รัฐสภา 18 ส.ค.-ฝ่ายค้าน อัด ก.ท่องเที่ยวฯ ไม่พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นแหล่งรายได้ ซัด ปล่อยกองถ่ายหนัง 13 หมูป่า หลุดมือย้ายไป ตปท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงบ่ายวันนี้ (18 ส.ค.) ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วาระ 2 มาตรา 11 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานในกำกับ จำนวน 3,022,606,200 บาท โดยภาพรวมกรรมาธิการฯ และส.ส. ส่วนใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ และการสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย จึงไม่อยากให้ตัดงบประมาณลง แต่ควรเพิ่มงบประมาณด้วยซ้ำ
ขณะที่ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยอมรับว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีความสำคัญ แต่เห็นต่างในเรื่องการจัดสรรงบประมาณ ที่ไม่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเท่าเทียมกัน หรือไม่ส่งเสริมในส่วนที่สามารถต่อยอดสร้างรายได้ในอนาคต เพื่อฟื้นฟูประเทศ เช่น นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ อยากพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่กลับจัดงบประมาณให้กับโครงการส่งเสริมพัฒนาแหล่งสินค้าและบริการท่องเที่ยวคุณภาพในเมืองรอง แค่ 76 ล้านบาท ตนจึงสงสัยว่า ทำไมไม่ส่งเสริมเมืองรองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แบบนี้จะส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งประเทศได้อย่างไร ส่วนกรมการท่องเที่ยว ที่ใครๆ บอกว่าหาเงินเข้าประเทศจำนวนมาก แต่อยากถามว่า เงินโครงการเที่ยวทั่วไทย ไปไหนมาไหนอย่างไร เป็นโครงการเที่ยวทั่วไทยจริงหรือไม่ หรือใครได้ จึงอยากให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปตรวจสอบ
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนขอตัดงบกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ลง 20% ยอมรับว่า ช่วงโควิด-19 เป็นช่วงพักการท่องเที่ยว จึงอาจจะมีรายได้ในส่วนนี้น้อยลง แต่หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวต้องไม่พักและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะลงไปฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น วันนี้ที่เป็นผลงาน เกิดจากการฟื้นตัวตามธรรมชาติเอง ไม่ได้เกิดการพัฒนาโดยเจ้าหน้าที่ แต่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กลับมาขอแค่งบประจำ และไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิม จึงน่าเสียดายอย่างมาก
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนงบประมาณค่าใช้จ่ายการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศในประเทศไทย ที่จะเกิดการกระตุ้นเม็ดเงินและส่งต่อซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ผ่านภาพยนตร์ต่างประเทศที่เจริญแล้ว และทำให้อยากกลับมาเที่ยวที่ไทย ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์ เรื่องThirteen Lives (สิบสามชีวิต) ที่ต้องไปถ่ายทำกันที่ต่างประเทศ โดยทีมงานให้สัมภาษณ์ว่าเสียดายที่ไม่ได้มาถ่ายในสถานที่จริง เพราะกลไกของเราไม่รองรับ จึงสูญเสียโอกาสไป
จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบในส่วนของ มาตรา 11 งบประมาณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ด้วยคะแนนเห็นด้วย 228 เสียง ไม่เห็นด้วย 102 และงดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และได้เข้าสู่การพิจารณา มาตรา 12 งบประมาณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานในกำกับ.-สำนักข่าวไทย