สินค้าของหวาน-ของใช้ไทยยังเจาะอินเดียได้


นนทบุรี 19 พ.ย. – พาณิชย์เผยสินค้า “ของหวาน-ของใช้-ของแต่งบ้าน-เครื่องประดับ” มีโอกาสเพิ่มยอดส่งออกตลาดอินเดีย


นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยว่า ได้รับรายงานถึงทิศทางธุรกิจค้าปลีกในตลาดอินเดียในช่วงเทศกาลและพิธีการต่างๆ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครมุมไบ โดยได้แจ้งถึงโอกาสในการเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าในกลุ่มของหวาน ของใช้ในชีวิตประจำวัน ของตกแต่งบ้าน และเครื่องประดับ เพื่อป้อนตลาดผู้บริโภคชาวอินเดีย ที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเทศกาลและพิธีการต่างๆ ที่ได้เริ่มมาตั้งแต่เดือนต.ค.2563 และจะมียาวไปจนถึงเดือนธ.ค.2563 รวมถึงต้นปีที่มักจะมีพิธีการแต่งงานไปจนถึงสิ้นฤดูหนาวในเดือนมี.ค.2564

ทั้งนี้ กลุ่มผู้บริโภคชาวอินเดีย นิยมซื้อหาของขวัญให้แก่กันตั้งแต่เดือนก.ย.2563 โดยของที่มอบในโอกาสพิเศษอาจเป็นของนำเข้า อาทิ ขนม ผลไม้ และช็อกโกแลตนำเข้า โดยสินค้าไทยนอกจากผลไม้อบแห้งแล้ว ยังมีสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ คือ ขนมประเภทบิสกิต คุ้กกี้ ซึ่งคนอินเดียนิยมทานขนมที่มีความกรอบร่วมกับชานม (Chai) โดยผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ควรศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคและปรับสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสส่งออกได้


น.ส.สุพัตรา แสวงศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครมุมไบ กล่าวว่า ยอดขายในเดือนเทศกาล ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. ของทุกปี จะเป็นช่วงที่มีการซื้อหาของขวัญและจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในอินเดีย โดยอดขายในช่วงนี้จะมีสัดส่วนสูงถึงประมาณ 35% ของยอดขายตลอดทั้งปีของธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 10% ของ GDP และ 8% ของการจ้างงานทั้งหมดในอินเดีย ดังนั้น ช่วงเวลาแห่งเทศกาลนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจอินเดีย

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าในเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ผู้บริโภคเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทำให้รัฐเก็บภาษีสินค้าและบริการ (GST) ได้เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า และในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่มีเทศกาลนวราตรี (17-25 ต.ค.) และวันดุชเซห์รา (25 ต.ค.) หรือที่เรียกว่า Navratri-Dussehra Period พบว่ามีสัญญาณบวกในการบริโภคที่เพิ่มขึ้นเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ในขณะที่ดัชนีผู้จัดการจัดซื้อ (Purchasing Manager Index) ก็ปรับตัวดีขึ้นด้วยเช่นกัน

สำหรับยอดขายรถยนต์ในช่วง Navratri-Dussehra พบว่าเพิ่มขึ้น 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรถยนต์หรู (Mercedes) ขายได้ประมาณ 550 คัน ในขณะเดียวกันรถยนต์ Hyundai มียอดขายเพิ่มขึ้น 28% โดยเฉพาะรถ SUV และผลการศึกษาของ RedSeer Consulting คาดการณ์ในช่วง 1 เดือนก่อนเทศกาล Diwali หรือวันขึ้นปีใหม่ของอินเดีย (ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 14 พ.ย.) คาดว่ายอดค้าปลีกในอินเดียจะมีมูลค่าประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 84 จากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ยอดขายรวมทั้งปี 2563 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 41 ด้วย


อย่างไรก็ตาม การช็อปปิ้งในช่วงนี้จะทำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เช่น Amazon , Flipkart , Reliance JioMart , Myntra , Pepperfry (เฟอร์นิเจอร์) , Nykaa (เครื่องสำอาง บำรุงผิวและบำรุงผม) และ FirstCry (สินค้าสำหรับเด็ก) โดยสินค้าที่คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น ในเดือนพ.ย. นี้ คือ สินค้าประเภทของหวาน โดยเฉพาะบิสกิต และคุ้กกี้ แบบไม่ใส่ไข่ ขนมแบบตุรกีผลไม้อบแห้งแบบต่างๆ และช็อคโกแลต รวมทั้งของขวัญแบบดั้งเดิมของอินเดีย ขณะที่เครื่องประดับ คาดว่าจะกลับมาขยายตัวก่อนเทศกาล Akshay Trithiya ในต้นเดือนก.พ.ของทุกปี

ทั้งนี้ ในปี 2562 อินเดียนำเข้าบิสกิต จากอินโดนีเซียและมาเลเซียเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ รวมทั้งจากสิงคโปร์และเวียดนาม ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 15 ด้วยมูลค่าการนำเข้า 1 แสนเหรียญสหรัฐ และอินเดียเป็นผู้ผลิตบิสกิตอันดับที่ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และจีน แม้ว่าอินเดียจะผลิตได้มาก แต่ก็มีความต้องการบริโภคมากด้วยเช่นกัน โดยผลการศึกษาของแนวโน้มการบริโภคบิสกิตของ Bonafide Market Research Reports พบว่าตลาดบิสกิตในช่วงปี 2561 –2566 จะขยายตัวเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6 ต่อปี โดยผู้บริโภคคาดหวังสินค้าที่มีความแปลกใหม่และหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม

กระบี่ 23 พ.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามสั่งเด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในคำสั่งให้ นางนันทิชา เกิดแก้ว นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ช่วยราชการ ที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังจากช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” บุกทลายบ่อนกลางสวนปาล์ม พื้นที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จับกุมนักพนันได้กว่า 70 คน เบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนนักพนันทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลแพ่งจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว .-สำนักข่าวไทย

จับตาศาลชี้ชะตา “คดีแตงโม” จำเลยมาตามนัดพร้อมเพรียง

นนทบุรี 23 พ.ค.- ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ขณะที่จำเลยต่างเดินทางมาศาลอย่างพร้อมเพรียง. -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด […]

นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดใหม่ ดึง นทท.เข้าไทย

ลอนดอน 22 พ.ค. – นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ตั้งเป้าปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้เป็น Tourism Hub ระดับโลก ชี้ 4 เดือนแรก นักท่องเที่ยวยุโรปเข้าไทยแล้วกว่า 3.5 ล้านคน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัทท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร ผู้บริหารสายบิน เป็นต้น เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของไทย จากนั้น น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า ปีนี้ไทยตั้งเป้าเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้ไทยเป็น Tourism Hub ระดับโลก ที่ผ่านมารัฐบาลทำแคมเปญหลายอย่าง โดยเฉพาะการมุ่งเป้าทำให้การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคนต่อทริป (Spending […]