กทม.ลุยพัฒนาทางเท้า-ทางจักรยานเลียบแสนแสบ

7 ก.ค. – กทม. ลุยพัฒนาทางเท้า-ทางจักรยานเลียบแสนแสบ ระยะทาง 47.5 กิโลเมตร จากพระนครถึงหนองจอก ส่งเสริมคนกรุงเทพฯ เดิน-ปั่น เชื่อมระบบขนส่งสาธารณะแบบไร้รอยต่อ เรือ รถเมล์ รถไฟฟ้า


นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมสื่อมวลชนสัญจร ลงพื้นที่ทางเดินเลียบคลองแสนแสบ ท่าเรือวัดใหม่ช่องลม – ท่าเรือ มศว ประสานมิตร แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการส่วนขยายจุดเชื่อมต่อเส้นทางจักรยานเลียบคลองแสนแสบ ที่มีเป้าหมายในการเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางของประชาชนตลอดแนวคลองแสนแสบ รวมถึงส่งเสริมการใช้จักรยานและการเดินเท้าเป็นทางเลือกในการสัญจรในเมืองอย่างยั่งยืน โดยมี นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ นายสมบัติ เครือกีรติธรรม ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง นายนิพนธ์ ศรีเรือง ผู้อำนวยการกองระบบคลอง สำนักการระบายน้ำ สำนักงานจัดการคุณภาพน้ำ สำนักการระบายน้ำ ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการทางเดินและทางจักรยานเลียบคลองแสนแสบ โดยคลองแสนแสบมีความยาวทั้งหมด 47.5 กิโลเมตร ตามนโยบายนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต้องการพัฒนาทางเดินเลียบคลองต่าง ๆ ให้เดินได้สะดวก ถ้าปั่นจักรยานได้ก็จะเป็นทางเลือกในการเดินทางอีกอันที่ดี ซึ่งคลองแสนแสบเป็นคลองที่มีความสำคัญ เป็นคลองสายหลักที่ใช้เราใช้ระบายน้ำและใช้สัญจร ทั้งนี้ จะทำอย่างไรให้การสัญจรจากท่าเรือไปที่บ้านเรือน สถานที่ต่าง ๆ สะดวกมากขึ้น ทางจักรยานก็เป็นทางเลือกหนึ่ง จากการพัฒนาทางเดินเลียบคลองแสนแสบเป็นนโยบายที่ทำมาต่อเนื่อง รวมความยาวที่ต้องดำเนินการทั้ง 2 ฝั่ง 95 กม. ทำแล้ว 60 กม. อยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จภายในปี 68 นี้ ความยาว 4.7 กม. ได้งบประมาณแล้วปี 2568 อยู่ระหว่างการหาตัวผู้รับจ้างความยาวประมาณ 12 กม. ส่วนที่เหลือที่จะทำให้ครบตลอดแนวคลองแสนแสบคือจากผ่านฟ้าลีลาศถึงเขตหนองจอก (สุดเขตกรุงเทพมหานคร) ก็จะดำเนินการของบประมาณต่อไป และเส้นทางสายหลักด้านในจะทำให้ครบและจบภายในปี 2569


รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน เรื่องคุณภาพน้ำ เราดำเนินการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเพิ่มเติมขึ้นมา จากเดิมที่คุณภาพคลองแสนแสบน้ำได้ระดับหนึ่ง แต่ทำให้ดีกว่าเดิมได้ โดยเก็บน้ำเสียจากทั้ง 2 ฝั่ง จากเขตวัฒนาและเขตห้วยขวางลงสู่โรงบำบัดน้ำเสียส่วนกลางที่เขตดินแดง นอกจากนี้ ด้านการพัฒนาเราพยายามออกแบบให้เป็นไปตามหลัก Universal Design ให้ได้มากที่สุด ทางเดินเลียบคลองจะมีคูน้ำหรือคลองย่อย ก็ดำเนินการทำสะพานและทำทางลาดที่ทำให้รถเข็นและจักรยานสามารถใช้งานได้ โดยมอบหมายให้สำนักการระบายน้ำแก้ไขปรับปรุงสะพานข้ามคลองย่อยต่าง ๆ ให้เป็นมิตรต่อการเดินทาง และทุกทางเดินริมคลองไม่ใช่เฉพาะริมคลองแสนแสบ เรื่องไฟฟ้าแสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไปตามนโยบาย ‘กรุงเทพฯ ต้องสว่าง’ รวมถึงจะมีการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมซึ่งอยู่ระหว่างการขอรับงบประมาณ เพื่อทำให้ประชาชนมั่นใจว่าสามารถใช้เส้นทางนี้ได้อย่างปลอดภัย

