ธอส.ยกระดับบริการดิจิทัล


ธอส. 24 ก.ย. – ธอส.ยกระดับบริการดิจิทัล ด้วย G H Bank New Normal Services ผ่าน 6 บริการใหม่บน App: GHB ALL พร้อมขยายมาตรการช่วยลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถึง 31 ม.ค. 64 เตรียมปล่อยกู้ สินเชื่อ Two-GEN ผ่อนนานถึง 70 ปี


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 67 ปีของ ธอส. จึงเดินหน้านโยบาย “ทำให้คนไทยมีบ้าน” หลังจากทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองกว่า 3.7 ล้านครอบครัว ธอส. ได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อ Two-GEN หรือผลิตภัณฑ์ให้เลือกผ่อนชำระได้ 2 generation หรือยาวนานสูงสุดถึง 70 ปี เพื่อให้มีบ้านเป็นของตนเองง่ายขึ้น โดยพิจารณาวงเงินให้กู้จากรายได้ของบิดา-มารดา และนำอายุของบุตรที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปมาเป็นผู้กู้ร่วม ทำให้ภาระเงินงวดรายเดือนลดลง เมื่อผ่อนชำระได้นานขึ้น จะมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อมากขึ้นเช่นกัน อาทิ กรณีวงเงินกู้ 1 ล้านบาท หากผ่อนชำระ 40 ปี เงินงวด ประมาณ 5,000 บาท/เดือน หากผ่อนได้นานสูงสุดถึง 70 ปี จำนวนเงินผ่อนชำระ 2,500-3,000 บาท/เดือน


ในอนาคตหากผู้กู้มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือบุตรที่เป็นผู้กู้ร่วมมีรายได้เข้ามาเพิ่มจากการประกอบอาชีพ สามารถผ่อนชำระเพิ่มมากขึ้น จากเงินงวดที่กำหนดได้ ทำให้สามารถปิดบัญชีเงินกู้ได้หมดก่อนระยะเวลา 70 ปี เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า เลือกจำนวนปีที่ต้องการผ่อนชำระ อาทิ 15 ปี 20 ปี 30 ปี หรือ 40 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้สุทธิของผู้กู้ เพราะได้ปิดบัญชีเร็วขึ้น
ขณะนี้ ธอส. ขอศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ในการออกสินเชื่อ Two-GEN เพื่อนำเสนอให้บอร์ด ธอส.พิจารณา รวมถึงกระทรวงการคลัง และ ธปท. พิจารณาความเหมาะสม ธอส. เตรียมวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท ด้วยการออกพันธบัตรสลากออมทรัพย์ วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท อายุ 2-3 ปี หน่วยละ 5,000 บาท มีรางวัลเลขท้าย 2-3 ตัว ให้ลุ้นรางวัลเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้



เพื่อบรรเทาผลกระทบให้แก่ลูกค้าของธนาคารจากปัญหาโควิด-19 ธอส. เตรียมช่วยเหลือ ลูกค้าครอบคลุมทั้งการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย, พักชำระเงินต้น หรือ ลดอัตราดอกเบี้ย ผ่าน 10 มาตรการของธนาคาร หลังจากมีลูกค้าเข้ามาตรการทั้งสิ้น 511,110 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 430,439 ล้านบาท แบ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเข้ามาตรการที่ 5 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 4 เดือน จำนวน 236,531บัญชี วงเงินสินเชื่อ 179,843 ล้านบาท ลูกค้ากลุ่มนี้ได้ทยอยครบกำหนดระยะเวลาการใช้มาตรการที่ 5 แล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และสิงหาคม 2563 โดยสามารถกลับมาผ่อนชำระได้ตามปกติ 91,796 บัญชี เงินต้น 65,000 ล้านบาท
จากปัญหาไวรัสโควิด-19 ยังแพร่ระบาด ที่ประชุมคณะกรรมการ ธอส.เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 มีมติขยายระยะเวลาความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายใต้ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 และ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” ระยะที่ 2 เฉพาะลูกค้าเดิมยังต้องช่วยเหลือ เปิดให้ลูกค้าเลือกแจ้งความประสงค์จำนวน 3 มาตรการ เพื่อขยายระยะเวลาความช่วยเหลือจากเดิมที่จะสิ้นสุดการช่วยเหลือในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 จะขยายระยะเวลาสิ้นสุดไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 ประกอบด้วย
มาตรการที่ 1 พักชำระเงินต้น 3 เดือน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับผู้ที่เลือกเข้ามาตรการที่ 1 ได้ต้องเป็นลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และผู้ที่ยังอยู่ระหว่างใช้ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในมาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 2” หรืออยู่ระหว่างใช้ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทยร่วมสร้างชาติ ในมาตรการที่ 1, มาตรการที่ 3 และมาตรการที่ 8”

มาตรการที่ 3 พักชำระเงินต้น 6 เดือน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 3.9% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่เลือกเข้ามาตรการที่ 3 ได้ต้องมีสถานะบัญชีปกติ และยังอยู่ระหว่างใช้ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในมาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 2” มาตรการที่ 8 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่เลือกเข้ามาตรการที่ 8 ได้ต้องยังอยู่ระหว่างใช้ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 2” หรืออยู่ระหว่างใช้ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทยร่วมสร้างชาติ มาตรการที่ 8”



ลูกค้าแจ้งความประสงค์ขอเลือกใช้มาตรการขยายระยะเวลาความช่วยเหลือได้ผ่านทาง Application : GHB ALL ระหว่างวันที่ 1-29 ตุลาคม 2563 พร้อมแสดงหลักฐานเพื่อยืนยันว่ายังมีผลกระทบทางรายได้จริงให้ธนาคารพิจารณา อาทิ สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ภาพถ่าย และ Statement เป็นต้น


ธอส.ยังได้ยกระดับให้บริการดิจิทัล รองรับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ สอดคล้องกับวิถีชีวิตปกติใหม่ ธอส. จึงจัดทำโครงการ “G H Bank New Normal Services” (Phase 1) ด้วยการพัฒนาฟังก์ชั่นบริการเพิ่มเติม ทั้งทางด้านการเงินและสินเชื่อเพื่อให้ลูกค้าทำธุรกรรมได้แบบง่าย ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลด้วย Mobile Application : GHB ALL ขณะนี้ได้มี ลูกค้าสมัครใช้ App: GHB ALL และยังใช้งาน 710,318 บัญชี ทำการโอนเงินและชำระหนี้เงินกู้ผ่าน GHB ALL จำนวน 590,769 รายการ เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 62 ที่มีการทำธุรกรรม 375,981 รายการ หรือเพิ่มขึ้นถึง 57.13%

สำหรับฟังก์ชั่นบริการเพิ่มเติมในเฟส 1 ประกอบด้วย

1.ซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ให้บริการได้ทั้งการซื้อสลากครั้งแรกหลังเปิดบัญชีสลากที่สาขา หรือลูกค้าเดิมที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม หลังจากเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2563 มีลูกค้าซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ หน่วยละ 50,000 บาท ผ่าน GHB ALL จำนวนกว่า 5,500 หน่วย ล่าสุด ธอส. ได้จัดทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสลากผ่าน App: GHB ALL ในวันที่ 24 กันยายน 2563 รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.1% ต่อปี (จากปกติอัตราดอกเบี้ย 0.90% ต่อปี) ภายใต้กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท และการเปิดรับซื้อสลาก ธอส. ชุดต่อไปจะเปิดให้ลูกค้าซื้อผ่าน GHB ALL ต่อไป

  1. สำหรับลูกค้าต้องการนำข้อมูลบัญชีประเภทออมทรัพย์ Statement เพื่อใช้เป็นหลักฐานการอนุมัติธุรกรรมต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนตามที่ธนาคารกำหนดแล้ว ระบบจะส่ง Statement บัญชีเงินฝากตามที่ระบุไปที่ E-mail ของลูกค้า
  2. การจองคิวใช้บริการล่วงหน้า เพื่อเลือกสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ต้องการใช้บริการ ซึ่งระบบจะแสดงรายชื่อสาขาที่เรียงลำดับจากระยะทางที่ใกล้กับจุดที่ลูกค้าอยู่มากที่สุด สามารถเลือกบริการประเภทที่ต้องการพร้อมระบุวันและเวลาที่ต้องการนัดหมาย หลังจากกดยืนยันแล้วสามารถไปรอรับบริการที่สาขาในวันเวลาที่นัดหมายได้ทันที
  3. การรับใบเสร็จชำระเงินกู้แบบอิเล็กทรอนิกส์ แทนกระดาษ และจัดส่งทางไปรษณีย์ จะมีข้อมูลสำคัญเช่นเดียวกับใบเสร็จแบบกระดาษ อาทิ ยอดที่ชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และเงินต้นคงเหลือ
  4. ชำระเงินดาวน์ทรัพย์ NPA เพียงเลือกบัญชีที่ต้องการชำระพร้อมด้วยรหัสทรัพย์ NPA เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยและกดยืนยันแล้ว ธนาคารจะส่งใบเสร็จ ยืนยันชำระเงินให้กับลูกค้าต่อไป
  5. การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งเอกสาร/การติดต่อกับธนาคารโดยไม่ต้องเดินทางไปแจ้งที่สาขา ลูกค้าเลือกเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ และ E-Mail เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อที่สะดวกรวดเร็วในปัจจุบัน
    “การพัฒนาโครงการ G H Bank New Normal Services หวังรองรับไลฟ์สไตล์ยุค New Normal ใน Phase 2 เตรียมขยายบริการ เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ขอหนังสือรับรองภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ขอหนังสือรับรองภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ แจ้งความประสงค์กู้เพิ่ม ตรวจสอบข้อมูลเครดิต รับเงินของขวัญปีใหม่ของธนาคาร (Cash Back) แจ้งขอหนังสือรับรองเพื่อเบิกค่าเช่าบ้านหรือขอหนังสือรับรองตามยอดที่เบิกได้ และนัดวันรับโฉนด เป็นต้น คาดเริ่มให้บริการได้ภายในเดือนธันวาคม 2563 ตั้งเป้าหมาย สิ้นปี 2563 มีจำนวนลูกค้าโอนเงินและชำระหนี้เงินกู้ผ่าน GHB ALL เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 756,300 รายการ หรือเพิ่มขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ จากสิ้นปี 2562” นายฉัตรชัยกล่าว . – สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]