20 ปท.ปรบมือชื่นชมไทยจัดประชุม APPF

รัฐสภา 28 ต.ค.-ปิดฉากประชุม APPF ครั้งที่30 เสียงปรบมือกึกก้องชื่นชมไทยจัดประชุมได้ดี บรรลุข้อตกลงถึง 11 ข้อ พร้อมลงนามในแถลงการณ์ร่วมพัฒนาภูมิภาค หลังโควิด 19 คลี่คลาย ส่งต่อธงเจ้าภาพให้ฟิลิปปินส์


การประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific Parliamentary Forum – APPF) ครั้งที่ 30 วันสุดท้าย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific Parliamentary Forum – APPF) ครั้งที่ 30 กล่าวสุนทรพจน์ปิดการประชุม ว่า สมาชิกรัฐสภาจาก 20 ประเทศในภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ภายใต้หัวข้อ “บทบาท ของรัฐสภาในการเร่งรัดการพัฒนาที่ยั่งยืนภายหลังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ซึ่งเป็นการประชุมแบบพบหน้ากัน ครั้งแรกหลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย

“ประเทศสมาชิกมีข้อมติและเห็นด้วยร่วมกัน 11 ข้อมติ ทั้งความร่วมมือด้านการลงทุน และการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งประเด็นต่าง ๆ ที่จะเสริมสร้างสันติภาพในภูมิภาค เช่น ด้านการเมืองและความมั่นคง ที่ส่งเสริมการทูตเชิงรัฐสภา เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยในภูมิภาค แต่ในด้านการเมืองและความมั่นคงนี้  ด้านเศรษฐกิจ ส่งเสริม เศรษฐกิจดิจิทัล ในภูมิภาค ด้านความร่วมมือในภูมิภาค ส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทน ลดการก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ใช้พลังงานสะอาด  ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรมของภูมิภาคในกับนานาประเทศ” นายชวน กล่าว


นายชวน กล่าวว่า ด้านสิทธิสตรี ประเทศสมาชิกสนับสนุนให้เสริมสร้างศักยภาพสตรี ให้สามารถรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เสริมสร้างความร่วมมือการพัฒนาอย่างยั่งยืนหลังสถานการณ์ โควิด19 อีกทั้ง ต้องกระตุ้นให้สตรีเข้าถึง ทักษะด้านต่าง ๆ เพื่อให้มีโอกาสได้พัฒนา ทุกด้านในชีวิต พร้อมเปิดโอกาสให้ สตรีสามารถเข้าไปเป็นผู้นำ ได้ทุกด้าน เช่น ด้านการเมือง ขจัดความรุนแรงกับสตรีในทุกรูปแบบ สร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นระหว่างเพศ

นายชวน กล่าวว่า สำหรับข้อรับรองทั้งหมด 11 ข้อมติ แบ่งเป็น 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 1.การเมืองและความมั่นคงโดยส่งเสริม การพูดเชิงรัฐสภา ทำให้บทบาทสภาเป็นศูนย์กลางส่งเสริมสันติภาพความมั่นคงภายในหลังการระบาดของไวรัสโควิด -19 2. ส่งเสริมการเชื่อโยงความหลากหลายทางเศรษฐกิจชีวภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล 3. ความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ให้ความสำคัญกับรัฐสภาที่ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน เพื่อให้เกิดการแพร่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ ส่งเสริมการเข้าถึงสาธารณสุขพื้นฐาน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเข้าใจวัฒนธรรมที่หลากหลาย ขณะที่การ ประชุมรัฐสภาสตรี ย้ำความจำเป็นให้ส่งเสริมศักยภาพสตรีรับมือกับวิกฤติการณ์ ให้เกิดการมีส่วนร่วมของสตรีด้านเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

“ส่วนเรื่องความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครนประเทศออสเตรเลียได้เสนอเรื่องสมาชิกภาพของรัสเซีย ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้การประชุมมีปัญหาถกเถียงกัน ซึ่งนายชวน เห็นว่าเรื่องนี้ควรได้พิจารณาในครั้งต่อที่ฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ โดยประเทศผู้เสนอจะต้องได้รับมติมาจากสภาของแต่ละประเทศในการตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนแปลงสมาชิกภาพของรัสเซียเพราะไม่ต้องการใช้ความเห็นของคนใดคนหนึ่ง และให้นำมตินั้นมานำเสนอในที่ประชุมครั้งหน้า” นายชวน กล่าว


นายชวน กล่าวว่า ที่ประชุมได้เสนอให้เปลี่ยนวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ APPF 4 ปีให้เหลือ 2 ปีก็จบลงด้วยดี สำหรับการประชุมครั้งต่อไปในปี2023 ซึ่งมีประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ ตนขอขอบคุณเป็นอย่างมากที่ประเทศฟิลิปปินส์รับเป็นเจ้าภาพการประชุม หวังว่าเจ้าภาพการประชุมครั้งต่อไปจะประสบความสำเร็จในการประชุม APPF

ด้านตัวแทนฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ขอขอบคุณและความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการประชุมAPPF ยืนยันพร้อมรับเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไป โดยขณะนี้ได้เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมแล้วที่กรุงมะนิลา ขอบคุณประเทศไทยที่จัดการประชุมครั้งนี้เป็นอย่างดี ซึ่งฟิลิปปินส์จะนำการประชุมครั้งนี้ไปปรับใช้

จากนั้น นายชวนส่งมอบธง APPF ให้กับประเทศฟิลิปปินส์ และกล่าวในตอนท้ายว่า ขอแสดงความขอบคุณประเทศสมาชิกทุกคน ที่สนับสนุนการประชุมอย่างมีศักยภาพ และขอขอบคุณองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่สนับสนุนนการประชุมครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จ ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการประชุมที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์พลังในการร่วมมือทำงานและเป็นหุ้นส่วนอย่างสร้างสรรค์ โดยมุ่งหวังว่าการประชุมจะเป็นเครื่องมือส่งเสริมฉันทามติ ส่งเสริมประชาชน เปลี่ยนวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติเพื่ออนุชนคนรุ่นหลังของอนุภาคเอเชียแปซิฟิก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างลงนามในแถลงการณ์ร่วมของแต่ละประเทศสมาชิก และเมื่อถึงประเทศไทยในลำดับสุดท้าย ทุกประเทศพร้อมใจกันลุกขึ้นปรบมือชื่นชมประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]

แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา

3 ก.ย. – แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา ชี้ผิดมาตรา 112 และมาตรา 157 สะพัด! ตีกลับ พ.ร.ฎ.ยุบสภา เหตุไม่เป็นไปตามระเบียบ-กฤษฎีกาแย้งไร้อำนาจ ด้าน “อนุทิน” บอกยังเป็นแค่ข่าว รอรัฐบาลแจงดีกว่า นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย ในความผิดมาตรา 112 พร้อมเผยว่า การพยายามยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร เนื่องจากไม่มีอำนาจหน้าที่หรือสิทธิที่สามารถทำได้ นายไทกร ระบุว่า ได้รับข้อมูลว่านายภูมิธรรม นำเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาไปส่งยังสำนักพระราชวังแล้ว หนังสือฉบับนั้นได้ถูกส่งกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยและนายภูมิธรรมยังไม่ยอมที่จะเคารพต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิในการที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะยุบสภา กลับมีความพยายามที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ โดยมีการทาบทามให้ ดร.วิษณุ เครืองาม และคณะ มาทำหน้าที่ เพื่อที่จะตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นอีกฉบับใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะนำส่งสำนักพระราชวังอีกครั้ง ถือว่าการกระทำที่ไม่บังควร “ศุภชัย” […]