BGRIM มั่นใจนำเข้าแอลเอ็นจีลำแรกกลางปี 64


กรุงเทพฯ 28 ธ.ค. – BGRIM มั่นใจนำเข้าแอลเอ็นจีลำแรกกลางปี 64 รวมนำเข้าปีแรก 2.5 แสนตัน พร้อมขอโควต้านำเข้าเพิ่มจำหน่ายก๊าซอุตสาหกรรม เผยเจรจาหลายโครงการหากสำเร็จจะมีกำลังผลิตเพิ่มปี 64 ราว 1 พันเมกะวัตต์ คาด โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ไม่กระทบกำลังผลิตอุตสาหกรรมหลังรอบแรกกำลังผลิตภาคอุตฯของประเทศลดลงร้อยละ 20



นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า กล่าวว่า BGRIM กำลังทำแผนลงทุน 10 ปี เพื่อเตรียมพร้อมการดำเนินงานในอนาคต โดยนอกจากทำธุรกิจไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศแล้ว ยังมุ่งไปสู่ธุรกิจต่อเนื่องรองรับดิจิลทัลเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงธุรกิจนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี สายส่ง ภาพรวมแล้วจะทำให้เป็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพสูง ต้นทุนต่ำพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น


ส่วนการนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี หลังจากได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. ) ให้เป็นผู้นำเข้า (ชิปเปอร์ ) 6.5 แสนตัน เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าเอสพีพีทดแทนของบริษัท5 แห่งนั้น ล่าสุด บริษัทได้เจรจากับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ พบว่ามีความต้องการเป็นลูกค้าแอลเอ็นจี ของบริษัทเพื่อนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะมีราคาขายถูก กว่าของ บมจ. ปตท. ทำให้ต้นทุนอุตสาหกรรมแข่งขันได้ดี ดังนั้น บริษัท จึงเสนอ ต่อ กกพ.ขอนำเข้าในปริมาณสูงขึ้น เชื่อว่าจะได้รับความเห็นชอบ



ทั้งนี้ BGRIM คาดว่าการนำเข้าแอลเอ็นจีของบริษัท จะเกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2564 เป็นต้นไป ในปริมาณนำเข้าปีแรก 2.5 แสนตัน และเพิ่มเป็น 3.5 และ 6.5 แสนตัน/ปี ตามลำดับในปี 2565 และปี 2566 ซึ่งชิปเปอร์รายใหม่ทุกราย ขณะนี้รอคณะทำงานด้านการนำเข้าแอลเอ็นจี ซึ่งมี นายณอคุณ สิทธิพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ที่จะกำหนดหลักเกณฑ์ทั้งหมด ให้เสร็จสิ้นภายใน เดือน ม.ค.64 ในขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนนำเข้าแอลเอ็นจี เพื่อป้อนโรงไฟฟ้าไอพีพีใน เวียดนาม 2-3 พันเมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐบาลเวียดนาม


“BGRIM เจรจากับผู้จำหน่ายแอลเอ็นจีในตลาดโลก 20 ราย ได้ราคาที่ดี โดยทำสัญญาระยะยาว ร้อยละ 70-80 และสัญญาระยะสั้น ( SPOT ) ร้อยละ 20 ซึ่งจากปี 64 ที่โควิด-19 มีผลต่อราคาแอลเอ็นจีให้ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้บริษัทได้ราคาที่ต่ำ และทำให้ต้นทุนนำเข้า ต้นทุนค่าไฟฟ้าถูกลง” นายลิงค์กล่าว
นายลิงก์ กล่าวด้วยว่า คาดว่าการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่จะไม่กระทบต่อกำลังผลิตอุตสาหกรรม เหมือนกับการระบาดรอบแรก ที่ทำให้ เดือน พ.ค. 63 กำลังผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศลดลงกว่าร้อยละ 20 เนื่องจากขณะนี้กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีการย้ายฐานการผลิตมาไทยเพราะมั่นใจระบบการป้องกันโควิด-19 ของไทยที่ดี ในขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นสัดส่วนลูกค้าของบริษัทร้อยละ 57 และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ก็มีกำลังผลิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้เดือน พ.ย. 63 กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมมีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจากบริษัทโตขึ้นถึงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ 62


นายลิงค์ กล่าวด้วยว่า ในขณะนี้ได้เจรจา เพื่อซื้อกิจการ ผู้ผลิตไฟฟ้าโรงไฟฟ้าเอสพีพีทดแทน 3 ราย คาดว่าจะรู้ผลในไตรมาส 1 /64 หลังจากก่อนหน้านี้ บริษัทประสบความสำเร็จในการซื้อกิจการเอสพีพี มาแล้ว 3 ราย ทำให้ขณะนี้บริษัทมีเอสพีพีรวม 20 แห่ง และมีการร่วมมือกับพันธมิตร เช่น บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ พีอีเอ เอ็นคอม (PEA ENCOM) ปรับปรุงขยายสายส่งเป็นรูปแบบดิจิทัล และมีลูกค้าในนิคมฯต่างมาใช้บริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โรงไฟฟ้าโกลว์เอสพีพี 1 ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น BPAM ขยายกำลังผลิต จาก 124 เมกะวัตต์เป็น 280 เมกะวัตต์ โดยจำนวนนี้ขายแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 60 เมกะวัตต์



