ชัวร์ก่อนแชร์:เปิดไทม์ไลน์“หมอพร้อม”ทำไมคิวแรกต้อง“กลุ่มผู้สูงอายุ-7โรคเรื้อรัง”

28 เมษายน 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


ในวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อเดินหน้าการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยด้วย 7 โรคเรื้อรังเป็นคิวแรกในเดือนมิ.ย.-ก.ค. 64 ผ่านการจองคิวรับวัคซีนในระบบ “ไลน์หมอพร้อม” โดยมีผู้ที่มีคุณสมบัติในการรับวัคซีนในครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 16 ล้านคน

ทำไมกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยด้วย 7 โรคเรื้อรังถึงมีสิทธิได้รับวัคซีนก่อนกลุ่มอื่น และผู้ที่จะได้รับวัคซีนในลำดับถัดไปคือกลุ่มไหน แผนการกระจายวัคซีนให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายจะทำได้อย่างไร มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ “ชัวร์ก่อนแชร์”


Q : 1 พ.ค.นี้ ลงทะเบียน “ผ่านไลน์หมอพร้อม” นัดฉีดวัคซีนโควิด19 คิวแรกกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง
A : ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ในเดือน มิ.ย.-ก.ค. 64 กลุ่มแรกที่จะได้รับการฉีดวัคซีนมีจำนวนทั้งสิ้น 16 ล้านคน จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง 7 โรค ส่วนประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 16 ล้านคน ก็จะได้รับการจัดสรรวัคซีนที่จะเข้ามาในลำดับต่อไปจนถึงเดือนธ.ค. กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยด้วย 7 โรคเรื้อรังจะได้รับวัคซีนล็อตแรกจากบริษัทแอสตาเซเนกา ซึ่งในเดือนมิ.ย.จะได้รับ 6 ล้านคน เดือนก.ค. จะได้รับ 10 ล้านคน โดยมี “Line OA หมอพร้อม” เป็นช่องทางในการเข้าถึงการฉีดวัคซีน ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อรองรับการเป็น National Health Platform

Q : ทำไมถึงต้องให้กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 7 โรคเป็นผู้ได้รับวัคซีนก่อน
A : นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เหตุผลที่ให้ 2 กลุ่มนี้ก่อน เพราะข้อมูลการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ผ่านมา ทุกรายที่เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหรือเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งวัคซีนจะมีส่วนช่วยในการลดการเสียชีวิต ลดการรักษาในโรงพยาบาล โดย 2 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องให้การดูแลก่อน เพื่อลดการสูญเสียและไม่ให้เกิดภาวะการเจ็บหนัก

Q : ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังประกอบด้วยโรคอะไรบ้าง
A : 1.โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง,โรคหอบหืดที่ควบคุมได้ไม่ดี
2.โรคหัวใจและหลอดเลือด
3.โรคไตวายเรื้อรัง
4.โรคหลอดเลือดสมอง
5.โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีบำบัด และภูมิคุ้มกันบำบัด
6.โรคเบาหวาน
7.โรคอ้วน


Q : กระทรวงสาธารณสุขแบ่งกลุ่มเป้าหมายในการรับวัคซีนไว้อย่างไร
A : นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้ที่จะได้รับวัคซีนแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม 1. กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจำนวน 1.2 ล้านคน 2. บุคลากรด่านหน้าจำนวน 1.8 ล้านคน ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ จะได้รับวัคซีนครบถ้วนภายในเดือนพ.ค. 3. กลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคจำนวน 4.3 ล้านคน 4.กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 11.7 ล้านคน โดยกลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 โรค และผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปจะได้รับวัคซีนในเดือนมิ.ย. และ เดือน ก.ค. 5.กลุ่มที่มีอายุ 18 ปี ถึง 59 ปี จะได้รับการฉีดวัคซีนในเดือนส.ค.และเดือน ก.ย. โดยเปิดการจองฉีดวัคซีนในเดือนก.ค.
ระยะที่ 1 ซึ่งเป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรสาธารณสุข และบุคลากรด่านหน้า ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือนมี.ค.จนถึงสิ้นเดือนพ.ค.นี้
ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรคนั้น ขณะนี้ทุกโรงพยาบาลได้นำรายชื่อของผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวเข้ามาในระบบ ไลน์หมอพร้อม เพื่อให้สามารถทำการลงทะเบียนจองรับการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป
ระยะที่ 3 ประชาชนที่มีอายุ 18-59 ปี จำนวน 31 ล้านคน จะเปิดให้จองคิวเพื่อรับวัคซีนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป และจะฉีดวัคซีนให้คนกลุ่มนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป

Q : อยากเป็นเพื่อนกับ “หมอพร้อม” ต้องทำอย่างไร
A : สามารถ Add Friend ใน LINE Application โดยการค้นหาคำว่า “หมอพร้อม” จากนั้นกรอกเลขบัตรประจําตัวประชาชนเพื่อทำการจองรับวัคซีน โดยข้อมูลที่ภาครัฐได้รับ จะนำมาใช้เพื่อตรวจสอบข้อมูลในฐานประชากรเป็นหลัก หากตรงกับกลุ่มที่จะได้รับวัคซีน 16 ล้านคน ก็จะสามารถดำเนินการเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปได้ นอกจากนี้ ไลน์หมอพร้อม ยังสามารถจองคิวให้บุคคลในครอบครัวได้ไม่จำกัด รวมถึงเปลี่ยนแปลงวัน เวลา สถานที่ ในการจองได้

สำหรับผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์สามารถจองการรับวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านหรือโทรศัพท์มาจองการรับวัคซีน กับ อสม. , โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ได้

รับชมคลิปวิดีโอ การใช้ Line หมอพร้อม ที่นี่

Q : ถ้าไม่ใช่กลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยเรื้อรัง จะมีชื่อใน “ไลน์หมอพร้อม” หรือไม่
A : ดร.นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านสาธารณสุข ระบุว่า หากท่านถ้าไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย 16 ล้านคนก็จะไม่เจอชื่อในระบบ เพราะเราจะใส่เฉพาะชื่อของผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังที่มีสิทธิได้รับวัคซีนในรอบนี้ ไว้ในระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หากรายชื่อตกหล่นในระบบไลน์หมอพร้อม สามารถแจ้งชื่อท่านในโรงพยาบาลใกล้บ้านได้ สำหรับการเตรียมระบบเพื่อรองรับผู้เข้าใช้ “ไลน์หมอพร้อม” ในวันที่ 1 พ.ค.นั้น ทางเราได้เตรียมระบบรองรับไว้ 5 เท่า โดยประมาณการว่าในวันแรกจะมีผู้เข้าใช้ระบบจำนวน 20,000 คนต่อวินาที แต่หากเกินความคาดหมายก็จะมีระบบคลาวด์รองรับ และตัดฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนเพื่อให้ระบบดำเนินการได้เร็วขึ้น

Q : การจองวัคซีนผ่าน “ไลน์หมอพร้อม” ทำได้เฉพาะวันที่ 1 พ.ค. ใช่หรือไม่
A : ดร.นพ.พงศธร ชี้แจงว่า ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อจองรับวัคซีนเฉพาะวันที่ 1 พ.ค. สามารถดำเนินการในวันอื่นๆ ได้ และถ้าไม่สะดวกลงทะเบียนผ่านไลน์หมอพร้อม ก็สามารถแจ้งการรับวัคซีนได้กับ อสม. หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านได้

