“นันทนา” โดดขวางอีกรอบเลือก “กกต.-ตุลาการศาล รธน.” ทำประท้วงวุ่น

รัฐสภา 22 ก.ค.-“นันทนา” โดดขวางอีกรอบเลือก “กกต.-ตุลาการศาล รธน.” ทำประท้วงวุ่น “สว.อมร” ถามพบแพทย์ไหม หลังอภิปรายวนเวียนซ้ำซาก ขณะ “สว.วุฒิพงษ์” แฉมีคำสั่งให้เลือกคนเดียว ตีตกอีกคน ประชุมลับก่อนลงมติ

การประชุมวุฒิสภา​ ที่มีพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม เดินหน้าพิจารณาวาระสำคัญคือการลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คนและกรรมการการเลือกตั้ง 1 คน หลังจากที่คณะกรรมาธิการสามัญทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วุฒิสภา ได้เสนอรายงานผลการตรวจสอบประวัติฯ โดยเป็นการพิจารณาลับ​ก่อนที่จะลงมติ


ทั้งนี้​ ในตำแหน่งตุลาการ​ศาล​รัฐธรรมนูญ​ จะเป็นการลงมติ​ 2 รายชื่อ คือ​ ศาสตราจารย์ร้อยตำรวจเอกสุธรรม เชื้อประกอบกิจ อาจารย์สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สังกัดคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล​ ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาฯ​ ในสาขาผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า​ 5 ปี เพื่อมาแทน ศ.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธาน​ ศาล​ รธน.

อีกหนึ่งคน คือ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อดีตอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และอดีตอธิบดีกรมทางหลวง ที่ผ่านการคัดเลือกในสาขา ผู้ทรงคุณวุฒิที่รับหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า หรือตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอัยการสูงสุดมาแล้วไม่น้อยกว่า​ 5 ปี เพื่อมาแทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่พ้นจากตำแหน่งเพราะอยู่ครบวาระ


โดยนางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย ว่าการอภิปรายของตนหวังว่าจะไม่ได้รับการขัดขวางจากสมาชิกเพราะกำลังใช้เอกสิทธิ์ของการเป็นสว.รักษาผลประโยชน์ของประชาชนผู้จ่ายเงินเดือนให้กับสว.ทุกคนในที่นี้ ก่อนที่จะ หยิบยกการพิจารณา ของคณะกรรมการไต่สวนและสืบสวนของ กกต.ชุดที่ 26 และ DSI ที่มีการพิจารณาคดีฮั้วเลือกสว. จำนวน 229 ราย ซึ่งเป็นสว.ถึง 138 ราย เกือบ 3 ใน 4 ของสว.ทั้งสภา ขณะนี้สำนวนอยู่ในมือกกต.และจะส่งฟ้อง ศาลอาญาแผนกคดีเลือกตั้งต่อไป แต่ในวันนี้สมาชิกวุฒิสภาทุกคนจะลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งกกต.นี่ไม่ขัด กันเกินไปกับคดีที่กำลังเป็นผู้ถูกกล่าวหาอยู่หรือ

“ท่านไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือหากกกต.พิจารณาคดีฮั้วสวเป็นคุณกับท่าน ประชาชนจะรู้สึกอย่างไรแล้วกระบวนการยุติธรรมในประเทศนี้ยังมีอยู่หรือหากเป็นเช่นนั้นแล้วองค์กรอิสระจะยังเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้อีกหรือขณะเดียวกันท่านก็จะลงมติเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 2 ตำแหน่งที่ว่างลง แต่ก็ใช้ตำแหน่งสวเป็นผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่านายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรมอย่างร้ายแรง ร้องว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก้าวก่ายแทรกแซงในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสว.และขอให้บุคคลเหล่านี้หยุดปฏิบัติหน้าที่ลงชั่วคราว แต่สมาชิกวุฒิสภาทุกคนที่ถูกกล่าวหาจากคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่บางหรือ” นางสาวนันทนา กล่าว

โดยในระหว่างที่ น.ส.นันทนา กำลังอภิปรายอยู่ ได้มีสมาชิกวุฒิสภาลุกขึ้นประท้วง โดยระบุว่าเป็นการอภิปรายซ้ำซากเนื่องจากเมื่อวานนี้ ได้มีการประชุมลับในเรื่องนี้ไปแล้ว ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่าการอภิปรายของนางสาวนันทนา ยังไม่เข้าข่ายเกี่ยวกับการชะลอการเลือกองค์กรอิสระ


จากนั้นนางสาวนันทนา อภิปรายต่อว่า ตนถามว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะเลือกตุลาการไปตัดสินคดีที่ มีส่วนได้เสียคู่กรณีจะคิดอย่างไร ประชาชนจะคิดอย่างไรนี่เป็นการจงใจที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวหรือไม่ ดังนั้นเหมาะสมแล้วหรือที่จะทำหน้าที่ลงมติเกี่ยวกับองค์กรอิสระทั้งหลาย ดังนั้นเพื่อป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์และเพื่อความสง่างามแห่งวุฒิสภาสว. ทั้งหลายควรยุติการลงมติใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ คดีฮั้วสว.แม้ว่าตนเองและสว. อิสระ จำนวน 62 คนจะไม่ได้เป็นผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาแต่เพื่อความสง่างามแห่งวุฒิสภาอิสระทั้งหมดยินดีที่จะสละเอกสิทธิ์