สำหรับการดำเนินธุรกิจปี 64 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 5 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในมือ และเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการและร่วมลงทุน (M&A) โครงการโรงไฟฟ้าใหม่ ราว 900-1,000 เมกะวัตต์ (MW) ทั้งในและต่างประเทศ คาดจะมีหลายโครงการเจรจาเสร็จสิ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/64 จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือ 3,682 เมกะวัตต์ เป็นกำลังผลิตที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 3,089 เมกะวัตต์ และมีแผนขยายกำลังผลิตไปสู่เป้าหมาย 7,200 เมกะวัตต์ภายในปี 68 โครงการที่ เจรจา M&A เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ในมาเลเซีย ขนาด 200-350 เมกะวัตต์ ,การเจรจาร่วมทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในเวียดนาม 1-2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 100-200 เมกะวัตต์ การเจรจาเพื่อร่วมทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในเกาหลีใต้ ในขณะที่ในไตรมาส 1/64 มีแผนจะเปิดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 16 เมกะวัตต์ ที่จ.มุกดาหาร และวันนี้ บริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าประสบความสำเร็จในการลงทุนในกัมพูชา โดย บริษัท บี.กริม โซลาร์ เพาเวอร์ 1 จำกัด (บริษัทย่อยที่ บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้น 100%) ได้เข้าถือหุ้นสัดส่วน 100% ในบริษัท เรย์ เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองศรีโสภณ จังหวัดบันทายมีชัย (หรือ บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย) ประเทศกัมพูชา ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 39 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะเวลา 20 ปี กับ การไฟฟ้าประเทศกัมพูชา (Electricite Du Cambodge – EDC) และได้รับอนุมัติให้สามารถดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิย์ (COD) เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบกระทรวงเกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวงตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา และโครงการล้งแห่งชาติ […]

มทภ.2 เผย “ในหลวง” ทรงติดตามกองทัพสู้ศึกชายแดน ถวายรายงานทุกวัน

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” บรรยายพิเศษ รร.สาธิต ม.เกษตรฯ เผย “ในหลวง” องค์จอมทัพไทย ทรงติดตามกองทัพ สู้ศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุถวายรายงานสถานการณ์ทุกวัน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาและบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก และคนไทยทุกคน พล.ท.บุญสิน เล่าถึงสถานการณ์ทหารแนวหน้าให้เด็กๆ ฟัง พี่เขาฝากมาว่า หากพี่น้องคนไทยสู้ ลูกหลานเราสู้ พี่ๆ ทหารก็สู้ พี่ๆ ทหารฝากบอกว่าไม่ต้องห่วงพวกผม ขอเพียงกำลังใจจากคนไทยเท่านั้น นี่คือทหารไทย เมื่อถึงเวลามีจิตวิญญาณของพระนเรศวร พวกเราไม่ต้องหวังว่าสถานการณ์ทหารไทยจะสู้หรือไม่ ชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อแผ่นดินที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้ เราจะต้องปกป้อง ใครรุกล้ำดินแดนของเรา ต้องผลักดันออกไป ยืนยันว่าเราไม่ได้รุกล้ำประเทศอื่น เรารบในประเทศไทยทั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน โดยกองงานของพระองค์ ได้สอบถามสถานการณ์จากแม่ทัพ และได้รายงานทุกวัน สิ่งเหล่านี้คือจอมทัพไทย และตั้งแต่ประวัติศาสตร์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์นำกองทัพ และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม ดังนั้นทหารทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อชาติทุกคน […]

รวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมพวก ตามหมายจับคดีรุกป่า

14 ส.ค.- “บิ๊กเต่า” บุกรวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมเมียและพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 กรณีรุกที่ดินนิคมลำโดมน้อย สร้างรีสอร์ต เมื่อวันที่ 14 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี เข้าควบคุมตัวนายยุทธพล ศรีสมพงษ์ และนางสาวจิราพร สีบุระ ภรรยา พร้อมพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 ในความผิด ม.157 ซึ่งบัญญัติว่าด้วยความผิดของเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหา เมื่อปี 2564 นายยุทธพล (จอนนี่) และภรรยา ได้ทำการซื้อที่ดินว่างไม่มีเอกสารสิทธิใน ต.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี และก่อสร้างรีสอร์ตโดยไม่ขออนุญาต ซึ่งทางนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยแจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ส่วนกลาง 20% ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดที่ดินฯ แต่ทั้งสองยังคงดำเนินการร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน จัดประชาคมและรับรองเท็จว่าที่ดินไม่มีข้อพิพาท ไม่อยู่ในเขตป่าสงวน พร้อมแก้ไขเอกสารเพื่อปกปิดข้อเท็จจริง รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบต. ได้รับรองสิ่งปลูกสร้างแม้ทราบว่าไม่ได้รับอนุญาต […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]