“ต้องขอบคุณสำนักงานเขต เพราะต้องเป็นผู้ลงพื้นที่ขอความร่วมมือกับชุมชนที่อยู่ 2 ฝั่งริมคลอง พร้อมทำความเข้าใจว่าการพัฒนาครั้งนี้จะทำให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมขนดีขึ้น และแม้ในระหว่างการก่อสร้างจะเผชิญกับอุปสรรคบ้าง เนื่องจากคลองแสนแสบเป็นทั้งคลองที่ใช้ในการระบายน้ำและเส้นทางสัญจรที่มีเรือจำนวนมาก อีกทั้งริมคลองยังเป็นพื้นที่ชุมชนมีผู้อาศัยเป็นจำนวนมากที่อาจได้รับผลกระทบจากเสียงดังระหว่างการทำงาน กรุงเทพมหานครได้วางแผนและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วน เพื่อจำกัดความเดือดร้อนและผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

สำหรับโครงการส่วนขยายจุดเชื่อมต่อเส้นทางจักรยานเลียบคลองแสน มีจุดมุ่งหมายหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และลดปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองแสนแสบควบคู่ไปกับการก่อสร้างทางเดินและทางจักรยาน ตั้งแต่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศไปจนถึงเขตหนองจอก ปลายสุดของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เป็นเส้นทางสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) พร้อมทางเดินและทางจักรยานแล้วเสร็จรวมระยะทางประมาณ 60,380 เมตร


ในส่วนของการดำเนินงานในปัจจุบัน อยู่ระหว่างการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และทางเดินพร้อมทางจักรยาน ความยาวประมาณ 4,720 เมตร ประกอบด้วย งานปรับปรุงขยายเขื่อน ค.ส.ล. คลองแสนแสบจากบริเวณถนนพระรามที่ 6 ถึงบริเวณสะพานเฉลิมหล้า โครงการก่อสร้างเขื่อนและปรับปรุงเขื่อน ค.ส.ล. คลองแสนแสบจากบริเวณทางด่วนเฉลิมมหานครถึงประตูระบายน้ำคลองตัน และโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำและประตูเรือสัญจรคลองแสนแสบตอนคลองบางชัน

ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครยังอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และทางเดินพร้อมทางจักรยาน ความยาวประมาณ 12,700 เมตร ในสองช่วง ได้แก่

  1. โครงการก่อสร้างเขื่อนและปรับปรุงเขื่อน ค.ส.ล. คลองแสนแสบจากบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงบริเวณทางด่วนเฉลิมมหานคร
  2. โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. พร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบ (ระยะที่ 1) จากบริเวณซอยรามคำแหง 185 ถึงบริเวณซอยราษฎร์อุทิศ 37

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังมีแผนดำเนินการในระยะถัดไป โดยจะดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และทางเดินพร้อมทางจักรยาน ความยาวประมาณ 17,200 เมตร แบ่งออกเป็นสองโครงการสำคัญ ได้แก่

  1. โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. พร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบ (ระยะที่ 2) จากบริเวณซอยราษฎร์อุทิศ 37 ถึงซอยเลียบวารี 32
  2. โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. พร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบ (ระยะที่ 3) จากซอยเลียบวารี 32 ถึงถนนเชื่อมสัมพันธ์

โครงการ “ทางเท้าเลียบคลองพร้อมเลนจักรยาน” ถือเป็นนโยบายสำคัญของกรุงเทพมหานคร ภายใต้แผนพัฒนา “เดินได้ ปั่นปลอดภัย” ที่ริเริ่มจากเขตพระนครถึงเขตหนองจอก โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ริมคลองแสนแสบและคลองสายรองในเขตเมืองให้เป็นเส้นทางสำหรับการเดินเท้าและปั่นจักรยานอย่างปลอดภัย ครอบคลุมระยะทางรวมกว่า 47,500 เมตร หรือประมาณ 47.5 กิโลเมตร โดยในช่วงต้นของโครงการ ได้ดำเนินการก่อสร้างทางเท้าควบคู่กับแนวเขื่อนริมคลอง พร้อมติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง กล้องวงจรปิด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมีจุดเริ่มต้นที่เขตพระนครถึงเขตหนองจอก และแผนขยายต่อไปยังพื้นที่อื่น ๆ เช่น ลาดพร้าว พร้อมพงษ์ ท่าพระ และสามยอด เพื่อเชื่อมโยงกับระบบขนส่งสาธารณะ อาทิ รถไฟฟ้า MRT เรือ และ BTS ได้อย่างสะดวก ตั้งเป้าโครงการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2570 เพื่อสร้างเมืองที่ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และมีสุขภาวะที่ดีในระยะยาว

หลังจากการให้ข้อมูล เกี่ยวกับแผนการพัฒนาส่วนขยายจุดเชื่อมต่อเส้นทางจักรยานเลียบคลองแสนแสบ เพื่อให้ได้เห็นภาพมากขึ้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เดินเลียบคลองแสนแสบ ท่าเรือวัดใหม่ช่องลม – ท่าเรือ มศว ประสานมิตร แขวงบางกะปิ ที่ถือเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของเส้นทางริมน้ำในเขตกลางเมืองกรุงเทพฯ ไม่เพียงแต่ตั้งอยู่ใกล้กับย่านชุมชนแน่นหนาและสถาบันการศึกษาสำคัญอย่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดที่มีการสัญจรทางเรือหนาแน่นและเชื่อมต่อกับพื้นที่เศรษฐกิจและที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ
โดยเส้นทางนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็น ทางเดินเท้าและทางจักรยานเลียบคลอง ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน โดยมีการปรับปรุงผิวทางเดินให้เรียบเสมอ ติดตั้งราวกันตกในจุดเสี่ยง เพิ่มแสงสว่างตลอดเส้นทาง และจัดให้มีทางลาดสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ใช้รถเข็น สามารถใช้งานร่วมกันได้โดยไม่ถูกรบกวนจากการจราจรบนถนนหลัก

อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีความเงียบสงบกว่าพื้นที่ถนนภายนอก ทำให้เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเช้าและเย็น ประชาชนในพื้นที่จำนวนมากใช้เส้นทางนี้เป็นทางลัดระหว่างบ้าน ที่เรียน หรือที่ทำงาน และยังนิยมใช้ในการออกกำลังกาย เช่น เดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน โดยเฉพาะนักศึกษาและบุคลากรของ มศว ที่สามารถเดินเชื่อมถึงท่าเรือได้อย่างสะดวก

ตลอดการดำเนินโครงการ กรุงเทพมหานครได้เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการออกแบบพื้นที่ จุดเชื่อมต่อ ทางลาด ทางข้าม และพื้นที่พักผ่อนต่าง ๆ ตลอดแนวคลอง เพื่อให้เกิดการใช้งานจริงอย่างยั่งยืน โดยมีการประเมินผลตอบรับจากพื้นที่นำร่อง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกถึงความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นจากโครงสร้างทางเท้าและเลนจักรยานที่มีการจัดสรรอย่างเป็นระบบ. -417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก.​เผยไทยเตรียมประท้วง หากกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่

ทำเนียบ 18 ก.ค.-ศบ.ทก.​ ยัน​ไทยไม่เพิกเฉย​ เตรียมประท้วง หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่​ ผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​ ปี​ 2542 ทำ 3 ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน​ เผย​ผลหารือร่วม​ เหตุหญิงกัมพูชาทำวุ่นปราสาทตาเมือนธม​ คัดกรองเข้มนักท่องเที่ยว​ ส่งชุดประสานงานไทย-กัมพูชา ฝ่ายละ 7 คน ดูแลนักท่องเที่ยว ห้ามเรียกกำลังเพิ่ม​ หวังลดการเผชิญหน้า พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ โดยพลเรือตรีสุร​สันต์​ กล่าวชี้แจงกรณี พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในฐานะผอ.ศบ.ทก​ ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด​ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก​ จังหวัดอุบลราชธานี โดยทหารทั้ง 3 นาย​ อยู่ในสภาวะขวัญและกำลังใจที่ดีเยี่ยม ปัจจุบันได้ดูแลอย่างใกล้ชิดจากคณะแพทย์ เป็นไปตามมาตรฐาน​ และทันท่วงทีจนอาการทั้ง 3 นายอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย สำหรับพลทหารที่เหยียบกับระเบิดจนทำให้ขาด้านซ้ายขาด กองทัพภาคที่ 2 […]

นักท่องเที่ยวหลั่งไหลชมปราสาทตาเมือนธมคึกคัก

สุรินทร์ 18 ก.ค. – นักท่องเที่ยวสองประเทศยังหลั่งไหลไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ รวมทั้งให้กำลังใจทหารแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเศรษฐกิจท้องถิ่นคึกคัก ขณะที่ตำรวจพร้อมดำเนินคดีหญิงกัมพูชาด่าทหารไทย ด้านนายอำเภอพนมดงรัก ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างหลุมหลบภัย ยันพยายามจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด ทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศทยอยเข้ามามอบสิ่งของบำรุงขวัญทหารแนวหน้า และเข้าไปเที่ยวชมภายในตัวปราสาทอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศดูคึกคักตั้งแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวฝ่ายกัมพูชามีกลุ่มวัยรุ่นหัวเกรียน คนหน้าเดิม เข้ามาเป็นประจำ ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย คล้ายๆ กับการจัดตั้ง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยล้วนเข้ามาด้วยความสมัครใจ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นโรดม แพน โมนิก้า หญิงกัมพูชาที่ชี้หน้าด่าและไล่ทหารไทย จะกลับเข้าพื้นที่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมรับสถานการณ์แล้ว ภายใต้ข้อตกลงที่มีร่วมกันจากเหตุดังกล่าวว่าให้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุความวุ่นวายซ้ำรอยเดิม ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้รับการเปิดเผยจากพันตำรวจเอก นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการ สภ.พนมดงรัก ว่ามีคนแจ้งความดำเนินคดีนโรดม แพน โมนิก้า แล้ว ซึ่งตำรวจพร้อมเดินหน้าสะสางคดี เพื่อเป็นการยืนยันเขตอธิปไตยไทยด้วย การเข้าพื้นที่ของนักท่องเที่ยวจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นของ อ.พนมดงรัก พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งเต็นท์ขายสินค้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น เสื้อยืดสกรีน ภาพทหารพร้อมข้อความ […]

“แพทองธาร” เยี่ยมทหารบาดเจ็บ ยกย่องเป็นแบบอย่างกล้าหาญเสียสละ

อุบลราชธานี 18 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยรับมอบหมายจาก ครม. ให้เป็นตัวแทนร่วมคณะ “รมช.กลาโหม” เยี่ยมให้กำลังใจ 3 ทหารพราน ในเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดช่องบก ยกย่องเป็นแบบอย่างกล้าหาญเสียสละ ยัน “รัฐบาล – กองทัพ” รับผิดชอบดูแลกำลังพล ประชาชน พร้อมรักษาอธิปไตยไทย นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​วัฒนธรรม​ พร้อมด้วย พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าเยี่ยมให้กำลังใจทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิด ในพื้นที่ช่องบกอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยนางสาวแพทองธาร ได้สอบถามอาการพลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน กำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 พร้อมบอกว่า รัฐบาลจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไปมากกว่านี้ อะไรที่ทำได้ก็จะทำ พร้อมให้กำลังแม่ของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทราบว่า เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวตกใจ เพราะทหารคนดังกล่าวเพิ่งไปปฏิบัติงานในพื้นที่ จากนั้น นางสาวแพทองธาร และ พลเอกณัฐพล ได้เยี่ยมให้กำลังใจทหารอีก 2 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมรับฟังอาการ ว่า […]

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]