Q : ไขข้อสงสัยเมื่อชื่อที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ไม่ตรงกับจังหวัดที่พักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน จะสามารถรับวัคซีนในจังหวัดที่พักอาศัยอยู่ ณ ปัจจุบันได้หรือไม่
A : ดร.นพ.พงศธร  ระบุว่า หากท่านเคยใช้บริการที่โรงพยาบาลใดในจังหวัดที่ท่านพักอาศัยอยู่ ก็จะมีชื่อโรงพยาบาลนั้นขึ้นอยู่ในระบบ และหากไปรับบริการกับ 3 โรงพยาบาลในจังหวัดที่ท่านพักอาศัยอยู่ก็จะมีชื่อขึ้นทั้ง 3 โรงพยาบาล หากเป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ แต่ไม่เคยรับการรักษาในกรุงเทพฯ ระบบจะเปิดให้ท่านสามารถเลือกใช้บริการรับวัคซีนที่จุดฉีดสนามได้ แต่หากมีการย้ายที่พักอาศัยกะทันหัน ให้ท่านไปแจ้งชื่อกับโรงพยาบาลใกล้บ้าน ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขจะไม่ทำระบบให้เลือกว่าท่านอยากไปรับวัคซีนที่โรงพยาบาลใด เพราะอาจจะเกิดปัญหาการเลือกใช้บริการเฉพาะโรงพยาบาลใด โรงพยาบาลหนึ่งเป็นจำนวนมากได้

Q : วัคซีนจะมีเพียงพอสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และ กลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังหรือไม่
A : ดร.นพ.พงศธร  กล่าวว่า เชื่อว่าจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับทุกคนในระยะ 2 เดือนนี้ เพราะอาจจะมีผู้สูงอายุบางกลุ่มที่ยังยังไม่พร้อมจะรับวัคซีนในขณะนี้

Q : ถ้าผู้สมัครใจฉีดวัคซีนน้อยกว่า 16 ล้านคน จะเปิดบริการให้กลุ่มอื่นๆ ได้รับวัคซีนหรือไม่ เพื่อที่กลุ่มอื่นๆ จะได้ไม่ต้องรอการฉีดวัคซีนในเดือนส.ค.
A : นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น และความจำเป็นที่จะได้รับในแต่ละกลุ่ม ทั้งนี้หากรัฐบาลสามารถจัดสรรวัคซีนเพิ่มได้ในช่วงนี้ ก็จะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ที่จะได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นได้ เช่น วัคซีนบางชนิดเหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือวัคซีนบางชนิดเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปี ถึง 18 ปี ก็จะสามารถเสริมเข้าไปได้

Q : หากเคยได้รับเชื้อโควิด-19 มาแล้ว ควรฉีดวัคซีนหรือไม่
A : นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การติดเชื้อ 1 ครั้งจะมีแอนติบอดี้เกิดขึ้น แต่ไม่สูงมากพอที่จะป้องกันโรคได้ในระยะยาว ดังนั้นจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีน 1 เข็มหลังจากที่หายป่วยแล้วประมาณ 1 ถึง 3 เดือน เพื่อให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้น และป้องกันการติดเชื้อใหม่

Q : วัตถุประสงค์ของการรับวัคซีน
A : นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการให้วัคซีนว่า 1. เพื่อคงระบบสาธารณสุขให้เดินหน้าได้ 2.ฉีดเพื่อลดการป่วยการเสียชีวิต 3.ฉีดเพื่อให้เดินหน้าเศรษฐกิจได้ โดยการฉีดวัคซีนจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ 1. กลุ่มอายุ กลุ่มที่มีโรคเรื้อรัง หลังจากฉีดกลุ่มนี้เสร็จก็จะเป็นประชาชนกลุ่มอื่นๆ อีก 30 ล้านคน กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่ม Setting กลุ่มที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อ เช่น กลุ่มครู แม่ค้าตลาดสด ผู้ให้บริการสาธารณะ โรงแรม ผู้ให้บริการขับรถสาธารณะ ท่าอากาศยาน ทหาร หรือตำรวจ กลุ่มที่ 3 กลุ่มพื้นที่ พื้นที่มีการระบาดจำนวนมาก เช่น กทม. ปริมณฑลในช่วงนี้ พื้นที่เศรษฐกิจตามเป้าหมายของรัฐบาล เรามอง 3 มิติตามวัตถุประสงค์ 3 ข้อและตามวัคซีนที่มีมาในแต่ละช่วง ซึ่งช่วง มิ.ย.-ก.ค. ก็จะฉีดให้ครบในกลุ่มผู้สูงอายุ และ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค

