ทำเนียบรัฐบาล 29 ก.ย.-รัฐบาลใช้แอป ฯ Traffy Fondue “ไลน์สร้างสุข” ขับเคลื่อนแก้ปัญหาเดือดร้อนประชาชนส่วนท้องถิ่นแบบทั่นท่วงที เพียงถ่ายรูปปัญหา ระบุตำแหน่ง ระบบจะทำการส่งตรงไปยังหน่วยงาน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการปัญหาของประชาชน รวมถึงรับฟังข้อร้องเรียนทุกข์ ตลอดจนข้อเสนอแนะต่าง ๆ รัฐบาลโดย 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีสารสนเทศระบบบริหารจัดการปัญหาและข้อร้องเรียน (Traffy Fondue) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ให้ได้ข้อยุติอย่างเป็นธรรมในเวลาที่เหมาะสม โดยยึดความต้องการของประชาชนเป็นที่หลัก
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระบบบริหารจัดการปัญหาและข้อร้องเรียน Traffy Fondue จะช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ประโยชน์ 3 อย่าง ได้แก่ ประโยชน์ต่อสังคม ประโยชน์ต่อชุมชน และประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพ 4 อย่าง คือ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรและใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงาน ลดความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดค่าใช้จ่ายในการแจ้งปัญหาและติดตาม โดยหน่วยงานและภาคประชาชนร่วมใช้ร่วมแบ่งปันปัญหาหรือเบาะแสของปัญหา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขด้วยแพลตฟอร์ม Traffy Fondue หรือ “ไลน์สร้างสุข”ผู้ช่วยสำคัญในการบริหารจัดการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ
“เพียงแค่ประชาชนถ่ายรูปปัญหาที่เกิดขึ้น ระบุตำแหน่ง และระบุประเภท ระบบจะทำการส่งต่อปัญหาดังกล่าวไปยังหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยทันที ผู้แจ้งสามารถติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาชุมชนร่วมกัน ซึ่งทำให้เกิดความหวงแหน ดูแล รักษา ให้ชุมชนมีความน่าอยู่ยิ่งขึ้น ผู้บริหารเมืองสามารถช่วยกำกับติดตามการแก้ไขปัญหา และเห็นสถิติและภาพรวมของการดำเนินงานได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งนี้ ทั้ง 3 หน่วยงานที่ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงฯ จะร่วมมือกันดำเนินการ ใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1. ส่งเสริมและสนับสนุนการนำเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติไปพัฒนาใช้งานให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ใช้งานอย่างจริงจัง” น.ส.รัชดา กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 2. ให้ความรู้ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ การจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ ประมวลผล และการใช้ประโยชน์จากข้อมูล 3. พัฒนาและยกระดับคุณภาพการบริการประชาชนด้านการดำเนินการเรื่องร้องเรียนสู่ความเป็นมาตรฐานและ 4. นำเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบบริหารจัดการปัญหา และข้อร้องเรียน (Traffy Fondue) มาสนับสนุนการทำงานของหน่วยราชการ แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาของหน่วยงาน สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ มีกำหนดระยะเวลาความร่วมมือฯ 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2568.-สำนักข่าวไทย