ตร.ปัดจับกุม3เยาวชนแกนนำ จ.พิษณุโลก ท่ี่ออกมาเคลื่อนไหว

กรุงเทพฯ 10 ส.ค.- รองโฆษก ตร.ยันไม่มีการจับกุม 3 เยาวชนแกนนำ จ.พิษณูโลก หลังออกมาเคลื่อนไหวเชิงสัญญลักษณ์ จนมีการโพลต์อ้างหายตัวอย่างไร้ร่องรอย แนะผู้ปกครองหากยังติดต่อไม่ได้ให้แจ้งความ


       พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึง กรณีที่ สหภาพนักเรียนนิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความในสื่อออนไลน์ว่า “ด่วน!!! เยาวชนแกนนำที่จะจัดกิจกรรมในจังหวัดพิษณุโลก หายตัว ติดต่อไม่ได้ 3 คน …” และ “ อัพเดทล่าสุด อุ้มไปไว้ในค่าย ตชด.. เพื่องานล่ม!!!…” เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 63  นั้น

            จากการตรวจสอบ กรณีที่ได้มีการโพสต์ข้อความ การหายตัวไปของเยาวชนแกนนำที่จะจัดกิจกรรมในพิษณุโลก จำนวน 3 คน ดังกล่าว ไม่พบเป็นการดำเนินคดีหรือการควบคุมตัวผู้ใด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือฝ่ายความมั่นคง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด และขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครองของเยาวชนแกนนำดังกล่าว ว่าสามารถติดต่อเยาวชนแกนนำได้หรือไม่  หากไม่สามารถติดต่อได้ผู้ปกครองสามารถไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เยาวชนแกนนำมีภูมิลำเนา เพื่อติดตามตัวเยาวชนแกนนำดังกล่าวได้ 


       โดยเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2563 เวลา 16.00 น. กลุ่มนักศึกษาในนาม “พิษณุโลกคนกล้าไม่ก้มหน้าให้เผด็จการ” ทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ณ บริเวณวัดพระศรีมหาธาตุฯ (วัดใหญ่) มีผู้เข้าร่วม 14 คน ทำกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 – 17.00 น. และ การจัดกิจกรรมที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 63 (ตบยุงไล่ลุง) ครั้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการออกหมายจับและจับกุมหรือควบคุมตัวผู้ทำกิจกรรมแต่อย่างใด

      รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ขอฝากไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ออกมาจัดกิจกรรม เพื่อเรียกร้อง สนับสนุน คัดค้านหรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ เป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่สามารถกระทำได้ ตามระบอบวิถีประชาธิปไตย หากแต่ต้องกระทำภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนด ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด รวมถึงต้องไม่ไปกระทบสิทธิผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกระทำ พฤติกรรม ในลักษณะที่ยั่วยุ ก้าวร้าว หยาบคาย หรือ สร้างความเกลียดชัง ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ซึ่งอาจมีความผิดตามกฎหมาย

      อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในทุกพื้นที่ที่มีการจัดการชุมนุม จะคอยกำกับดูแลความสงบเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แทรกซ้อน หรือ เหตุสุ่มเสี่ยงต่างๆ โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรให้ประชาชนทั่วไปสามารถสัญจรไปมาได้ปกติ รวมถึง รวบรวมข้อมูลการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือการกระทำที่ไปกระทบสิทธิกับผู้อื่น ตลอดจน สืบสวนหาข่าวของกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดี ที่อาจสร้างสถานการณ์ในขณะที่มีการชุมนุม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยมากที่สุดในทุกมิติ


      ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชน โปรดใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณในการรับฟัง ข้อมูลข่าวสารทางช่องทางต่างๆและ ฝากไปยังสื่อหรือผู้ที่นำข้อมูลข่าวสารออกเผยแพร่หรือเสนอข่าว ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนเผยแพร่ เนื่องจากการเผยแพร่หรือแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และยังทำให้สังคมเกิดความสับสนและประชาชนเกิดความตื่นตระหนกและสับสน จากข่าวสารหรือข้อมูลผิดๆ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

บุญทรงรายงานตัว

“บุญทรง” รายงานตัวครั้งแรกหลังได้พักโทษ

“บุญทรง” รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติครั้งแรก หลังได้รับการพักโทษจากคดีทุจริตจำนำข้าว ด้านลูกชายเผยพ่อตั้งใจบวชหลังพ้นโทษ

ชุมนุมเกาหลีใต้

นายกฯ ขอคนไทยในเกาหลีใต้ เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม

“นายกฯ แพทองธาร” ขอคนไทยในเกาหลีใต้ ระมัดระวังหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสถานทูตใกล้ชิด หวังสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

อัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว

อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนสู่ไทย

“ชูศักดิ์” นำคณะผู้แทนไทยเดินทางไปยังวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง ระหว่าง 5 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68