กรุงเทพฯ30ส.ค.-ALT ส่งมอบสมาร์ทมิเตอร์พัทยาแก่PEAครบ 1.1แสนครัวเรือน ช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้า ทั้งกรณีไฟฟ้าดับ เกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง
นายสุรพงษ์ ปัตถนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด (EMAX) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะตัวแทนคู่สัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในการติดตั้งโครงการมิเตอร์อัจฉริยะ หรือสมาร์ทมิเตอร์ในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จำนวน 1.1 แสนครัวเรือน ล่าสุดบริษัทได้ติดตั้งมิเตอร์ใหม่ หรือสมาร์ทมิเตอร์ (Smart Meter) ให้ครัวเรือนต่างๆ ครบตามสัญญาและส่งมอบงานให้ PEAเรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยโครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.ค.2561 มีมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท
“โครงการสมาร์ทมิเตอร์ จะเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์กระแสไฟฟ้าตกหรือไฟฟ้าดับ เจ้าหน้าที่ กฟภ. จะได้รับการแจ้งเตือนจากระบบได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบเหตุเป็นผู้แจ้ง ซึ่งจะทำให้มีผลต่อการเข้าแก้ไขเพื่อทำให้ไฟฟ้ากลับมาให้บริการได้อย่างรวดเร็วขึ้น” นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์กล่าวว่า สมาร์ทมิเตอร์ จะช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม เพราะมิเตอร์รุ่นเก่าที่เป็นแบบจานหมุน จะให้ข้อมูลเพียงการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือนว่ามีกี่หน่วย แต่สมาร์ทมิเตอร์จะรายงานข้อมูลการใช้ไฟฟ้าเกือบเรียลไทม์ ผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือของผู้ใช้ไฟฟ้า จะทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดขึ้น และสมาร์ทมิเตอร์ ยังรองรับกำลังไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 5 -100 แอมป์ ทำให้แต่ละครัวเรือนมีความยืดหยุ่นในการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น รวมทั้งมีจุดเด่นในเรื่องการรับ – ส่งข้อมูล 2 ทางระหว่าง PEA. กับผู้บริโภค ทำให้ได้รายละเอียดการใช้ไฟฟ้าแต่ละครัวเรือนมายังส่วนกลาง ทำให้ PEA มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในการนำไปใช้ปรับปรุงการให้บริการต่อไป
นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาการลักลอบใช้ไฟฟ้าที่มีจำนวนมาก เพราะสมาร์ทมิเตอร์มีระบบป้องกัน และยังมีหลักฐานที่นำไปใช้ฟ้องร้องการลักลอบใช้ไฟฟ้าในศาลได้
“บริษัทฯ เป็นรายแรกที่ติดตั้งระบบ Smart Grid ในไทย โดย ร่วมมือกับ บริษัท ไอทรอน (ITRON) พันธมิตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจด้านเทคโนโลยีสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของโลก จึงมีเทคโนโลยีที่เข้มแข็ง ส่วนผลประโยชน์ที่บริษัท จะได้รับในเบื้องต้นจะมีรายได้จากค่าสมาร์ทมิเตอร์ และซอฟท์แวร์ หลังจากนั้นจะมีค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 3 ปี”นายสุรพงษ์กล่าว