จากนั้นสมาชิกวุฒิสภาหลายคนได้มีการลุกขึ้นประท้วงนางสาวนันทนาเนื่องจากประเด็นที่อภิปรายมีความซ้ำซากบุคคล และได้มีการพูดคุยกันไปแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งมาติดที่ประชุมใหญ่ก็ให้เดินหน้าโหวตเลือกกรรมการองค์กรอิสระ ดังนั้นจึงไม่ควรหยิบยกประเด็นนี้มาพูดอีก

ขณะที่หนึ่งในผู้ประท้วงนางสาวอมร ศรีบุญนาค สว.ประท้วงประธาน ว่าวันนี้ประธานแข็งน้อย อยาก ให้ประธานแข็งมากกว่านี้ ตนฟังเรื่องนี้มาทุกวัน คิดว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว สมาชิกวุฒิสภาหลายคนเป็นบุคลากรทางการแพทย์ คนที่ฟังซ้ำๆพูดซ้ำๆ ควรไปปรึกษา

จากนั้นนางสาวนันทนาได้ใช้สิทธิ์พาดพิง ว่าตนเองผิดจริยธรรมโดยมองว่าสว.คน คนที่กล่าวหาตนเอาตนเองเป็นเกณฑ์หรือไม่ ข้อกล่าวหาแบบนี้รุนแรงและไม่เหมาะสมไร้จริยธรรมโดยสิ้นเชิง และตนก็จะดำเนินการหากมีการกล่าวหาตนเองต่อหน้าที่ประชุมแบบนี้ไม่ยอมและไม่สยบยอม และเมื่อนางสาวนันทนาเริ่มอภิปรายในเรื่องเดิมต่อประธานในที่ประชุมจึงขอวินิจฉัยว่านางสาวนันทนา อภิปรายเรื่องเดิมซ้ำซาก และไม่อนุญาตให้อภิปรายต่อ ทำให้มีสมาชิกวุฒิสภาประท้วง และผู้อภิปรายต้องการที่จะอธิบายต่อ จนเกิดความวุ่นวาย ประธานในที่ประชุมจึงปิดไมค์ทั้งผู้ประท้วงและผู้อภิปราย ก่อนที่จะบอกให้นางสาวนันทนานั่งลง และดำเนินการให้สว.อภิปราย ตามระเบียบวาระต่อ

โดยนาวาตรีวุฒิพงษ์ พงษ์สุวรรณ สว. ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า ผู้ที่ได้รับการสรรหาเป็นคนดีทั่ง 2 คน เพราะมีความรู้ความสามารถผ่านการสรรหามาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้รับข่าวสารมาว่า มีคำสั่งให้เลือกคนใดคนหนึ่ง ทั้งนี้ส่วนตัวก็สนิทกับประธานสรรหา คบกันมาเป็น 10 ปี แต่วันนี้อาจจะไม่คบกันแล้ว ย้ำว่า ในยุคปัจจุบัน เมื่อทำอะไรไปแล้วย่อมถูกตรวจสอบโดยประชาชนและบุคคลอื่นๆ ซึ่งหากมีจิตใจที่โปร่งใส มีหิริโอตัปปะ ก็ไม่เป็นอะไร ดังนั้นขอให้ สว. ทุกคนอ่านให้ละเอียด ก่อนจะลงคะแนนในสิ่งที่ควร

นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. อภิปรายว่า สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักคือหลักเรื่องของความ ที่ยังไม่ได้มีการตัดสิน ต้องมองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะมีโอกาสตัดสินผิด จะไปลงโทษก่อนตัดสินเป็นเรื่องที่ไม่ควร ขณะที่ เห็นว่า การยอมให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI องค์กรอยู่ใต้กำกับกระทรวงยุติธรรม มาดำเนินการ บีบคั้นองค์กรอื่นในการทำงาน เป็นเรื่องเข้าข่ายแทรกแซง ซึ่งตามหลักการ ต้องการแก้การตรวจสอบ คือให้องค์กรอิสระเป็นผู้ตรวจสอบ สส. สว.

“วันนี้เราอาจจะสะใจ แต่วันข้างหน้าอาจเป็นคนที่โดน ต่อไปการตรวจสอบการได้มาซึ่งสส.อาจจะไม่ต้องใช้กกต.ใช้ DSI ตรวจสอบไม่ต้องมีแล้วกกต. แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบ ผมไม่ได้ปฏิเสธอำนาจของสว. แต่ การให้ความเห็นชอบตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญแต่สว. 92 คนเป็นผู้ร้อง พันตำรวจเอกทวี สอดส่องและนายภูมิธรรมเวชยชัย” นายเทวฤทธิ์ กล่าว

จากนั้นก็ได้มีสมาชิกวุฒิสภาลุกขึ้นอภิปรายอย่างกว้างขวางและเริ่มพิจารณารายงานที่เป็นรายงานลับต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย