บอร์ด คปภ. ยกระดับโครงการทดสอบนวัตกรรมฯ ผ่าน Sandbox


กรุงเทพฯ 1 ก.พ. – บอร์ด คปภ. ยกระดับโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุน การให้บริการสำหรับธุรกิจประกันภัย ผ่านร่างประกาศ Insurance Regulatory Sandbox เตรียมประกาศใช้เต็มรูปแบบต่อไป


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ซึ่งมีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานฯ ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง แนวทางการเข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับ ธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) พ.ศ… (ประกาศ Sandbox) ตามที่สำนักงาน คปภ. เสนอ ซึ่งร่างประกาศดังกล่าวจะสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมโครงการทดสอบได้รับการผ่อนคลายกฎระเบียบ สำหรับการเข้าทดสอบนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจประกันภัย และประชาชน รวมทั้งจะยกระดับประกาศ Sandbox เดิมที่เป็นระดับสำนักงานให้เป็นประกาศในระดับของบอร์ด คปภ. ซึ่งจะทำให้ขอบเขตการบังคับใช้กว้างขึ้น

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและกำลังมุ่งเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งส่งผลกระทบต่อกระบวนการ และกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตมนุษย์ รวมทั้งส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ ภาคการผลิต ภาคการบริการ และคุณภาพชีวิตของมนุษย์ ธุรกิจประกันภัยก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเผชิญกับกระแสการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยง หรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ได้ สำนักงาน คปภ. จึงจำเป็นต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และการเข้ามา มีบทบาทของเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ แพลตฟอร์ม หรือโมเดลต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งกฎระเบียบการกำกับที่ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง (Digital Disruption) จึงได้ออกประกาศสำนักงาน คปภ. เรื่องแนวทางการเข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) พ.ศ. 2562 และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาผู้เข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการกำหนดเงื่อนไขหรือข้อตกลงระหว่างเข้าร่วมโครงการ


ปัจจุบันมีผู้เข้ามานำเสนอโครงการรวม 28 โครงการโดยมีโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 9 โครงการ ซึ่งประกาศ Sandbox ที่ออกมามีข้อจำกัด เนื่องจากเป็นประกาศในระดับของสำนักงาน จึงสามารถอนุมัติโครงการเท่าที่อยู่ในกรอบอำนาจของนายทะเบียนเท่านั้น ส่วนโครงการที่เสนอเข้ามาขอทดสอบซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎกติกาที่อยู่ในอำนาจของบอร์ด คปภ. จำเป็นต้องนำไปขอความเห็นชอบจากบอร์ด คปภ. เป็นราย ๆ ไป ทำให้อาจไม่ทันต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมประกันภัยที่ต้องการ เข้าทดสอบอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 12 กำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบาย กำกับ ส่งเสริม และพัฒนาการประกอบธุรกิจประกันภัย โดยสถานการณ์ปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการ ของผู้เอาประกันภัยได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการออกหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องของสำนักงาน คปภ. จะต้องสอดคล้องกับนโยบายและกรอบภารกิจตามที่บอร์ด คปภ. กำหนด แต่ปัจจุบันยังไม่มีประกาศ คปภ. กำหนดหลักการต่าง ๆ และขอบเขตการใช้ดุลพินิจ ของสำนักงาน คปภ. ในภารกิจดังกล่าว จึงจำเป็นต้องออกประกาศ คปภ. เรื่อง แนวทางการเข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) พ.ศ… เพื่อวางกรอบแนวทางให้สำนักงาน คปภ. นำไปออกหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในส่วนรายละเอียดตามกรอบ และเงื่อนไขตามที่บอร์ดคปภ. กำหนดต่อไป โดยจะนำไปใช้แทนประกาศของสำนักงาน คปภ. ที่ออกไปก่อนหน้านี้ สำหรับร่างประกาศ Sandbox ฉบับใหม่นี้ มีสาระที่สำคัญ ดังนี้

  1. กำหนดกลุ่มผู้สมัคร และคุณสมบัติของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ไว้
  2. กำหนดประเภทธุรกรรมที่สามารถเข้าทดสอบในโครงการฯ ไว้ โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่สำนักงาน คปภ. ประกาศกำหนด
  3. กำหนดระยะเวลาการทดสอบไว้อย่างชัดเจน (ไม่เกินครั้งละ 1 ปี และขยายระยะเวลาการทดสอบได้ไม่เกินครั้งละ 1 ปี) และหากผลการทดสอบนวัตกรรมที่เข้าร่วมโครงการฯ ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยไทย และต่อผู้บริโภค รวมทั้งจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงประกาศที่อยู่ภายใต้อำนาจของบอร์ด คปภ. ให้สำนักงาน คปภ. เสนอต่อบอร์ด คปภ. เพื่อพิจารณาต่อไป
  4. กำหนดให้สำนักงาน คปภ. จัดให้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการมีมาตรการในการดูแลผู้เอาประกันภัย การบริหารจัดการความเสี่ยง การจัดส่งรายงาน และการปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง . – สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]

ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียงนายกฯ ไม่กดดัน โฟกัสคลิปเสียงต้องแปลชัดเจน

ชลบุรี 25 มิ.ย.-เลขาฯ ป.ป.ช. เผย ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียง นายกฯ ไม่กดดัน ยังอยู่ขั้นตอนรับมาตรวจสอบ โฟกัสที่คลิปเสียง ต้องแปลข้อความชัดเจน เพราะเป็นสองภาษา เบื้องต้นไม่ต้องเชิญ “แพทองธาร” มาสอบ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวภายหลังเปิดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. ที่จ.ชลบุรี ถึงคดีคลิปเสียง นส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี กับนายฮุนเซน ว่า เรื่องนี้ มีการร้องมาที่ ป.ป.ช. ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อมีการร้องในคดีสำคัญ สำนักงาน ป.ป.ช. ต้องสรุปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการรับทราบ ซึ่งคดีสำคัญเมื่อ ที่ประชุมรับทราบแล้วก็จะกำหนดสิ่งที่ต้องดำเนินการเบื้องต้น ระยะเวลา เมื่อเสร็จต้องกลับมาพิจารณาในที่ประชุม จึงไม่ใช่ 10 วันส่งศาลตามที่เป็นข่าว ยังอยู่ในขั้นตอนรับมาตรวจสอบ ปกติ ถ้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ก็รับมา เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ จึงมีมติต้องมารายงานให้กรรมการ ป.ป.ช.ทราบเป็นระยะ กรณีนี้ ร้องฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถ้าประเด็นรายละเอียดต้องสอบน้อย ก็ใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้ามีรายละเอียดมากก็กำหนด 6 เดือน […]

ชาวกัมพูชากว่า 500 คน แห่กลับประเทศด่านช่องจอม จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 25 มิ.ย.-ชาวกัมพูชากว่า 500 คน ส่วนมากเป็นแรงงานและผู้ป่วย แห่กลับประเทศผ่านด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ หลังฝั่งกัมพูชาเปิดด่าน เวลา 10.00 น. โดยใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เช้าวันนี้ทางฝั่งไทยได้เปิดประตูด่านตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยดำเนินการตามมาตรการและคำสั่งจากกองทัพภาคที่2 อย่างเข้มงวด เพื่อดำเนินการตามมนุษยธรรมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ผู้คนผ่านเข้าออกและขนส่งสินค้า แต่ก็มีปัญาหาจากฝั่งกัมพูชา ในวันนี้กลับปิดด่าน โดยทางฝั่งกัมพูชาอ้างต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าอุดรมีชัยเท่านั้น ทำให้มีชาวกัมพูชาจำนวนมากมารอคิวเดินทางกลับ ส่วนมากจะเป็นแรงงานและผู้ป่วยมาหาหมอแล้วเดินทางกลับ ล่าสุด กัมพูชาเปิดประตูแล้วเมื่อเวลา 10.00 น. มีชาวกัมพูชากว่า 500 คน เดินทางกลับ ส่วนคนไทยกลับเข้ามามีน้อย ขณะเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ตรวจคุมเข้ม โดยไม่ให้ชาวกัมพูชาผ่านเข้ามาและคนไทยไม่ให้ผ่านเข้ากัมพูชาเด็ดขาด รวมไปถึงรถขนส่งสินค้า แต่มีชาวกัมพูชาบางคนไม่เข้าใจ พยายามจะเข้ามาโดยอ้างเอกสารถูกต้อง เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ได้มาทำความเข้าใจและให้เดินทางกลับ โดยทางกัมพูชาได้ปิดประตูด่านแล้วเวลา 10.30 น. ใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ทะลักด่านคลองลึก หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา

สระแก้ว 24 มิ.ย. – วุ่นเล็กน้อย วันแรกปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ชาวไทย-กัมพูชาที่ตกค้าง ต่างเร่งรีบเดินทางกลับให้ทันกำหนดเวลา 20.00 น. หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา วันนี้วันเดียว ส่วนนักเรียน-นักศึกษา ยังคงผ่านแดนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย