นที่หนองบัวลำภูเป็นพื้นที่สีขาว ปลอดยาเสพติด แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากการประกาศนั้นเพราะทุกวันนี้ยังไม่อะไรเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทุกอย่างเหมือนเดิม ยาบ้ากลับมาขายในพื้นที่ หนักสุดคือการใช้เด็ก เยาวชนเป็นคนส่งยา โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนรู้เห็นเป็นใจ พล.อ.ประยุทธ์ต้องจริงจังและจริงใจในการแก้ปัญหายาเสพติด ไม่ควรสร้างภาพเพื่อนัยทางการเมือง แต่ไม่ทำอะไร ทั้ง ๆ ที่มีอำนาจมากมาย แต่กลับเกรงใจใครอยู่หรือเปล่า แทนที่จะจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจโดยใช้เจ้าหน้าที่ กอรมน.ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.มาจับกุมปราบปราม เฝ้าระวังตรวจตราจัดเวรยามและให้อำนาจพิเศษจัดการเรื่องฉุกเฉินเร่งด่วน 24 ชั่วโมง จริงจังในการจับกุมผู้กระทำผิด ผู้ขายมาลงโทษโดยไม่มีข้อละเว้น แม้แต่เจ้าหน้าที่พร้อมเผาทำลายยาเสพติดทันทีหลังจากเก็บข้อมูลตรวจพิสูจน์หลักฐานเรียบร้อย เพราะชาวบ้านกังขาว่ายาบ้าที่จับยึดได้นำไปไหน กลัวจะถูกนำกลับมาขายในพื้นที่อีกครั้ง” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า น่าประหลาดใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคณะรัฐมนตรีนำโดยพล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่เพื่อไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิต ถ่ายรูปสร้างภาพ พร้อมประกาศเร่งเยียวยาให้เร็วที่สุด โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยา ไม่เกินครอบครัวละ 1.1 ล้านบาท จนถึงวันนี้เหตุการณ์ผ่านมานาน 1 เดือนเงินเยียวยามาช้ามาก ทั้ง 37 ชีวิตได้รับเงินเยียวยาครอบครัวละไม่ถึง 300,000 บาท น่าเสียใจที่พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีไปถ่ายรูปเอาหน้าจากเหตุการณ์ที่มีคนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ดูแลญาติผู้เสียชีวิต หรือชีวิตประชาชนคนจนไม่สำคัญสำหรับรัฐบาลทหาร.-สำนักข่าวไทย