BGRIM มั่นใจนำเข้าแอลเอ็นจีลำแรกกลางปี 64


กรุงเทพฯ 28 ธ.ค. – BGRIM มั่นใจนำเข้าแอลเอ็นจีลำแรกกลางปี 64 รวมนำเข้าปีแรก 2.5 แสนตัน พร้อมขอโควต้านำเข้าเพิ่มจำหน่ายก๊าซอุตสาหกรรม เผยเจรจาหลายโครงการหากสำเร็จจะมีกำลังผลิตเพิ่มปี 64 ราว 1 พันเมกะวัตต์ คาด โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ไม่กระทบกำลังผลิตอุตสาหกรรมหลังรอบแรกกำลังผลิตภาคอุตฯของประเทศลดลงร้อยละ 20



นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า กล่าวว่า BGRIM กำลังทำแผนลงทุน 10 ปี เพื่อเตรียมพร้อมการดำเนินงานในอนาคต โดยนอกจากทำธุรกิจไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศแล้ว ยังมุ่งไปสู่ธุรกิจต่อเนื่องรองรับดิจิลทัลเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงธุรกิจนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี สายส่ง ภาพรวมแล้วจะทำให้เป็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพสูง ต้นทุนต่ำพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น


ส่วนการนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี หลังจากได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. ) ให้เป็นผู้นำเข้า (ชิปเปอร์ ) 6.5 แสนตัน เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าเอสพีพีทดแทนของบริษัท5 แห่งนั้น ล่าสุด บริษัทได้เจรจากับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ พบว่ามีความต้องการเป็นลูกค้าแอลเอ็นจี ของบริษัทเพื่อนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะมีราคาขายถูก กว่าของ บมจ. ปตท. ทำให้ต้นทุนอุตสาหกรรมแข่งขันได้ดี ดังนั้น บริษัท จึงเสนอ ต่อ กกพ.ขอนำเข้าในปริมาณสูงขึ้น เชื่อว่าจะได้รับความเห็นชอบ



ทั้งนี้ BGRIM คาดว่าการนำเข้าแอลเอ็นจีของบริษัท จะเกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2564 เป็นต้นไป ในปริมาณนำเข้าปีแรก 2.5 แสนตัน และเพิ่มเป็น 3.5 และ 6.5 แสนตัน/ปี ตามลำดับในปี 2565 และปี 2566 ซึ่งชิปเปอร์รายใหม่ทุกราย ขณะนี้รอคณะทำงานด้านการนำเข้าแอลเอ็นจี ซึ่งมี นายณอคุณ สิทธิพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ที่จะกำหนดหลักเกณฑ์ทั้งหมด ให้เสร็จสิ้นภายใน เดือน ม.ค.64 ในขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนนำเข้าแอลเอ็นจี เพื่อป้อนโรงไฟฟ้าไอพีพีใน เวียดนาม 2-3 พันเมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐบาลเวียดนาม


“BGRIM เจรจากับผู้จำหน่ายแอลเอ็นจีในตลาดโลก 20 ราย ได้ราคาที่ดี โดยทำสัญญาระยะยาว ร้อยละ 70-80 และสัญญาระยะสั้น ( SPOT ) ร้อยละ 20 ซึ่งจากปี 64 ที่โควิด-19 มีผลต่อราคาแอลเอ็นจีให้ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้บริษัทได้ราคาที่ต่ำ และทำให้ต้นทุนนำเข้า ต้นทุนค่าไฟฟ้าถูกลง” นายลิงค์กล่าว
นายลิงก์ กล่าวด้วยว่า คาดว่าการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่จะไม่กระทบต่อกำลังผลิตอุตสาหกรรม เหมือนกับการระบาดรอบแรก ที่ทำให้ เดือน พ.ค. 63 กำลังผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศลดลงกว่าร้อยละ 20 เนื่องจากขณะนี้กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีการย้ายฐานการผลิตมาไทยเพราะมั่นใจระบบการป้องกันโควิด-19 ของไทยที่ดี ในขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นสัดส่วนลูกค้าของบริษัทร้อยละ 57 และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ก็มีกำลังผลิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้เดือน พ.ย. 63 กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมมีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจากบริษัทโตขึ้นถึงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ 62


นายลิงค์ กล่าวด้วยว่า ในขณะนี้ได้เจรจา เพื่อซื้อกิจการ ผู้ผลิตไฟฟ้าโรงไฟฟ้าเอสพีพีทดแทน 3 ราย คาดว่าจะรู้ผลในไตรมาส 1 /64 หลังจากก่อนหน้านี้ บริษัทประสบความสำเร็จในการซื้อกิจการเอสพีพี มาแล้ว 3 ราย ทำให้ขณะนี้บริษัทมีเอสพีพีรวม 20 แห่ง และมีการร่วมมือกับพันธมิตร เช่น บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ พีอีเอ เอ็นคอม (PEA ENCOM) ปรับปรุงขยายสายส่งเป็นรูปแบบดิจิทัล และมีลูกค้าในนิคมฯต่างมาใช้บริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โรงไฟฟ้าโกลว์เอสพีพี 1 ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น BPAM ขยายกำลังผลิต จาก 124 เมกะวัตต์เป็น 280 เมกะวัตต์ โดยจำนวนนี้ขายแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 60 เมกะวัตต์



สำหรับการดำเนินธุรกิจปี 64 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 5 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในมือ และเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการและร่วมลงทุน (M&A) โครงการโรงไฟฟ้าใหม่ ราว 900-1,000 เมกะวัตต์ (MW) ทั้งในและต่างประเทศ คาดจะมีหลายโครงการเจรจาเสร็จสิ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/64 จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือ 3,682 เมกะวัตต์ เป็นกำลังผลิตที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 3,089 เมกะวัตต์ และมีแผนขยายกำลังผลิตไปสู่เป้าหมาย 7,200 เมกะวัตต์ภายในปี 68 โครงการที่ เจรจา M&A เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ในมาเลเซีย ขนาด 200-350 เมกะวัตต์ ,การเจรจาร่วมทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในเวียดนาม 1-2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 100-200 เมกะวัตต์ การเจรจาเพื่อร่วมทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในเกาหลีใต้ ในขณะที่ในไตรมาส 1/64 มีแผนจะเปิดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 16 เมกะวัตต์ ที่จ.มุกดาหาร และวันนี้ บริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าประสบความสำเร็จในการลงทุนในกัมพูชา โดย บริษัท บี.กริม โซลาร์ เพาเวอร์ 1 จำกัด (บริษัทย่อยที่ บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้น 100%) ได้เข้าถือหุ้นสัดส่วน 100% ในบริษัท เรย์ เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองศรีโสภณ จังหวัดบันทายมีชัย (หรือ บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย) ประเทศกัมพูชา ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 39 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะเวลา 20 ปี กับ การไฟฟ้าประเทศกัมพูชา (Electricite Du Cambodge – EDC) และได้รับอนุมัติให้สามารถดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิย์ (COD) เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย