ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจเข้มความปลอดภัย นัดไต่สวน “แพทองธาร”

ศาล รธน. 21 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจเข้มความปลอดภัย นัดไต่สวน “แพทองธาร” คดีคลิปเสียง “ฮุน เซน” ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาด้วยตัวเอง เพื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวน และไต่สวนในคำร้องคลิปสนทนากับสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวนพยานบุคคล พร้อมกับนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นพยาน 2 ปาก ที่ศาลรัฐธรรมนูญเปิดให้ไต่สวนและชี้แจงข้อเท็จจริงในห้องพิจารณาคดีต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่ยังคงสงสัยอยู่ โดยบริเวณในเขตพื้นที่ของศาลรัฐธรรมนูญเจ้าหน้าที่ได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นโซนพื้นที่เพื่อดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้า EOD นำสุนัข K-9 มาเดินดูความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ รวมถึงได้มีการนำจอโทรทัศน์มาตั้ง เพื่อให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพและร่วมฟังการถ่ายทอดจากห้องพิจารณาคดีในช่วงต้น และช่วงท้าย ของการพิจารณาคดี ทั้งนี้ศาลรัฐธธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. และนัดฟังคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ที่ห้องพิจารณาคดี […]

“แพทองธาร” พร้อม “ทักษิณ” และครอบครัว เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ทำบุญวันเกิดครบ 39 ปี

กรุงเทพฯ 21 ส.ค.-“แพทองธาร” พร้อม “ทักษิณ” และครอบครัว เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ทำบุญวันเกิดครบ 39 ปี ด้าน “พินทองทา” อวยพรขอให้มีสุขภาพแข็งแรงมีจิตใจที่ใสบริสุทธิ์ มีสติ เชื่อมั่นเจตนาที่บริสุทธิ์ -ความเสียสละ จะเป็นบุญอัญอันใหญ่หลวงปกป้องให้ผ่านทุกอุปสรรคไปได้ นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาวของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรม เป็นบรรยากาศร่วมทำบุญวันคล้ายวันเกิดของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร 21 สิงหาคม พร้อมด้วย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี , น้องธิธาร สุขสวัสดิ์ ลูกสาวคนโต และน้องธาษิณ พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ลูกชาย , นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของนางสาวแพทองธาร รวมทั้งนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของนางสาวพินทองทา โดยระบุข้อความว่า “เมื่อวานนี้วันที่ 20 สิงหาคม ครอบครัวของเรา ได้รับประทานพระวโรกาส เข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ […]

บอร์ดดีอีเคาะเมืองอัจฉริยะ-ตั้งกลไก AI ไทยขับเคลื่อนประเทศ

ทำเนียบ 21 ส.ค.-รัฐบาลหนุนเศรษฐกิจดิจิทัล บอร์ดดีอีเคาะเมืองอัจฉริยะ-ตั้งกลไก AI ไทยขับเคลื่อนประเทศ นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ได้มีมติเห็นชอบนโยบายและยุทธศาสตร์ข้อมูลประเทศในช่วงสามปีข้างหน้า เพื่อเป็นกรอบสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืน โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นั่งเป็นประธานการประชุม ยุทธศาสตร์ข้อมูลดังกล่าว ประกอบด้วย 4 ด้านหลัก ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล การพัฒนาด้านธรรมาภิบาลข้อมูลและการยกระดับคุณภาพการให้บริการ การส่งเสริมการใช้และแลกเปลี่ยนข้อมูล และการพัฒนากำลังคนให้มีทักษะดิจิทัลด้านข้อมูลให้เพียงพอและสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้าน AI โดยมุ่งเน้นการสร้างคนและเทคโนโลยี การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การพัฒนา AI ของประเทศดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ที่ประชุมยังเห็นชอบการต่ออายุตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะให้กับ 16 เมืองทั่วประเทศ และมอบตราสัญลักษณ์พื้นที่อัจฉริยะใหม่แก่ “โครงการภูเก็ตทินิคอนวัลเลย์” เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล และพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง โดยเห็นชอบในหลักการการบริหารจัดการโครงข่ายเน็ตประชารัฐและส่วนต่อขยายตามแนวคิดโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนต่อไป “รัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เมืองอัจฉริยะ […]

รัฐบาลเปิด Sandbox “TouristDigiPay” ทดสอบระบบชำระเงินใหม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-รัฐบาลเปิด Sandbox “TouristDigiPay” ทดสอบระบบชำระเงินใหม่ แปลงสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาท ใช้จ่ายทั่วไทย นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ด้วยการเปิดตัวโครงการ “TouristDigiPay” ซึ่งเป็นการทดสอบระบบชำระเงินรูปแบบใหม่ภายใต้ Sandbox เพื่อเพิ่มความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถือครองเป็นเงินบาท และนำไปใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการในประเทศไทยได้อย่างง่ายและปลอดภัย โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยว แต่ไม่ใช่การส่งเสริมให้ใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางการชำระเงินโดยตรง ทั้งนี้ ร้านค้าที่เข้าร่วมยังคงได้รับชำระเป็นเงินบาทตามปกติ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ให้บริการ e-Money ที่เข้าร่วมโครงการ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการป้องกันการฟอกเงินอย่างเคร่งครัด ทั้งการทำความรู้จักตัวตนผู้ใช้บริการ (KYC) และการประเมินความเสี่ยงของลูกค้า (CDD) ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันการนำระบบไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ โครงการ TouristDigiPay จะดำเนินการในรูปแบบ Sandbox เป็นระยะเวลา 18 เดือน ก่อนประเมินผลประสิทธิภาพและความเหมาะสม เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการขยายผลต่อไปหรือไม่ คาดว่าโครงการนี้จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้าสู่ท้องถิ่น และเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรมทางการเงินให้ก้าวทันโลกภายใต้กรอบกฎหมายที่รัดกุม “โครงการนี้คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเสริมศักยภาพเศรษฐกิจไทยของรัฐบาล ช่วยสร้างความปลอดภัยให้ระบบการเงิน และเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชนว่า ประเทศไทยพร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคง […]

ระวังมิจฉาชีพ เปิดบัญชีหลอกรับเงินบริจาคช่วยทหารชายแดน

ทำเนียบ 21 ส.ค.-เตือนประชาชนระวัง “คนร้ายเปิดบัญชีหลอกรับเงินบริจาคช่วยทหารชายแดน” เสี่ยงสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล ระวังเผยแพร่ข้อมูลเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti-Fake News Center : AFNC) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบพบข่าวที่เกี่ยวข้องประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาเป็นจำนวนมาก จากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 – 15 สิงหาคม 2568 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ได้ทำการคัดกรองจำนวนข้อความทั้งหมด 2,133,333 ข้อความ. โดยมีจำนวนข้อความที่เข้าเกณฑ์การตรวจสอบ 222,679 ข้อความ ทั้งนี้ มีเรื่องที่ส่งตรวจสอบ จำนวน 459 เรื่อง ได้รับการตรวจสอบแล้ว จำนวนทั้งหมด 447 เรื่อง โดยสามารถแยกเป็นเรื่องนโยบายรัฐบาล และความมั่นคงของประเทศ 129 เรื่อง ได้แก่ (1) ข่าวปลอม จำนวน […]

ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด สถานการณ์ปกติ

ทำเนียบ 21 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด สถานการณ์ปกติ ย้ำกัมพูชาต้องรับผิดชอบและยอมรับความจริงในพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น หลังตรวจพบการวางกับระเบิดจำนวนมากในอธิปไตยของไทย และคลิปที่พบเป็นทหารกัมพูชา 100% นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด อยู่ในสภาวะปกติ ไม่ปรากฎเหตุการณ์ที่สำคัญ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 จุด พร้อมเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและป้องกันไม่ให้ใครล่วงล้ำ ขณะที่ ศบ.ทก.ยังคงตรวจพบการบินอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลขอย้ำว่า แม้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะออกประกาศผ่อนปรนอนุญาตให้สามารถทำการบินหรือปล่อยโดรนทุกประเภทได้ แต่ยังคงยกเว้นพื้นที่ตามประกาศฉบับที่ 4 ของ กพท. อาทิ จังหวัดสระแก้ว ตราด บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ จันทบุรี สุรินทร์ และอุบลราชธานี จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่าในช่วง 18 -20 […]

คาร์บอมบ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส อส.เจ็บ 3 นาย

นราธิวาส 21 ส.ค. – เร่งแกะรอยล่าคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส อส. เจ็บ 3 ราย พบวงจรปิดเส้นทางหลบหนี เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.20 น. วานนี้ (20 ส.ค.) หน้าฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลศาลาใหม่ ม.1 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส คนร้ายใช้รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีดำ บรรทุกวัตถุระเบิดก่อเหตุคาร์บอมบ์ โดยปล่อยรถให้ไหลเอง แล้วพุ่งชนเข้ากับบังเกอร์ภายในฐาน ก่อนจุดชนวนระเบิดเสียงดังสนั่น เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ทันที เบื้องต้นมี อส. บาดเจ็บ 3 นาย จากแรงอัดระเบิดจนมีอาการหูอื้อ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาแล้ว ได้แก่ นายอับดุลมานัส นิมุ นายมามะซาบรี มิงยีนา และนายซูไหรี เจ๊ะแซ ขณะที่กล้องวงจรปิด เห็นคนร้าย 2 คน หลบหนีไปทาง หมู่บ้านปูลาเจ๊ะมูดอ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

อิสราเอลเริ่มเดินหน้าแผนยึดกาซา

กาซา 21 ส.ค. – อิสราเอลเตรียมเรียกกำลังพลสำรองกว่า 60,000 นายในเดือนกันยายน เตรียมพร้อมกับการบุกยึดครองฉนวนกาซาทั้งหมด ซึ่งคาดว่าชาวปาเลสไตน์จำนวนมากจะได้รับคำสั่งให้อพยพอีก โฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงวานนี้ว่า กองทัพอิสราเอลเริ่มขั้นตอนแรกของปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อยึดครองเมืองกาซาซิตีทั้งหมดตามแผน หลังจากได้ยึดครองพื้นที่รอบนอกไว้เรียบร้อยแล้ว โดยทหารเริ่มปฏิบัติการในเขตไซตูน และจาบาเลีย เพื่อวางรากฐานสำหรับการรุกคืบ ซึ่ง นายอิสราเอล คาตซ์ รัฐมนตรีกลาโหม อนุมัติแผนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เตรียมส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรีความมั่นคงลงมติอนุมัติช่วงปลายสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลเตรียมเรียกกำลังสำรองประมาณ 60,000 นายในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ เพื่อเตรียมกำลังพลประจำการสำหรับปฏิบัติการยึดกาซาซิตี ซึ่งคาดว่า ชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนในกาซา ซิตี้ จะได้รับคำสั่งอพยพและมุ่งหน้าไปยังศูนย์พักพิงทางตอนใต้ของฉนวนกาซาต่อไป ก่อนหน้านี้ พันธมิตรของอิสราเอลหลายประเทศต่างตำหนิแผนการดังกล่าว และเตือนว่าอาจนำไปสู่หายนะต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย และจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามไปทั่วตะวันออกกลางและกลายเป็นสงครามถาวรไม่มีวันจบสิ้น ขณะที่คณะกรรมการกาชาดสากล หรือไอซีอาร์ซี ชี้ว่า การอพยพผู้คนเพิ่มเติมและการสู้รบที่ทวีความรุนแรงขึ้น เสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้วสำหรับประชากร 2.1 ล้านคนในกาซาเลวร้ายลงไปอีก รัฐบาลอิสราเอลประกาศเจตนารมณ์ที่จะยึดครองฉนวนกาซาทั้งหมด หลังการเจรจาโดยอ้อมกับกลุ่มฮามาสเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน ล่มสลายเมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม กาตาร์และอียิปต์ สองประเทศผู้ไกล่เกลี่ยกำลังพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิง และมีข้อเสนอใหม่สำหรับการหยุดยิงชั่วคราวเบื้องต้น 60 วันและปล่อยตัวประกันประมาณครึ่งหนึ่งก่อน ซึ่งกลุ่มฮามาสได้ประกาศยอมรับไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่อิสราเอลยังไม่ได้ให้คำตอบอย่างเป็นทางการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันในวันอังคารว่า พวกเขาจะไม่ยอมรับข้อตกลงบางส่วน และเรียกร้องข้อตกลงแบบครอบคลุม […]

