ดีพร้อม เดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการสู่ “ซูเปอร์เอสเอ็มอี”

กรุงเทพฯ 24 ส.ค. – ดีพร้อม เดินหน้าผลักดัน ผปก. – วิสาหกิจชุมชน สู่ “ซูเปอร์เอสเอ็มอี” ระดมหลากเทคโนโลยีศูนย์ไอทีซี 4.0 ช่วยยกระดับการผลิต สร้างมูลค่าได้แล้วกว่า 750 ล้านบาท


นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยังคงส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ “ความสามารถในการผลิต” โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย หรือ Micro SMEs รวมถึงวิสาหกิจชุมชนที่กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม จึงได้เร่งดำเนินการตามนโยบาย โควิด 2.0 มาตรการระยะสั้น 60 วัน “พร้อมสู้ อยู่ได้ ไปรอด” ด้วยการผลักดันให้ศูนย์ ITC ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ เร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการในการยกระดับกระบวนการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของแต่ละพื้นที่ เช่น เกษตรแปรรูป อาหาร และสมุนไพร ให้สามารถประยุกต์ใช้กรรมวิธีการผลิตที่ ทันสมัย นำเทคนิคหรือองค์ความรู้ใหม่ ๆ ไปสร้างความแปลกใหม่ น่าสนใจให้กับสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการ ของผู้บริโภคในปัจจุบัน อีกทั้ง ยังมีเป้าหมายยกระดับกลุ่มผู้ประกอบการในระดับชุมชนให้ก้าวไปเป็นซูเปอร์เอสเอ็มอีที่มีความพร้อมและความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

“ศูนย์ ITC ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ มีความพร้อมเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านเครื่องมือ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการพัฒนากระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบต่าง ๆ ที่ช่วยลดต้นทุน และเครื่องจักรกลสมัยใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่ เช่น เครื่องพิมพ์สามมิติ ชุดเครื่องอบแห้งสำหรับชุมชน เครื่องสกัดสมุนไพรแบบร้อนและเย็น เครื่องระเหยเข้มข้น เตาเผาเซรามิก และอื่น ๆ รวมแล้วกว่า 50 ประเภท อีกทั้งยังมีทีมเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำในด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการ ออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถทำการตลาดได้ง่ายและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ด้านแหล่งเงินทุน อาทิ การระดม ทุนสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น หรือสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจ การเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับเอสเอ็มอีตลอดจนด้านงานวิจัยที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำงานวิจัยเหล่านี้ ไปประยุกต์ใช้ได้ทันที” นายณัฐพลกล่าว


นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการติดตามการดำเนินงานของศูนย์ ITC ในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามี ผู้ประกอบการเข้ามารับบริการจากศูนย์ดังกล่าวมากกว่า 26,557 ราย รวมกว่า 8,766 ธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มทาง เศรษฐกิจได้แล้วกว่า 750 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ที่เข้าใช้บริการคือผู้ประกอบการในกลุ่มเกษตร อาหารแปรรูป กลุ่มสตาร์ทอัพ แต่ในระยะหลังที่พบมากที่สุดคือกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพร และผลผลิตจากท้องถิ่น เนื่องด้วยกระแสด้านสุขภาพ รวมถึงการต่อยอดวัตถุดิบไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น เวชภัณฑ์- เครื่องสำอาง และโปรตีนทางเลือกจากแมลง นอกจากนี้ ยังพบว่าศูนย์ ITC ส่วนกลางในกรุงเทพฯ มีผู้ใช้บริการมากที่สุด จำนวนถึง 813 ราย รองลงมาคือ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 จ.ขอนแก่น มีผู้เข้าใช้บริการจำนวน 638 ราย และศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จ. ลำปาง มีผู้เข้าใช้ บริการจำนวน 311 ราย

ดีพร้อมได้เห็นการปรับตัวของผู้ประกอบการทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนมาก ผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลถือว่ามีทิศทางการผลิตสินค้า – บริการ ใหม่ๆ ที่สอดรับกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าแฟชั่น ตลอดจนการเข้ามารับคำปรึกษาเพื่อเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งที่อยู่ในระหว่าง กระบวนการพัฒนา และที่ต่อยอดมูลค่าทางธุรกิจได้สำเร็จ ส่วนในระดับภูมิภาค กลุ่มที่เข้ามาขอรับคำปรึกษาและ พัฒนาธุรกิจจะมีทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน โดยผู้ประกอบการในภาคเหนือมักจะเป็นเวชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เช่น การนำใบชามาพัฒนาเป็นน้ำยาบ้วนปาก การต่อยอดผลผลิตจากการเลี้ยงผึ้ง การแปรรูปสมุนไพรต่าง ๆ อาทิ การนำกระชายสด มาทำการแปรรูปเป็นกระชายผง โดยการอบแห้งด้วยเครื่องอบ ลมร้อน และบดให้เป็นผงด้วยเครื่องบด เป็นการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์กระชายผงที่สามารถนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือค่อนข้างมีความเด่นชัดในเชิงการพัฒนาวัตถุดิบจากท้องถิ่น เช่น การแปรรูปแมลง หอยเชอรี่ ผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้า การต่อยอดสินค้าจากการเลี้ยงไหม และการพัฒนากระบวนการผลิตข้าว ส่วนผู้ประกอบการในภาคใต้ จะมีความคล้ายคลึงกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ เน้นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นหลัก เช่น การเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยางพารา ผลผลิตจากปาล์มน้ำมัน รวมไปถึงการ แปรรูปอาหารทะเล และการอบแห้งผลไม้ที่เน้นยืดอายุการเก็บรักษาให้นานขึ้น” ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการ ที่สนใจยกระดับกระบวนการผลิตและต่อยอดการแปรรูปผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่ ศูนย์ปฏิรูป อุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center: ITC 4.0) ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ และสามารถสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0-2367-8413 หรือ ติดตามความ เคลื่อนไหวได้ที่ http://www.itc.or.th/ . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]