ทำเนียบ 25 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผย ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง พบนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิน 4 ล้านคน สอดคล้อง ศบค. เห็นชอบเพิ่มวันพำนักในไทย
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2565 รวมแล้วตอนนี้มีมากกว่า 4 ล้านคน นับเป็นสัญญาณเชิงบวก ที่สะท้อนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย ซึ่งถือว่าเป็นผลสืบเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงรุกของรัฐบาล พร้อมกันนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณาหาแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน ในปีนี้
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติ จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 16 สิงหาคม 2565 อยู่ที่ 4,015,504 คน และคาดการณ์ว่าภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยสะสม 4.5 ล้านคน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย สปป.ลาว สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ได้มีนโยบายที่สอดคล้องกันเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการพำนักของผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง และเพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ได้แก่ 1.ขยายระยะเวลาพำนักสำหรับผู้ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราในการเข้าประเทศ (ผ.30) ทั้งที่ไทยให้แต่ฝ่ายเดียว และที่มีความตกลงระหว่างกัน จากไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน (ผ.45) 2. ขยายระยะเวลาพำนักสำหรับผู้ได้รับ Visa on Arrival จากไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน โดยให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566 และมอบหมายกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการตามมติ ศบค. ต่อไป
“รัฐบาลมุ่งหาแนวทาง และพิจารณามาตรการต่างๆ ให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลก และสถานการณ์ในประเทศ เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งขอขอบคุณทุกหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ที่ขานรับนโยบายและบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลด้วยดี ซึ่งมีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการสร้างงานและสร้างรายได้สู่ท้องถิ่น นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งพิจารณามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย