ดีอีเอสเข้ม ใช้ กม.เอาผิดแพลตฟอร์ม ตปท.ไม่ลบเนื้อหาตามคำสั่งศาลไทย

ดีอีเอส 10 ส.ค. – ดีอีเอสเข้ม ทั้งคดีอาญา-ปรับเงิน แพลตฟอร์มต่างประเทศ และผู้ให้บริการอินเตอร์เนตในประเทศไทย ที่ไม่ปิดเว็บ หรือลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมตามคำสั่งศาลไทย ภายใน 15 วัน เชื่อ ลดปัญหาเว็บเพจที่ไม่เหมาะสมได้ เผย เม.ย.-มิ.ย. มีเพจเฟซบุ๊กจำนวน 1,129 ชิ้น ยังไม่มีการลบตามคำสั่งศาลไทย


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลง ผลการเปิดเพจเฟซบุ๊ก “อาสาจับตาออนไลน์” ว่า หลังเปิดเพจตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพียงสัปดาห์แรก มีประชาชนแจ้งเบาะแส สื่อสังคมออนไลน์ เว็บผิดกฎหมายเข้ามาจำนวน 1,050 รายการ หลังผ่านกระบวนการตรวจสอบ และรวบรวมพยานหลักฐาน มีประมาณ 317 รายการ ที่เห็นว่าเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และได้ยื่นศาลขอปิดกั้น จำนวน 181 รายการ และศาลมีคำสั่งแล้ว 7 รายการ

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ให้นโยบายกับฝ่ายปฏิบัติ ว่าหลังรับเรื่องร้องเรียนแล้ว จะต้องมีการตรวจสอบ และรวบรวมหลักฐานต่างๆ ให้แล้วเสร็จ ภายใน 48 ชั่วโมง และส่งให้ศาลอนุมัติคำสั่ง เพื่อตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และตำรวจที่เกี่ยวข้อง จะได้ไปจับกุมผู้กระทำผิดได้โดยเร็ว รวมทั้ง ส่งต่อไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศ และผู้ให้บริการอินเตอร์เนตในประเทศไทย ทำการปิดเว็บ หรือลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยที่ผ่านมาเฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2563 ได้รับแจ้ง 8,715 เว็บ และส่งศาลเพื่อออกคำสั่งไปแล้วทั้งสิ้น 7,164 เว็บ


“ที่ผ่านมา เมื่อเราส่งคำสั่งศาลให้ปิดหรือลบออกไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ยูทูป กูเกิ้ล หรืออื่นๆ ถ้าเขาไม่ดำเนินการ ก็ปล่อยไว้อย่างนั้น แต่วันนี้เราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ถ้าภายใน 15 วัน ที่เราส่งคำสั่งศาลไป แล้วไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลไทย ที่ให้ปิดหรือลบออก เราจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา27 ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตำรวจจะรับไปดำเนินคดีอาญาทันที” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ วันนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อเปรียบเทียบปรับ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อำนาจในการปรับต่อครั้ง ต่อชิ้นโดยรวมไม่เกิน 200,000 บาท และสามารถปรับต่อชิ้นรายวันได้อีก ไม่เกิน 5,000 บาท ฉะนั้นทุกๆ รายการที่ส่งคำสั่งศาลไป ถ้าภายใน 15 วัน ไม่มีใครลบ หรือทำตามคำสั่งศาล เราก็จะเข้าสู่กระบวนการเหล่านี้ทันที

นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า จากที่รวบรวมช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คือตั้งแต่เมษายนถึงมิถุนายน มีเพจเฟซบุ๊กจำนวน 1,129 ชิ้น ยังไม่มีการลบตามคำสั่งศาลไทย จึงได้ลงนามส่งจดหมายแจ้งไปแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ว่าที่ผ่านมาเขายังไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลไทย เป็นการให้โอกาสเขาอีกที ถ้า 15 นับจากนี้เขายังไม่ดำเนินการลบ เราก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งคดีอาญา และโทษปรับ เชื่อว่าการปรับเปลี่ยนรูปแบบกดดัน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จะลดปัญหาเว็บเพจที่ไม่เหมาะสมได้ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