ทำเนียบ 29 ก.ค.-ศบ.ทก. ยันไทยทำตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิงเคร่งครัด ยึดสัญญา 2 ฝ่าย แต่กัมพูชาละเมิด จำเป็นต้องโต้กลับ เพื่อรักษาอธิปไตย ระบุคุม 11 พื้นที่ไว้ได้ เตือนระวังการโจมตีทางไซเบอร์
พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ด้านความมั่นคง แถลงผลการประชุม วันนี้ว่า หลังมีข้อตกลงที่จะหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา 24.00น. ของวันที่ 28 ก.ค.ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยหยุดยิงทุกพื้นที่ ตามกำหนดเวลา ยึดมั่นในคำมั่นสัญญา ที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายให้ไว้ แต่ได้พิสูจน์ทราบว่าทางกัมพูชายังคงยิงเข้ามาฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ในหลายจุดซึ่งถือเป็นการกระทำที่จงใจละเมิดข้อตกลง และทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน การกระทำของกัมพูชาดังกล่าวทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้อง มีมาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิป้องกันตนเองของกฎหมายระหว่างประเทศ โดยฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่ใช้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน
พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวอีกว่ายังพบว่าทางฝั่งกัมพูชาใช้โบราณสถานเป็นโล่กำบัง ซึ่งเป็นการละเมิดพันธกรณีในการละเมิด คุ้มครอง วัฒนธรรม ของสหประชาชาติ หรือภายใต้อนุสัญญาของยูเนสโกอีกด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นที่ปรากฏชัดว่ายังมีการละเมิดและไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ให้กันไว้ จึงขอโอกาสประนาม การกระทำของฝ่ายกัมพูชา
พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ที่ไทยสามารถควบคุมไว้ได้มี 11 พื้นที่ ตั้งแต่เวลา 6.00น. ของวันนี้ ได้แก่พื้นที่ภูมะเขือ ช่องอานม้า ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย แนวเขตแดนช่องบก โดนตวล สัตตะโสม ช่องจอม ช่องสายตะกู เขาพระวิหาร พลาญยาว
สำหรับผู้อพยพ มีทั้งสิ้น 188,729 คน โดยมีพลเรือนได้รับผลกระทบเสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บสาหัส 12 คน บาดเจ็บปานกลาง 13 คนและบาดเจ็บเล็กน้อย 13 คน รวมทั้งสิ้น 53 คน ปัจจุบันยอด ผู้ได้รับบาดเจ็บแอดมิดอยู่โรงพยาบาล 14 ราย ขณะที่สถานพยาบาลได้รับผลกระทบ 20 แห่ง ปิดบริการ 13 แห่ง ปิดบางส่วน 7 แห่ง ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้รับผลกระทบ 175 แห่ง
พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่า สำหรับข้อตกลงหยุดยิงของทั้งสองฝ่าย ที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวานนี้ ช่วงเช้าทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือในระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ และขอเน้นย้ำว่าไม่ใช่การประชุม RBC เพื่อกำหนดกรอบแนวทางปฏิบัติหลังเจรจาหยุดยิงแล้ว โดยมีกรอบหารือ 5 เรื่องคือการหยุดยิง การห้ามยิงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ หยุดการเพิ่มเติมกำลัง และห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง ส่วนแนวทางการ อำนวยความสะดวก ส่งกลับผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต ตลอดจนผู้ถูกควบคุม จะนำสู่การหารือให้ได้เข้ายุติร่วมกัน
พลเรือตรีสุรสันต์ ยังกล่าวถึงการเฝ้าระวังการโจมตีทางไซเบอร์เป็นประเด็นสำคัญ เพราะที่ผ่านมามีการโจมตีทางเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มีการใช้ AI โจมตีอยากฝากประชาชนใช้วิจารณญาณในการแชร์ข้อมูลข่าวสาร รวมถึง Report หรือรายงานให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย