fbpx

3 สมาคมโรงงานน้ำตาล กดดันอินเดียยกเลิกมาตรการอุดหนุนส่งออกน้ำตาล


กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – 3 สมาคมโรงงานน้ำตาล จับมืออุตฯ ออสเตรเลีย กดดันอินเดียยกเลิกมาตรการอุดหนุนการส่งออกน้ำตาล กระทบไทยสูญเสียรายได้ส่งออกกว่า 1 หมื่นล้านบาท/ปี


นายปราโมทย์ วิทยาสุข ประธาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย หรือ TSMC เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ประเทศออสเตรเลีย เสนอหน่วยงานภาครัฐให้ดำเนินการผลักดันอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ให้ยกเลิกการอุดหนุนการปลูกอ้อยของชาวไร่และการส่งออกน้ำตาลไปยังตลาดโลก ที่ส่งผลให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกผันผวน สร้างความเสียหายและทำลายโอกาสทำรายได้จากการส่งออกในราคาที่ควรจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่เฉลี่ยราคาประมาณ 17 เซนต์ต่อปอนด์ หลังความต้องการปริมาณน้ำตาลในตลาดโลกเพิ่มขึ้นจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว

โดยการศึกษาของประเทศออสเตรเลีย พบว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลอินเดียเพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยด้วยการอุดหนุนการผลิตและการส่งออกน้ำตาลส่วนเกินประมาณกว่า 6 ล้านตัน ในช่วงรอบฤดูการผลิต 3 ปีที่ผ่านมา หรือปี 2560/61-2563/64 รัฐบาลอินเดียใช้เงินอุดหนุนการส่งออกมากกว่า 1.998 พันล้านหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 6.55 หมื่นล้านบาท กดดันต่อราคาตลาดโลกปรับตัวลดลงประมาณปีละ 13.1% และทำให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของออสเตรเลียสูญเสียรายได้จากการส่งออกน้ำตาล 63 เหรียญออสเตรเลียต่อตันน้ำตาล (ประมาณ 1,530 บาทต่อตันอ้อย) คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 189 ล้านเหรียญออสเตรเลียต่อปี (ประมาณ 4.58 พันล้านบาท) จากปริมาณการส่งออกน้ำตาลปีล่าสุดอยู่ที่ 3 ล้านตัน


“ประเทศไทยในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีปริมาณการส่งออกน้ำตาลทรายไปยังตลาดโลกในรอบการผลิตปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านตันน้ำตาล ได้รับความเสียหายประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี เมื่อเปรียบเทียบเชิงปริมาณการส่งออกน้ำตาลของไทยที่สูงกว่าออสเตรเลียถึง 2 เท่า ทาง 3 สมาคมฯ จึงเรียกเรียกร้องให้รัฐบาลไทยผลักดันประเทศอินเดียให้ยกเลิกมาตรการอุดหนุนและเรียกร้องให้ปฎิบัติตามกฎกติกาการค้าโลก ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก(ดับเบิ้ลยูทีโอ) อย่างเคร่งครัด”

นายปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยในฐานะผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้กับผลกระทบที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรม ต้องสูญเสียโอกาสส่งออกน้ำตาลช่วงที่ราคาตลาดโลกที่ดี ซึ่งเชื่อว่าราคายังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่เมื่อเจอแรงกดดันจากซัพพลายของประเทศอินเดียทำให้ราคามีความผันผวนมากขึ้น และหากรัฐบาลอินเดียยังคงให้อุดหนุนอุตสาหกรรมน้ำตาลต่อไป ราคาตลาดโลกจะยังเผชิญแรงกดดันต่อไปอีก

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ จะส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของอ้อย คาดว่าปริมาณผลผลิตอ้อยในฤดูการผลิตหน้า (ปี 2564/65) จะอยู่ที่ประมาณ 90 ล้านตัน ตามที่สมาคมฯ เคยประมาณการไว้ เนื่องจากชาวไร่อ้อยมีการขยายการเพาะปลูกอ้อยและบำรุงรักษาอ้อยเพิ่มขึ้น ส่วนโรงงานน้ำตาลได้สนับสนุนช่วยเหลือชาวไร่ด้านเงินทุนและปัจจัยการผลิตต่างๆ รวมทั้ง การประกันราคาอ้อยปีหน้าที่ตันอ้อยละ 1,000 บาท ที่ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด