กกต. 21 ก.ค.- “ทนายอั๋น” บุก กกต. แฉพิรุธ “คดีหุ้นสื่อพิธา” เร่งรีบ 3 วัน ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาด ปูด ‘ฐ.ฐาน’ หนึ่งในกกต. คุมเอง มองล็อกเป้า ไม่ทำตามกฎหมายที่ตัวเองร่างมา
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น แถลงข่าวกรณีพิรุธการดำเนินคดีการถือครองหุ้นไอทีวีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยเปิดเผยว่า ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบ กกต. ที่ตนเองร่างขึ้นมา แต่เป็นการล็อกเป้าตามใบสั่ง ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นการช่วยนายพิธา หรือช่วยพรรคก้าวไกล เพราะคดีถือครองหุ้นสื่อศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยนายพิฐาไม่เข้าข่ายถือครองหุ้นสื่อนายพิธาถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากร่วมลงชื่อในการแก้ไขประมวลกฎหมายมาตรา 112 จนนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล
นายภัทรพงศ์ ได้นำแผนผังมาประกอบการแถลงข่าว โดยระบุว่า คดีหุ้นสื่อของนายพิธาเริ่มต้นจาก นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ไปยื่นคำร้องต่อ กกต. 2 ครั้ง และ กกต.เชิญเข้าให้ถ้อยคำ 1 ครั้ง และตนเองได้ยื่นคัดค้าน 3 ครั้ง สุดท้าย กกต. ก็ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนไต่สวนจำนวน 3 คน ซึ่งมีบุคคลอักษรย่อ “ม.ม้า” เป็นหัวหน้าชุด โดยได้มีการไปรวบรวมพยานหลักฐานข้อเท็จจริง และลงพื้นที่ รวมถึงมีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่าพบว่าไอทีวีไม่มีสถานะเป็นสื่อและมีคลิปเสียงของผู้บริหาร ได้ชี้แจงต่อข้อสงสัยผู้ถือหุ้นว่าไอทีวี ไม่มีสถานะเป็นสื่อ รอการปรับโครงสร้าง ซึ่งคณะอนุกรรมการใช้เวลาสืบสวนไต่สวนเป็นเวลา 2 เดือน ท้ายที่สุดทำความเห็นเสนอให้ยกคำร้อง และส่งความเห็นดังกล่าวให้กับ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง
ซึ่งพฤติกรรมของนายแสวงในกรณีนี้ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เนื่องจากขณะนั้นประชาชนจับตาคดีหุ้นสื่อของนายพิธา ซึ่งนายแสวงได้เสนอไปยัง กกต.ชุดใหญ่ โดยมี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธาน และเป็นที่จับตาคือ “นาย ฐ.ฐาน” ซึ่งเป็นหนึ่งใน กกต. ลงมาควบคุมดูแล ตั้งแต่กระบวนการสืบสวนไต่สวนหาข้อมูลพยานหลักฐาน แต่คณะที่มี ”นาย ม.ม้า“ เป็นหัวหน้าชุดไม่สนใจ ท้ายที่สุด กกต. มีธงอยู่แล้วว่าจะไม่รับเรื่อง จึงส่งให้ “นาย ฐ.ฐาน” ตั้งคณะอนุตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีคณะทำงาน 7 คน มี ”นาย ช.ช้าง” เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งไม่มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม ไม่ลงพื้นที่ ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเลยจากชุดที่ นาย ม.ม้า เคยดำเนินการ
“ไม่มีข้อมูลเพิ่มเลยจากชุดพี่ ม.ม้า รวบรวมพยานหลักฐานอยู่หลายเดือน ทำงานตั้งแต่ตี 1 ตี 2 ทุกวัน ไม่มีหลักฐานเพิ่มไปหยิบเอาสำนวนหลักฐานจากชุด นาย ม.ม้า ท้ายที่สุดใช้เวลาเพียงแค่ 3 คืน ส่งให้พี่แหวง อย่างที่บอกพี่แหวงไม่กล้าอยู่แล้ว พี่แหวงก็เลยส่งให้ กกต. และส่งศาลรัฐธรรมนูญ รวมแล้วใช้เวลา 3 วัน” นายภัทรพงศ์ กล่าว
นายภัทรพงศ์ ยังกล่าวว่า มีคนบอกว่า ทนายอั๋นใส่ความ กกต. ถึงคิวที่กกต. จะดำเนินการกลับจะฟ้องหมิ่นประมาท กรณีนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ คนอย่างตนเองไม่ได้โง่ขนาดนั้น คนอย่างทนายอั๋นแม้กล้าหาญ ใจกล้า แต่ไม่ได้โง่ ที่ตนเองพูดมาทั้งหมดอยู่ในคำพูดของ นายม.ม้า ซึ่งมีอยู่ในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่มีผู้ไปร้องเอาผิดคณะกรรมการการเลือกตั้ง และนายแสวง รวม 8 คน ว่าทุจริตในคดีการดำเนินคดีหุ้นส่วนของนายพิธา ซึ่งมีอยู่ในถ้อยคำของ นายม.ม้า ที่เบิกความให้การต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และศาลมีดุลพินิจไม่ให้นายพิฐาไปเป็นพยาน โดยให้นายพิธาไปดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายเอง ซึ่งคดีนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างศาลอุทธรณ์จะมีการอ่านคำพิพากษา คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนหน้า
นอกจากนี้ นายภัทรพงศ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ตนเองกำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการทุจริตของ กกต.
ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. ได้ส่งตัวแทนมามอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจให้กับนายภัทรพงศ์ในการต่อสู้คดีฮั้วเลือก สว. รวมถึงคดีทางการเมืองต่าง ๆ 314-สำนักข่าวไทย