Q : “สธ.” ชี้ ฉีดวัคซีนครบ 50 ล้านคน สามารถสร้างภูมิคุ้มกันภายในประเทศได้
A : นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หากประชาชนได้รับวัคซีน 50 ล้านคน หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ก็จะสามารถทำให้เกิดภูมิคุ้มกันภายในประเทศได้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลยืนยันว่าผู้ที่ประสงค์จะฉีดวัคซีน จะต้องได้รับวัคซีนทุกคน

Q : ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนเดือนละ 10 ล้านโดสจนถึงสิ้นปี
A : นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเดือนละ 10 ล้านโดส หรือวันละ 300,000 โดสขึ้นไปเพื่อให้ครอบคลุมถึงสิ้นปี 64 โดยสาธารณสุขมีหน่วยงานที่จะฉีดวัคซีนถึง 1,173 แห่ง หนึ่งแห่งอาจมีมากกว่า 1 หน่วย เช่น นอกจากฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลแล้ว ก็จะมีการฉีดนอกพื้นที่โรงพยาบาล เช่น สนามกีฬา ศาลาประชาคม หรือห้างสรรพสินค้าที่เปิดพื้นที่ให้ฉีดวัคซีนได้

เปิดแผนการกระจายวัคซีนโควิด-19
A : นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า บริษัทผู้ผลิตวัคซีนตั้งใจที่จะส่งมอบวัคซีนให้ได้ตามแผนคือ 6 ล้านโดสในเดือนมิ.ย. สำหรับการจัดส่งวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ จะเริ่มในปลายเดือนพ.ค. โดยอาศัยประสบการณ์ที่เคยจัดส่งวัคซีนไปแล้วในช่วงเดือนมี.ค.และเม.ย.  ซึ่งหากมีการวางแผนการจัดส่งที่ดี ก็จะสามารถจัดส่งไปถึงโรงพยาบาลได้ภายใน 24 ชั่วโมง โดยการจัดส่งวัคซีนต้องอยู่ภายใต้ระบบความเย็นในอุณหภูมิที่ 2-8 องศาเซลเซียส

Q : หลักเกณฑ์ในการกระจายวัคซีน
A : “วัคซีน covid19 ยังเป็นวัคซีนที่ใช้ในภาวะฉุกเฉินเพื่อการควบคุมโรค ดังนั้นจังหวัดที่ยังมีการระบาดของโรคอยู่ เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล ชลบุรี เชียงใหม่ จะได้รับการจัดสรรวัคซีนในสัดส่วนที่มากกว่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมต่อการระบาดในพื้นที่ ส่วนจังหวัดที่มีการระบาดน้อยจะได้รับการจัดสรรวัคซีนในสัดส่วนที่ลดหลั่นลงมา ซึ่งการจัดสรรวัคซีนได้ดูจากการสำรวจที่มีมาก่อนหน้านี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ทุกจังหวัดและทุกหน่วยงานดำเนินการสำรวจประชากรกลุ่มเป้าหมาย เมื่อรวมกับระบบการจองวัคซีนผ่านไลน์หมอพร้อม ก็จะมีความแม่นยำในการจัดส่งวัคซีนให้เพียงพอกับกลุ่มประชากรที่ต้องการรับวัคซีนในแต่ละช่วงเวลา” นพ.โสภณ กล่าว

Q : แอสตาเซเนกา 1 ขวด ใช้ได้กี่โดส
A : รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า วัคซีนแอสตาเซนากา 1 ขวด ใช้ได้ 10 โดส โดยกรมควบคุมโรคจะจัดหาไซริงค์ที่มีความเหมาะสมกับการใช้วัคซีน ซึ่งหากได้ไซริงค์ที่เหมาะสมจะสามารถใช้วัคซีนได้มากกว่า 10 โดสต่อขวด อาจจะถึง 11-12 โดส

Q : การเตรียมทีมเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนภายหลังการได้รับวัคซีน
A : นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคมีคณะผู้เชี่ยววชาญทางด้านวัคซีน โรคสมอง โรคหลอดเลือด เพื่อให้คำแนะนำในกรณีที่ผู้รับวัคซีนเกิดภาวะแทรกซ้อนภายหลังการได้รับวัคซีน ต้องให้กรรมการได้พิจารณาโดยเร็วว่าเป็นผลมาจากการรับวัคซีนหรือไม่ บ่อยครั้งพบว่าไม่ได้มาจากการรับวัคซีน แต่มาจากอุบัติการณ์ร่วม หรือ Co-incident และหากกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนก็จะมีการหยุดเพื่อประเมินความเสี่ยง และจะดำเนินการฉีดวัคซีนอีกครั้งต่อเมื่อพบว่าสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน

Update ข้อมูล ลงทะเบียนจองคิวรับวัคซีน หมอพร้อม รอบแรกต้องรู้อะไรบ้าง?
ที่มา: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ค. 64)

Q: ใครลงทะเบียนจองคิวรับวัคซีนในรอบแรกนี้ได้บ้าง?
(A)ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้แก่ 1. โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง 2. โรคหัวใจและหลอดเลือด 3. โรคไตวายเรื้อรัง 4. โรคหลอดเลือดสมอง 5. โรคอ้วน 6. โรคมะเร็ง 7. โรคเบาหวาน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดอาการป่วยรุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19

Q: ลงทะเบียนรอบแรกนี้แล้วจะได้ฉีดเมื่อไหร่?
(A)สำหรับรอบผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังนี้ จะเปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 และจะเข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน เป็นต้นไป

Q: ต้องรีบจองไหม?
(A)ในการรับวัคซีนรอบแรกนี้ (มิ.ย. – ก.ค. 64) มีวัคซีนของ AstraZeneca ที่จัดหาไว้ทั้งสิ้น 16 ล้านโดส ซึ่งจะครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มแรกของกลุ่มประชากรเป้าหมายในรอบนี้ที่มีอยู่ประมาณ 16 ล้านคน อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมเป้าหมายทั้งสิ้นที่ 50 ล้านคน (70% ของประชากร) ภายในสิ้นปีนี้

Q: แล้วรอบประชาชนทั่วไปจะเป็นเมื่อไหร่?
(A)ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และจะเริ่มเข้ารับวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

Q: จองคิวรับวัคซีนได้ช่องทางไหนบ้าง?
(A)1. LINE OA หมอพร้อม 2. โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา 3. อสม. หรือ รพ.สต. ในพื้นที่

Q: รายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์ในรอบแรกนี้มาจากไหน?
(A)รายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด ถูกส่งมาจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วประเทศ โดยคัดกรองจากประวัติการรักษา

Q: ถ้ารายชื่อตกหล่นต้องทำอย่างไร?
(A)ถ้าพบว่ารายชื่อตกหล่น ให้แจ้งไปที่โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา เพื่อนำรายชื่อเข้าระบบหมอพร้อม

Q: ลงทะเบียนแล้วรับวัคซีนได้ที่ไหนบ้าง
(A)สามารถเลือกสถานที่รับวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา โรงพยาบาลภูมิลำเนา หรือศูนย์ฉีดวัคซีนสนาม

Q: รับวัคซีนแล้ว กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติก่อน New Normal ได้เลยไหม
(A)เมื่อได้รับวัคซีนแล้ว ร่างกายจะได้รับการกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาหลังจากรับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งยังคงมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อโควิด-19 แล้วเกิดอาการป่วยได้ แต่จะลดอาการป่วยรุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิตลง จึงขอแนะนำให้ทุกท่านยังคงใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง และล้างมืออย่างสม่ำเสมอ จนกว่าจะมีประกาศจากทางกระทรวงสาธารณสุข

Q: เมื่อจองคิวสำเร็จแล้ว ต้องการเปลี่ยนการจองใหม่หรือยกเลิกการจองทำได้หรือไม่ อย่างไร
(A) 1.สามารถเปลี่ยนการจองได้ผ่านแอปพลิเคชัน และไลน์แอปพลิเคชันหมอพร้อม
2. หากต้องการยกเลิกการจอง กรุณาแจ้งยกเลิกที่รพ.ที่จองไว้โดยตรง

Q: ทำไมการจองบน หมอพร้อม APP ขึ้นว่า วันนี้โรงพยาบาลยังไม่เปิดให้จองการฉีดวัคซีน?
(A) รพ.สามารถเลือกเปิดให้จองคิวตามความพร้อมของ รพ.ได้ เช่น บาง รพ. จะเปิดให้จองเฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์

Q: ทำไมการจองบน LINE OA หมอพร้อม ขึ้นว่า หน่วยให้บริการกำหนดให้จองเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของหน่วยให้บริการเท่านั้น
(A) รพ. กำหนดให้จองเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย เช่น วันที่ 20 มิ.ย.64 รพ.A กำหนดให้จองได้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ดังนั้นบุคคลที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค จะจองไม่ได้

Q: ไม่สามารถเลือก รพ. เพื่อจองคิวฉีดวัคซีนได้
(A) 1. วันที่เปิดให้จองอยู่ในช่วง 7 มิ.ย.-31 ก.ค.64 หากเลือกช่วงอื่นๆจะไม่พบ
2. กรณี รพ. ทั้งหมดใน APP ไม่เปิดให้จอง กรุณาทำผ่าน LINE OA จะสามารถเลือกได้ทุกจังหวัด
3. รพ. จะเป็นผู้กำหนดวันที่เปิดให้จอง หาก รพ. ที่ท่านต้องการจองไม่เปิด กรุณาเลือก รพ.อื่น
4. บาง รพ. กำหนดให้จองได้เฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของ รพ.เท่านั้น

อัปเดต ศบค.แถลงชะลอลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านระบบ”หมอพร้อม” (วันที่ 26 พ.ค.64)
รายละเอียดเพิ่มเติม : ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET ทำไม ศบค. ต้องชะลอลงทะเบียนรับวัคซีนโควิด-19 ผ่านระบบ“หมอพร้อม”? https://tna.mcot.net/sureandshare-704598

ข้อมูลอ้างอิง
รับชม VTR : 16 ล้านโดส เพื่อ 16 ล้านคน ผู้สูงอายุ และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง จองคิวฉีด 1 พ.ค. นี้
1 พ.ค.นี้ ลงทะเบียนนัดฉีดวัคซีนโควิด 19 คิวแรกกลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 โรคเรื้อรัง
https://bit.ly/3nE9BND
การแถลงข่าวของผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2564
https://www.facebook.com/fanmoph/videos/788718268428419
ลงทะเบียนจองคิวรับวัคซีน หมอพร้อม รอบแรกต้องรู้อะไรบ้าง?
ที่มา: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ค. 64)

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ตร.เข้มปราบแข่งรถบนทางด่วน เร่งสอบเหตุรถชน 11 คัน

17 ส.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำปราบปรามแข่งรถในทางอย่างเข้มงวด กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน 11 คัน บนทางด่วนศรีรัช–อุดรรัถยา เร่งตรวจสอบ พบความผิดใด ดำเนินคดีทุกกรณี วันนี้ (17 สิงหาคม 2568) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร และหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน บนทางด่วนศรีรัช – อุดรรัถยา ขาออก มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยการทางพิเศษเร่งเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์เสียหายรวมทั้งสิ้น 11 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้งหมด ผลการตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการขับรถด้วยความประมาท […]

สัปดาห์หน้าถกคดี “หมอบี” รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หนี

17 ส.ค.- กองปราบเตรียมประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” สัปดาห์หน้า รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อโกง กรณีเปิดรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการของวัดพระบาทน้ำพุ ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า คณะทำงานจะมีการเรียกประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้ลงไปติดตามในพื้นที่ จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเทียบเคียงและพิจารณาว่า พฤติการณ์ของนายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่ามีความคืบหน้าไปมาก คงเหลือพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลบหนีไปนั้น พ.ต.อ.เอนก บอกว่า เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครหลบหนี มีรายงานข่าวว่า กรณีดังกล่าวหากนายเสกสันน์ หรือผู้เกี่ยวข้องมีการหลบหนีจริง ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้เจ้าตัวยังไม่ถูกดำเนินคดี รวมถึงไม่ถือเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทำให้ตำรวจไม่สามารถขออายัด หรือมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันคณะทำงาน โดยเฉพาะกองบังคับการปราบปราม อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับในกรณีที่พบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด.-419-สำนักข่าวไทย

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย