ศธ. 25 ก.ค. – สพฐ.ร่วมเยียวยานักเรียน-ครู ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ปิด 751 โรงเรียนพื้นที่เสี่ยง
วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด ตนเองได้รับรายงานจากนางรัตติกร ทองเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (ผอ.สพม.) ศรีสะเกษ ยโสธร ว่า หลังเกิดเหตุปะทะทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ได้ให้โรงเรียนในสังกัดที่ติดขอบชายแดนไทย-กัมพูชา ทำการอพยพนักเรียนและปิดการเรียนการสอนอย่างเร่งด่วน พร้อมกำชับสถานศึกษาในสังกัดทุกแห่งให้สอดส่องความปลอดภัยของนักเรียน และดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สั่งการกำชับไว้
อีกทั้งเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เมื่อวานนี้ (24 ก.ค.) ฝ่ายกัมพูชาได้ยิงกระสุนปืนใหญ่ตกใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านน้ำเย็น อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.3 ด้วย กระทรวงศึกษา โดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงมีข้อสั่งการให้ดำเนินการเร่งเยียวยาโดยด่วน ทั้งในระยะสั้น (ภายใน 7–30 วัน) ป้องกันไม่ให้เด็กหลุดจากระบบการศึกษา และเยียวยาจิตใจในช่วงอพยพ รวมถึงในระยะยาว (ภายใน 3–12 เดือน) เพื่อฟื้นฟูโอกาสทางการศึกษาในเขตชายแดน และเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุซ้ำ ซึ่ง สพฐ.จะร่วมเยียวยาครอบครัวนักเรียนที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าว ได้รับรายงานว่า มีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ปิดเรียนแล้ว จำนวน 751 โรงเรียน ได้แก่ สพป.อุบลราชธานี เขต 5 ปิด 95 โรงเรียน สพม.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ปิด 4 โรงเรียน สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ปิด 45 โรงเรียน สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 ปิด 132 โรงเรียน สพม.ศรีสะเกษ ปิด 12 โรงเรียน สพป.บุรีรัมย์ เขต 2 ปิด 47 โรงเรียน สพป.บุรีรัมย์ เขต 3 ปิด 34 โรงเรียน สพม.บุรีรัมย์ ปิด 4 โรงเรียน สพป.สุรินทร์ เขต 3 ปิด 233 โรงเรียน สพม.สุรินทร์ ปิด 25 โรงเรียน สพป.สระแก้ว เขต 1 ปิด 27 โรงเรียน สพป.สระแก้ว เขต 2 ปิด 71 โรงเรียน สพม.สระแก้ว ปิด 7 โรงเรียน และสพป.จันทบุรี เขต 2 ปิด 15 โรงเรียน (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00 น.)
“พร้อมกันนี้ ผู้บริหาร สพฐ. และผู้บริหาร สพท. จะลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์อย่างเร่งด่วน โดยประชุมหารือเพื่อแจ้งแนวปฏิบัติการจัดการเรียนการสอนหลังจากนี้ ตลอดจนแจ้งให้ผู้ปกครองรับทราบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ สพฐ. ได้แจ้งกำชับ สพท. และสถานศึกษาทุกแห่งในเขตพื้นที่จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ ตราด จันทบุรี สระแก้ว อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ให้เตรียมวางแผนหารูปแบบการจัดการศึกษาร่วมกับคุณครูและผู้ปกครอง เพื่อให้เหมาะสมกับนักเรียน และให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุและแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด พร้อมเฝ้าระวังผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเตรียมพร้อมใช้พื้นที่ของโรงเรียนที่ปลอดภัยเป็นศูนย์พักพิงหรือให้ความช่วยเหลือชั่วคราวแก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว. -416-สำนักข่าวไทย