ตรวจร้านแฟรนไชส์ต้นแบบด้านอาชีพ


ภูเก็ต 2 พ.ย. – รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ตรวจร้านแฟรนไชส์ต้นแบบ หวังดึงจุดแข็งธุรกิจสร้างฐานที่มั่นด้านอาชีพเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น


นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ใน จ.ภูเก็ต ว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ธุรกิจในจังหวัดได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่มีรายได้ลดลง และบางส่วนต้องหยุดกิจการลงชั่วคราว ส่วนตัวมองว่าเศรษฐกิจ จ.ภูเก็ต ยังสามารถเดินต่อไปได้ แต่ต้องอาศัยกำลังซื้อจากภายในประเทศเป็นหลัก รวมถึง มีการขยายธุรกิจในรูปแบบต่างๆ ที่มีความหลากหลาย เป็นธุรกิจที่สามารถดำเนินการได้ทันที การลงทุนมีให้เลือกตามกำลังทุนทรัพย์ ซึ่ง ‘แฟรนไชส์’ ถือเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์นักลงทุนในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ทำได้ง่าย ผู้ประกอบการสามารถนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไปต่อยอดดำเนินการได้ทันที ลดความเสี่ยงจากการเริ่มต้นประกอบธุรกิจใหม่ สามารถเลือกลงทุนได้ตามความต้องการและความเหมาะสมกับเงินทุนที่มีอยู่ มีพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาตลอดการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ คือ บริษัท เจ.ดี.พูลส์ จำกัด เป็นบริษัทที่ริเริ่มนำมาตรฐานใหม่ของสระว่ายน้ำมาสู่ประเทศไทย โดยได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการให้บริการที่ครบวงจรแบบ One Stop Services ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้งอุปกรณ์ และติดตามดูแลรักษาสระว่ายน้ำตลอดอายุการใช้งาน โดยบริษัทฯ ได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว รวมทั้ง มีโอกาสเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ (Franchise Go inter) ปัจจุบันสามารถขยายธุรกิจไปตลาดต่างประเทศแล้ว 6 ประเทศ คือ ประเทศเมียนมาร์ ลาว เวียดนาม กัมพูชา อินเดีย และอิหร่าน ล่าสุดได้รับรางวัลธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่มีความโดดเด่นเฉพาะด้าน : รางวัลแฟรนไชส์ไทยนวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation Franchise) ในงาน Thailand Franchise Award 2020 :TFA 2020 และเป็นบริษัทฯ สร้างสระว่ายน้ำแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐาน ISO:9000 จากสถาบัน AJA Registrars Ltd. เป็นสิ่งการันตีถึงความมีมาตรฐานระดับสากลได้เป็นอย่างดี


อย่างไรก็ตาม ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมธุรกิจแฟรนไชส์ขนาดเล็ก (ใช้เงินลงทุนไม่มาก) ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วเช่นกัน คือ ชาบังนัน เป็นธุรกิจชาต้นตำรับจากจังหวัดปัตตานี ประกอบธุรกิจภายใต้สโลแกน “หอมกรุ่นละมุนชา” เป็นแฟรนไชส์สำเร็จรูปที่นำไปประกอบธุรกิจได้ทันที วัตถุดิบมีราคาคงที่..ควบคุมต้นทุนได้ง่าย ด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงจึงเหมาะกับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีเงินลงทุนไม่มาก สามารถตั้งร้านประกอบธุรกิจได้ทุกสถานที่ รวมถึง เป็นธุรกิจที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างลงตัว

“เชื่อมั่นว่า ‘ธุรกิจแฟรนไชส์’ จะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เดินต่อไปข้างหน้าด้วยความเข้มแข็ง โดยได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งนำธุรกิจแฟรนไชส์ทุกขนาดเข้ามาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนประสานผู้ประกอบการแฟรนไชส์ซอร์ (เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์) ลดราคาแรกเข้าธุรกิจให้แก่นักลงทุนที่สนใจ โดยให้คัดเลือกแฟรนไชส์ที่มีประเภทธุรกิจเหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์ปัจจุบันนำเสนอแก่นักลงทุน ซึ่งเป็นทางเลือกช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ได้ง่ายมากขึ้น” นายวีรศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินการพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ไทยให้มีความเข้มแข็งมาอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเข้มแข็ง โดยได้ดำเนินการ เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านแฟรนไชส์แก่ผู้ประกอบธุรกิจ ให้สามารถใช้ระบบแฟรนไชส์ไปขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยกระดับธุรกิจสู่มาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ โดยพัฒนาธุรกิจให้มีระบบบริหารจัดการที่มีมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง ให้มีความน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล สร้างโอกาสทางการตลาดและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ


แฟรนไชส์เป็นโมเดลธุรกิจที่นักลงทุนสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว นักลงทุนรุ่นใหม่นิยมนำไปเริ่มต้นประกอบธุรกิจ ด้วยองค์ประกอบการเริ่มต้นที่ไม่ยาก แบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จักและเป็นที่จดจำแก่ลูกค้าอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก…ต่อยอดขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ไม่ยาก ผู้ลงทุนสามารถวางรูปแบบการประกอบธุรกิจได้ด้วยตัวเองโดยมีเจ้าของแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซอร์) คอยเป็นพี่เลี้ยงตลอดการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยมีมูลค่าตลาดโดยรวมกว่า 280,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 ต่อปี โดยในแต่ละปีจะมีผู้ประกอบการรายใหม่สนใจเข้าสู่ธุรกิจแฟรนไซส์กว่า 15,000 – 20,000 ราย ปัจจุบัน มีจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์ที่เปิดดำเนินกิจการกว่า 590 กิจการ ส่วนใหญ่เป็นแฟรนไชส์กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 40 เป็นต้น . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]