รัฐสภา 22 ก.ย.-สว.พิสิษฐ์ รอคุยวิป 3 ฝ่าย เคาะวันแถลงนโยบาย คาดแถลงสัปดาห์หน้าใช้เวลา 2 วัน หวัง รัฐบาลให้ความสำคัญกับปากท้องประชาชนมากกว่า กลั่นแกล้งฝั่งตรงข้าม- แทรกแซงคดี
นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. และโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า วันอังคารหรือพุธนี้จะมีการหารือกันก่อน โดยเป็นการประชุมวิปทั้ง 3 ฝ่าย คือฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลและวุฒิสภา เพื่อกำหนดกรอบการประชุมและกำหนดเวลาของแต่ละฝ่าย ส่วนประเด็นในการอภิปรายนั้นหลักๆ คือเรื่องการแถลงนโยบายที่รัฐบาลนายอนุทินได้เสนอ และประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งนี่คือ 2 เรื่องหลัก ที่วุฒิสภาจะอภิปราย
ซึ่งยังไม่มีการกำหนดคนที่จะมาอภิปราย ต้องรอดูโควตาว่าสส.และสว.จะได้ผู้อภิปรายเท่าไหร่ ทั้งนี้คาดว่าการแถลงนโยบายน่าจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า เพราะนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ออกมาบอกแล้วว่าวันที่ 25 ก.ย. นี้ไม่ทัน และอีกอย่างยังไม่เคยคุยกันในวิปทั้ง 3 ฝ่าย เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นช่วง 29-30 ก.ย. หรือ 30 ก.ย.- 1 ต.ค. โดยคาดว่าการอภิปรายจะจบภายใน 2 วัน เนื่องจากวันที่ 29-30 ก.ย. ตรงกับวันประชุมวุฒิสภาอยู่แล้ว ส่วนที่ 1-2 ต.ค. ตรงกับวันประชุมสภาผู้แทนราษฎรอาจจะใช้ฝั่งละ 1 วัน
เมื่อถามว่าวุฒิสภาคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ที่จะอยู่เพียงแค่ 4 เดือนอย่างไรบ้างนั้น นายพิสิษฐ์กล่าวว่า 4 เดือนน้อยมากแต่ก็ทนมา 2 ปีแล้ว
“เพราะฉะนั้นก็หวังว่า 4 เดือนรัฐบาลจะตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ไปกลั่นแกล้ง แต่เรื่องจะกำจัดฝ่ายตรงข้าม คงไม่ต้องบอกว่าเรื่องอะไรบ้าง และอยากให้เน้นเรื่องปากท้องของประชาชนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่งเราเที่ยวด้วยกัน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ อยากให้รัฐบาลมุ่งเน้นเป็นหลัก 4 เดือนนี้ไม่เยอะเลย แต่ก็อยากให้เห็นผลเพราะใกล้จะปีใหม่แล้ว” นายพิสิษฐ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่รัฐบาลอาจไปยุ่งเหยิงกับคดีเขากระโดงและฮั้วสว.นั้น นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า คดีเขากระโดงและฮั้ว สว.ไม่ใช่หน้าที่หลักของรัฐบาล หน้าที่หลักของรัฐบาลคือเอาประชาชนเป็นหลักให้ประชาชนกินดีอยู่ดี นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลควรจะทำ แต่การที่จะไปยุ่งเรื่องเขากระโดงและฮั้วสว.ไม่ใช่หน้าที่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลควรที่จะสนใจ คือทำอย่างไรให้เศรษฐกิจดีขึ้น วันนี้มันแย่จริง ๆ ภาคการท่องเที่ยวก็ตกลงเยอะ จึงอยากให้รัฐบาลเน้นตรงนี้ดีกว่า เรื่องฮั้วสว.เรื่องเขากระโดงมีคนที่ทำหน้าที่อยู่แล้วไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล
เมื่อถามย้ำว่าสังคมยังกังวลใจว่ารัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงหน่วยงานที่รับผิดชอบ จนทำให้การแถลงนโยบายครั้งนี้อาจมีการอภิปรายเรื่องนี้ด้วย นายพิสิษฐ์ ระบุว่า เรื่องแทรกแซงคดีรัฐบาลก่อนหน้านี้ก็แทรกแซงอยู่แล้ว ทุกวันนี้สิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล เช่นการเอา DSI ไปแทรกแซงทั้งๆ ที่ไม่ไปดูความมั่นคงเป็นหลัก
อย่างนี้ไม่เรียกว่าแทรกแซงหรือ แทรกแซงชัดเจน เรื่องฮั้ว สว. ก็เป็นหน้าที่ของ กกต. แต่กลับเอาหน่วยงานในกำกับไปแทรกแซงการทำงาน นี่เรียกว่าแทรกแซงเต็มๆ.-312.-สำนักข่าวไทย