เสียงบึ้มสนั่นปราสาทตาควาย คาดทหารกัมพูชาเหยียบระเบิดตัวเอง

21 ส.ค. – เมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ชาวบ้านได้ยินเสียงคล้ายระเบิด บริเวณปราสาทตาควาย หวั่นเกิดเหตุปะทะกันอีกรอบ กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจง คาดเสียงที่ได้ยิน เกิดจากทหารกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ชี้แจง ถึงข่าวสารในสื่อออนไลน์ ที่อ้างว่ากองกำลังฝ่ายกัมพูชา ยิงปืนใหญ่ใส่ฐานบริเวณปราสาทตาควายนั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยในพื้นที่แล้ว ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เสียงระเบิดที่ประชาชนได้ยินสันนิษฐานว่า เกิดจากทหารกัมพูชาเหยียบกับระเบิด ที่ลักลอบวางไว้เอง บริเวณด้านหลังปราสาทตาควาย ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกต่อกระแสข่าวลือที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการของกองทัพภาคที่ 2 เพื่อป้องกันการสับสนและความเข้าใจผิด.-สำนักข่าวไทย

ทั่วไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางแห่ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศรายภาค วันที่ 21 ส.ค.68 กทม.-ปริมณฑล : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ภาคเหนือ : […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : แม่ทัพและรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับการโปรดเกล้าฯ เลื่อนยศ จริงหรือ ? 

ตามที่มีการแชร์ข้อความระบุว่า แม่ทัพและรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับการโปรดเกล้าฯ เลื่อนยศ นั้น บทสรุป : ❌  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌ การเลื่อนชั้นของทหารยศนายพลจะต้องดำเนินการโดยกระบวนการทางราชการตามลำดับเท่านั้น และจะต้องมีประกาศราชกิจจานุเบกษารับรอง ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า เพจเฟซบุ๊กของกองทัพภาคที่ 2 ได้ประกาศยืนยันว่า ไม่จริง โดยระบุข้อความว่า  กองทัพภาคที่ 2 ขอเรียนชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนว่า ขณะนี้ได้ปรากฏข้อมูลข่าวสารที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นความจริง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง กองทัพภาคที่ 2 ขอชี้แจงว่า ขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล จะต้องดำเนินการโดยกระบวนการทางราชการตามลำดับ ดังนี้  1. คณะกรรมการกลาโหมเป็นผู้พิจารณาและดำเนินการเสนอรายชื่อ  2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงนามรับรองตามระเบียบราชการ  3. ทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  4. การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจะมีผลสมบูรณ์เมื่อมีประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เท่านั้น ดังนั้น ข้อมูลที่มีการเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ ที่อ้างถึงการโปรดเกล้าฯ โดยไม่มีประกาศราชกิจจานุเบกษารับรอง จึงถือว่าเป็นข่าวเท็จ ไม่ควรเผยแพร่หรือส่งต่อ […]

1 180 181 182 183 184 34,629