ธปท. ชี้แจงการออก พ.ร.ก. ฟื้นฟูฯ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

 กรุงเทพฯ 8 มิ.ย.- ธปท. ชี้แจง สว. การออก พ.ร.ก. ฟื้นฟูฯ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยเฉพาะเพื่อเอื้อให้ลูกหนี้ SME สามารถเข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟูฯ ได้มากขึ้น ใน 5 ประเด็นสำคัญ


 นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงต่อที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ว่า ธปท. และกระทรวงการคลัง ได้หารือกับหลายฝ่าย ทั้งสถาบันการเงิน และลูกหนี้ อาทิ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย และสมาคมโรงแรม ในการหารูปแบบมาตรการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบธุรกิจ โดยได้ปลดล็อกข้อจำกัดของ พ.ร.ก. soft loan เดิม เพื่อเอื้อให้ลูกหนี้ SME สามารถเข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟูฯ ได้มากขึ้น ใน 5 ประเด็นสำคัญ คือ 1.ขยายขอบเขตให้ครอบคลุมธุรกิจในวงกว้างขึ้นโดยให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงิน สามารถมาขอสินเชื่อฟื้นฟูได้ 2. ขยายเวลาการให้ความช่วยเหลือให้ยาวขึ้น จากเดิม 2 ปี เป็น 5 ปี ให้สอดคล้องกับการที่ธุรกิจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว

 3.ขยายวงเงินให้เพียงพอรองรับความต้องการของลูกหนี้ จากเดิมที่ร้อยละ 20 ของยอดคงค้างสินเชื่อ เป็นร้อยละ 30 ของวงเงินสินเชื่อ เพื่อให้ธุรกิจมีสภาพคล่องมากขึ้นในการรองรับผลกระทบที่รุนแรงขึ้น 4.กำหนดอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสมและเอื้อต่อการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 5 ตลอดระยะเวลา 5 ปี โดยในช่วง 2 ปีแรกกำหนดให้อยู่ที่ร้อยละ 2 และลูกหนี้ได้รับยกเว้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก และ 5.ปรับใช้กลไกค้ำประกันของรัฐ โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรม ขนาดย่อม (บสย.) และเพิ่มอัตราการค้ำประกันสินเชื่อ จากระดับไม่เกินร้อยละ 30 ในภาวะปกติ เป็นร้อยละ 40 ของความเสียหายที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังกำหนดอัตราการค้ำประกันต่อรายที่สูงขึ้น สำหรับ SMEs รายเล็กที่มีความเปราะบางสูงหรือต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวนานกว่ากลุ่มอื่น


 อย่างไรก็ตาม โจทย์สำคัญในตอนนี้ คือ เร่งช่วยลูกหนี้ให้รอดมากที่สุด จึงเห็นว่าสินเชื่อควรออกไปได้เร็วและตรงจุด การที่จะให้สินเชื่อออกได้เร็วต้องใช้กลไกที่มีข้อมูล เข้าใจลูกหนี้ เข้าใจธุรกิจ ประเมินความเสี่ยงได้ว่าลูกหนี้รายใดมีโอกาสฟื้นฟู และกลับมาทำธุรกิจได้ในอนาคต 

 สำหรับความกังวลว่ามาตรการจะเลือกช่วยเหลือแต่ลูกหนี้ชั้นดีนั้น เป็นสิ่งที่ ธปท. คำนึงถึงเช่นกัน จึงใช้กลไก บสย. ที่ลูกหนี้ต้องจ่ายค่าค้ำประกันที่ร้อยละ 1.75 เพื่อให้สินเชื่อไปถึงกลุ่มที่มีความเสี่ยงคือกลุ่มสีเหลือง หรือกลุ่มสีส้มมากขึ้น เพราะกลุ่มสีเขียวที่เป็นลูกหนี้คุณภาพดีจะไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ นอกจากนี้ มาตรการยังได้รับความร่วมมือจากบางกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ ในการช่วยให้สินเชื่อผ่านไปถึงธุรกิจรายเล็กในห่วงโซ่การผลิตด้วย 

 ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของสินเชื่อฟื้นฟูฯ คาดว่าลักษณะการใช้เงินจะแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะแรกเป็นสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อเยียวยา ระยะที่ 2 ใช้สินเชื่อเมื่อเริ่มมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น และระยะที่ 3 คือ ช่วงที่เศรษฐกิจกลับมาสู่ภาวะปกติ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 100,000 ล้านบาท ภายใน 6 เดือน ซึ่งปัจจุบัน (ณ 2 มิ.ย.) ยอดคงค้างอยู่ที่ 20,839 ล้านบาท จำนวนลูกหนี้ 8,218 ราย เฉลี่ย 2.5 ล้านบาทต่อราย 


ประเด็นโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ซึ่งเป็นโครงการใหม่ สถาบันการเงินและลูกหนี้อาจยังไม่คุ้นเคย สิ่งที่ ธปท. ทำคือการออกแบบสัญญามาตรฐาน เพื่อหาแนวทางการเจรจาที่เป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ต้องอาศัยเวลาในการเจรจา และบางส่วนรอมาตรการสนับสนุนทางภาษีที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ โดยปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการ 4 ราย มูลค่าโอนสินทรัพย์ 910 ล้านบาท และเชื่อว่าระยะต่อไปทั้งสินเชื่อฟื้นฟูฯ และโครงการพักทรัพย์พักหนี้จะมีผู้มาเข้าร่วมมากขึ้น 

 ในส่วนสินเชื่อฟื้นฟูฯ ขอย้ำว่าลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติทุกรายมีสิทธิเท่ากัน ไม่ว่าจะเคยกู้ผ่านมาตรการ Soft loan เดิม หรือไม่ ต่างก็กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของวงเงินสินเชื่อเท่ากัน และในเรื่องการกำหนดราคาตีโอนสำหรับโครงการพักทรัพย์ พักหนี้นั้น ธปท. ได้สร้างกลไกให้ราคาตีโอน เท่ากับราคาซื้อคืน บวก ค่าใช้จ่ายที่ต่ำมาก เพื่อให้ลูกหนี้อยู่รอดได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากขณะนี้ 

 ทั้งนี้ ธปท. ขอขอบคุณสมาชิกวุฒิสภาทุกท่าน ที่ให้คำแนะนำและจะรับข้อเสนอแนะต่าง ๆ ไปใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติและจะใช้ความยืดหยุ่นของ พ.ร.ก. นี้ให้เป็นประโยชน์ โดยหากมาตรการไม่ได้ประสิทธิภาพอย่างที่ตั้งเป้าไว้ ก็พร้อมจะปรับปรุงเงื่อนไขต่าง ๆ ในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับส่วนรวม . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย