สะท้อนพิรุธ 3 ด้าน ชี้การพนันไม่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

รัฐสภา 7 ก.ค.- กมธ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ สว. รายงานผลกระทบสะท้อนพิรุธ 3 ด้าน ชี้การพนันไม่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เสี่ยงเป็นแหล่งบ่มเพาะอาชญากร ด้าน “จรัญ” เบรก เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ส่อขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน ยก 4 มาตรา ค้ำคอ ไม่เป็นนิติธรรม ขาดมาตรการป้องกันการทุจริต ไม่สอดคล้องหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามยุทธศาสตร์ชาติ


ในการประชุมวุฒิสภา มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ วุฒิสภา โดยมี นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว. เป็นประธานกมธ.ฯ

นพ.วีระพันธ์ รายงานข้อสังเกตุและความเห็นเบื้องต้นว่า กมธ.ฯได้ศึกษาตมกรอบอำนาจหน้าที่อย่างรอบด้าน โดยได้พิจารณาข้อมูลจากเอกสารวิชาการงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อมูลที่สืบค้นได้จากสื่อมวลชนต่างๆ และยังได้เชิญบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ อดีตนายกรัฐมนตรี นักวิชาการ ภาคประชาชน เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลให้ทันต่อสถานการณ์


นพ.วีระพันธุ์ กล่าวว่า กมธ.ฯมีข้อสังเกตและความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ในเบื้องต้น แบ่งเป็น 3 ด้านสำคัญ แต่ละด้านมีข้อย่อย ที่สะท้อนถึงข้อพิรุธหรือความไม่ชัดเจน และควรติดตามตรวจสอบพิจารณาอย่างต่อเนื่องต่อไป คือ1. ด้านเศรษฐกิจ พบว่า กิจกรรมการพนันไม่ใช่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะเป็นการโอนเงิน อุตสาหกรรมกาสิโนมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะขาลง และถูกแทนที่ด้วยการพนันออนไลน์ ดังนั้น การให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลการพนันออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่ควรทำในสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะที่รัฐบาลจีนมีจุดยืนเห็นว่าการพนันขัดต่อจริยธรรม หากประเทศไทยยืนยันจะมีกาสิโน ก็อาจถูกรัฐบาลจีนกีดกัดไม่ให้พลเมืองเดินทางมาท่องเที่ยว

นพ.วีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ การดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง ไม่จำเป็นต้องใช้กาสิโน ประเทศไทยมีศักยภาพหลายด้านที่ส่งเสริม เช่น อุตสาหกรรมการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม หรือ Wellness Industry รวมถึงคาดการณ์รายได้จากผู้เล่นคนไทยสูงกว่า 5 หมื่นล้านบาท นั้นเกินจริง เพราะต้องมีผู้เล่นเป็นจำนวนมาก ขัดกับเงื่อนไขที่คนไทยต้องมีเงินฝากในบัญชี 50 ล้านบาท ติดต่อกัน 6 เดือน

นพ.วีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า 2. ด้านสังคม และด้านอื่นๆ พบว่าการติดการพนันเป็นโรคชนิดหนึ่ง ที่มีผลกระทบอย่างรุนแรง กาสิโนยังเป็นแหล่งบ่มเพาะอาชญากรรมที่ซับซ้อนขึ้น มีการจ้างงานที่ไร้ทักษะอาชีพ ควรทำประชาพิจารณ์และถามประชามติให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจสุดท้าย ว่าควรมีการเปิดกาสิโนในประเทศไทยหรือไม่ และ 3. ด้านกฎหมาย พบว่าร่างกฎหมายดังกล่าวมีแนวโน้มขัดต่อหลักนิติธรรม หน้าที่ของรัฐ และแนวนโยบายแห่งรัฐ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หมวดที่ 5 และ 6


ด้านนายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะ กมธ.ฯ อภิปรายในประเด็นผลกระทบด้านกฎหมาย ว่า ไม่มีข้อกังวลเรื่องสถานบันเทิง แต่เมื่อมีการให้เปิดบ่อนกาสิโนที่ชอบด้วยกฎหมาย เปิดกว้างให้ทั้งผู้เล่นชาวไทยและต่างชาติ จะก่อให้เกิดผลกระทบด้านรัฐธรรมนูญ โดยมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ระบุไว้ว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติกฎหมายหรือการกระทำใดๆ จะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ ถือเป็นหลักพื้นฐานของประเทศไทยที่สอดคล้องกับหลักสากล

นายจรัญ กล่าวว่า เมื่อร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงฯ ที่กำหนดให้การเปิดกาสิโนชอบด้วยกฎหมาย จะเกิดปัญหา เนื่องจากมาตรา 3 วรรค 2 ระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐทั้งหมด ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามหลักนิติธรรม คือ ธรรมะของกฎหมาย เป็นการเชิดชูหลักสุจริต เป็นปฏิปักษ์ต่อพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ รวมถึงมาตรฐานทางจริยธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งระบบ และหลักนิติธรรมยังได้คำนึงเข้าไปคุ้มครองถึงศีลธรรมอันดีของพี่น้องประชาชน

นายจรัญ กล่าวต่อว่า ในหมวดที่ 5 ของรัฐธรรมนูญ ยังได้บัญญัติว่า รัฐต้องมีหน้าที่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน มาตรา 58 ระบุว่า รัฐจะกระทำกิจการใด หรืออนุญาตให้บุคคล คณะบุคคลใด ดำเนินการที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน และชุมชน หรือสิ่งแวดล้อม จะต้องมีการทำประเมินเรื่องผลกระทบทางสุขภาพ ก่อนจะดำเนินการได้ เช่นเดียวกับมาตรา 63 บัญญัติว่า รัฐมีหน้าที่ต้องสร้างกลไก มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อมโยงกับช่องโหว่ว่า หากมีสถานบันเทิงที่มีกาสิโนขึ้น จะเปิดช่องให้มีการทุจริตประพฤติมิชอบมากกว่าสถานประกอบธุรกิจอื่นๆ จึงควรต้องมีมาตรการหรือกลไกเพื่อป้องกันปราบปรามการทุจริตให้เข้มข้นกว่าการประกอบธุรกิจปกติทั่วไป แต่ในร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ หาได้มีมาตรการเหล่านั้นให้เราเห็นเลย

นายจรัญ กล่าวว่า มาตรา 65 ในหมวดแนวนโยบายแห่งรัฐ บัญญัติไว้ว่า รัฐพึงจะให้มียุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้การพัฒนาประเทศเป็นไปได้อย่างยั่งยืน โดยใช้กระบวนวิธีการบริหารตามหลักธรรมาภิบาล และในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า การพัฒนาประเทศจะยั่งยืนต้องเชื่อมโยงกับมาตรฐานทางจริยธรรม สำนึกในจริยธรรมอันดี และไม่ปรากฏในประเทศอื่น คือ หลักเศรษฐกิจพอเพียง

“กาสิโนเป็นแหล่งหาเงิน หาทรัพย์สมบัติ ที่ไม่พอเพียง เต็มไปด้วยความสุ่มเสี่ยงนานัปประการ ด้วยเหตุของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญไทย 4 มาตราดังกล่าว ผมจึงเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน” นายจรัญ กล่าว

ขณะที่ นพ.วีระพันธุ์ กล่าวสรุปการเสนอรายงานว่า การศึกษาของกมธ.ฯ ยังไม่จบ แค่ศึกษามาถึงตรงนี้ก็พบแล้วว่า ยังมีข้อพิรุธและความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง กมธ.ฯ ยังมีระยะเวลาเหลือ ต้องการทำให้ครบ แม้จะได้ยินว่ารัฐบาลเตรียมจะถอนร่างนี้ออกไป แต่ต้องรอดูครม.วันที่ 8ก.ค.ก่อน เพราะเอาอะไรแน่นอนไม่ได้ เรายืนยันว่าจะศึกษาต่อไปให้ครบรอบด้าน เพราะในอนาคต แม้จะมีรัฐบาลใดที่นำร่าง พ.ร.บ. ในลักษณะนี้กลับมาอีก คิดว่าการศึกษาของกมธ.ฯ จะเป็นประโยชน์ต่อลูกหลานของไทยในอนาคต.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]